เนื้อร้อง ของ ฮอสท์-เว็สเซิล-ลีท

บทร้องฮอสท์-เว็สเซิล-ลีท ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ของพรรคนาซีในกรุงเบอร์ลินชื่อ แดร์อันกริฟฟ์ (Der Angriff) เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1929 โดยลงนามผู้แต่งเพลงว่า พลเอ็สอานิรนาม (Der Unbekannte SA-Mann) มีใจความดังนี้

ภาษาเยอรมันคำแปล
Die Fahne hoch! Die Reihen fest geschlossen!SA marschiert mit ruhig festem Schritt.Kam'raden, die Rotfront und Reaktion erschossen,Marschier'n im Geist in uns'ren Reihen mit.Die Straße frei den braunen Bataillonen.Die Straße frei dem Sturmabteilungsmann!Es schau'n aufs Hakenkreuz voll Hoffnung schon Millionen.Der Tag für Freiheit und für Brot bricht an!Zum letzten Mal wird nun Appell geblasen!Zum Kampfen steh'n wir alle schon bereit!Bald flattern Hitlerfahnen über Barrikaden.Die Knechtschaft dauert nur noch kurze Zeit!Die Fahne hoch! Die Reihen fest geschlossen!SA marschiert mit ruhig festem Schritt.Kameraden, die Rotfront und Reaktion erschossen,Marschieren im Geist in unseren Reihen mit.ธงอยู่สูงเด่น! แถวชิดติดกันอย่างแน่นหนา!เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าเยือกเย็นมั่นคงสหายของเรา ถูกแนวร่วมแดงและพวกศัตรูยิงวิญญาณพวกเขา ร่วมเดินเคียงข้างในแถวถนนเปิดโล่ง ให้กองพันเสื้อสีน้ำตาลถนนเปิดโล่ง ให้พลแห่งหน่วยพายุ!สวัสติกะ แบกความหวังของประชาชนนับล้านวันแห่งเสรี และขนมปังมาถึงแล้ว!สัญญาณออกศึก ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย!พวกเราทุกนาย เตรียมพร้อมออกศึกนั้นแล้ว!ธงของฮิตเลอร์ ได้โบกสะบัดเหนือถนนทุกสายพันธนาการ ไม่นานจะหมดสิ้นไป!ธงอยู่สูงเด่น! แถวชิดติดกันอย่างแน่นหนา!เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าเยือกเย็นมั่นคงสหายของเรา ถูกแนวร่วมแดงและพวกศัตรูยิงวิญญาณพวกเขา ร่วมเดินเคียงข้างในแถว

คำว่า "แนวร่วมแดง" (เยอรมัน: "Rotfront") ในที่นี้อ้างอิงถึงหน่วยร็อตฟรอนท์คัมป์แฟร์บุนด์ (เยอรมัน: Rotfrontkämpferbund) หรือ "สันนิบาตนักรบแนวร่วมแดง" ซึ่งเป็นกำลังกึ่งทหารของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเยอรมนี (KPD) เป็นเรื่องปกติที่หน่วยชตูร์มับไทลุง หรือเอ็สอา ของพรรคนาซีกับสันนิบาตนักรบแนวร่วมแดงจะเผชิญหน้าและสู้รบกันตามท้องถนนในเยอรมนีเวลานั้น ก่อนที่จะขยายวงกว้างเป็นการรบเต็มรูปแบบภายหลังปี ค.ศ. 1930 ส่วนคำว่า "พวกปฏิกิริยา" (เยอรมัน: "Reaktion") หมายถึงพรรคการเมืองแนวอนุรักษนิยมและรัฐบาลเยอรมันแนวเสรีนิยมประชาธิไตยในยุคสาธารณรัฐไวมาร์ ซึ่งได้พยายามกดดันหน่วยเอ็สอาหลายครั้งแต่ล้มเหลว คำว่า "Die Knechtschaft" ซึ่งในที่นี้แปลว่า "ความเป็นทาส" หมายถึงภาระผูกพันของเยอรมนีตามสนธิสัญญาแวร์ซาย ค.ศ. 1919 ซึ่งพรรคนาซีมองว่าทำให้เยอรมนีอยู่ในภาวะ "ความเป็นทาส"

บทร้องบางส่วนได้มีการแก้ไขหลังการตายของฮอสท์ เว็สเซิล ดังนี้

บทที่ 1 วรรคที่ 2SA marschiert mit mutig festem Schritt    เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าหนักแน่นมั่นคง
 SA marschiert mit ruhig festem Schritt    เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าเยือกเย็นมั่นคง
 
บทที่ 3 วรรคที่ 1Zum letzten Mal wird nun Appell geblasen!    สัญญาณออกศึก ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย !
 Zum letzten Mal wird Sturmalarm geblasen!    สัญญาณพายุ ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย !
 
บทที่ 3 วรรคที่ 3Bald flattern Hitler-fahnen über Barrikaden    ธงของฮิตเลอร์ กำลังจะสะบัดเหนือด่านกีดขวาง
 Bald flattern Hitler-Fahnen über allen Straßen    ธงของฮิตเลอร์ กำลังจะสะบัดเหนือทุกถนน
 Schon flattern Hitler-Fahnen über allen Straßen    ธงของฮิตเลอร์ ได้โบกสะบัดเหนือถนนทุกสาย

การแก้ไขคำว่า "Barrikaden" (แปลว่า ด่านกีดขวาง) สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของพรรคนาซีในช่วงปี ค.ศ. 1930 - 1933 ที่ต้องการแสดงว่าเป็นพรรคการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญที่ต้องการอำนาจรัฐโดยชอบด้วยกฎหมายมากกว่าเป็นพรรคปฏิวัติ

หลังมรณกรรมของเว็สเซิล ได้มีการเพิ่มเติมเนื้อร้องบทใหม่ซึ่งประพันธ์ขึ้นเป็นเกียรติแก่เว็สเซิล เนื้อร้องเหล่านี้เป็นที่นิยมร้องโดยหน่วยเอ็สอา แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อร้องฉบับทางการซึ่งใช้โดยพรรคหรือรัฐ

Sei mir gegrüßt, Du starbst den Tod der Ehre!Horst Wessel fiel, doch tausend neu erstehenEs braust das Fahnenlied voran dem braunen HeereSA bereit, den Weg ihm nachzugehenDie Fahnen senkt vor Toten, die noch lebenEs schwört SA, die Hand zur Faust geballtEinst kommt der Tag, da gibts Vergeltung, kein Vergebenwenn Heil und Sieg durchs Vaterland erschallt.เราขอเคารพ ท่านตายด้วยเกียรติสูงส่ง!ฮอสท์ เว็สเซิลสิ้น อีกนับพันจักเกิดก่อใหม่เพลงธงดังกังวาน นำทางกองทัพสีน้ำตาลไปเอ็สอาพร้อมใจ ติดตามแนวทางของท่านธงลดต่ำลง ต่อหน้าคนตายผู้ยังมีลมหายใจเอ็สอาปฏิญาณ มือนั้นกุมหมัดไว้แน่นวันนั้นจักต้องมาถึง เพื่อล้างแค้น ไร้คำว่าอภัยเมื่อคำว่า "ไฮล์" และ "ซีก" (ซีก ไฮล์ - ชัยชนะจงเจริญ) ดังทั่วปิตุภูมิ