เจนนิเฟอร์ ชเรเดอร์ ลอว์เรนซ์ (
อังกฤษ: Jennifer Shrader Lawrence, เกิด 15 สิงหาคม ค.ศ. 1990)
[1] เป็น
นักแสดง
ชาวอเมริกัน ได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักแสดงหญิงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลกในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2015–2016
[2] และได้รับเลือกจาก
ไทม์ให้เป็นอยู่ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี ค.ศ. 2013 และได้รับการจัดอันดับโดย
ฟอบส์ให้อยู่ใน 100 บุคคลผู้ทำเงินได้สูงที่สุดในโลก ประจำปี ค.ศ. 2014 และ ค.ศ. 2016 นอกจากนี้ยังเคยได้รับการโหวตให้เป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกโดย
เอฟเอชเอ็มในปี ค.ศ. 2014
[3]เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เริ่มต้นการเป็นนักแสดงจากการแสดงละครของ
โบสถ์คริสต์เมื่ออายุประมาณ 9 ปี จากนั้นได้เริ่มเล่น
ละครเพลงของโรงเรียน จนกระทั่งเมื่ออายุ 14 ปี เธอได้รับการจับตามองจากแมวมองในขณะที่เธอไปเที่ยวกับครอบครัวที่
นิวยอร์ก และได้เซ็นสัญญาก่อนจะย้ายไปอยู่ที่
ลอสแอนเจลิส โดยหลังจากย้ายมาที่ลอสแอนเจลิสเธอเริ่มมีบทบาทเป็นตัวประกอบเล็กๆของรายการโทรทัศน์ ก่อนที่จะได้รับบทบาทเป็นนักแสดงนำในละคร
ซิตคอม Bill Engvall Show ทางสถานีโทรทัศน์ TBS (ค.ศ. 2007–2009) จากนั้นได้แสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในบทบาทนักแสดงสมทบหญิงในเรื่อง Golden Party (ค.ศ. 2008) และได้บทบาทนักแสดงนำในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกจากภาพยนตร์แนวดรามาเรื่อง The Poker House (ค.ศ. 2008) ที่เธอแสดงร่วมกับ
โคลอี เกรซ มอเรตซ์ในวัยเด็ก จากผลงานการแสดงในเรื่องนี้ทำให้เธอเริ่มได้รับความสนใจในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดมากขึ้น จากนั้นเธอได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Burning Plain (ค.ศ. 2008) ร่วมกับนักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่าง
ชาร์ลีซ เทรันและ
คิม เบซิงเงอร์ ซึ่งแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้แต่เธอก็ได้รับรางวัลในฐานะนักแสดงจาก
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส จนกระทั่งเธอได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Winter's Bone - เธอผู้ไม่แพ้ (ค.ศ 2010) ภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายแนวดรามา ซึ่งภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะจากบทบาทการแสดงของเธอที่ได้รับคำชื่นชมทั้งจากนิตยสารและหนังสือพิมพ์ ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง
รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกในขณะที่อายุเพียง 20 ปี โดยปัจจุบันเธอเป็นนักแสดงหญิงที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ที่อายุน้อยที่สุดในสาขานี้เป็นอันดับที่ 3 รองจาก คูเวจาเน่ วัลลิส (9 ปี) และ
คีชา แคสเซิล-ฮิวส์ (13 ปี)
[4]อย่างไรก็ตามบทบาทการเป็นนักแสดงที่ถือว่าทำให้เธอโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมากที่สุดคือการรับบทเป็น
เรเวน ดาร์คโฮลม์ / มิสทีคในภาพยนตร์ชุด
เอ็กซ์เมน (2011–2019) และการรับบทเป็น
แคตนิส เอฟเวอร์ดีนในภาพยนตร์ชุด
เกมล่าเกม (2012–2015)
[5][6]โดยในปี ค.ศ.2012 เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ในวัย 22 ปี ได้รับ
รางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมและได้รับ
รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกจากการแสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยเดวิด โอรุสเซลล์ เรื่อง Silver Linings Playbook - ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ ส่งผลให้เธอเป็นนักแสดงหญิงที่อายุน้อยที่สุดลำดับ 2 ที่ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขานี้รองจาก
มาร์ลี แมตลิน นักแสดงเจ้าของสถิติได้รับรางวัลนี้เมื่ออายุ 21 ปี จากการแสดงในเรื่อง Children of a Lesser God - รักนี้ไม่มีคำพูด (ค.ศ. 1986)
[7]ต่อมาเธอได้ร่วมงานกับผู้กำกับ เดวิด โอรุสเซลล์อีกครั้ง โดยรับบทเป็นนักแสดงสมทบในภาพยนตร์เรื่อง American Hustle -โกงกระฉ่อนโลก (ค.ศ. 2013) จากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอได้รับ
รางวัลแบฟตาและได้รับรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้งในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
[8][9][10][11] ต่อมาในปี ค.ศ. 2015 เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำเป็นสมัยที่ 3 ในฐานะนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Joy - จอย เธอสู้เพื่อฝัน ก่อนที่จะมีผลงาน
ภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง Passengers - คู่โดยสารพันล้านไมล์ (ค.ศ. 2016) และมีผลงานภาพยนตร์แนวจิตวิทยาระทึกขวัญเรื่อง
มารดา! (ค.ศ. 2017) รวมถึงการแสดงในบทบาทสายลับในภาพยนตร์เรื่อง Red Sparrow - ผู้หญิงร้อนพิฆาต (ค.ศ. 2018)เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ จัดเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มักจะพูดถึงเรื่อง
คตินิยมสิทธิสตรีและให้การสนับสนุนสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งสหรัฐอเมริกา (PPFA) โดยในปี ค.ศ. 2015 เธอได้ก่อตั้งมูลนิธิเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และได้ให้การสนับสนุนกีฬาโอลิมปิกสำหรับผู้พิการทางสติปัญญา (Special Olympics) นอกจากนี้ในปี ค.ศ. 2018 เธอได้ก่อตั้งบริษัทผลิตละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ของเธอเองชื่อว่า Excellent Cadaver