เภสัชวิทยา ของ เทสโทสเตอโรน_(ยา)

ผลทางสรีรภาพ

ดูสารนิเทศเพิ่มเติมที่: เทสโทสเตอโรน § กลไกการออกฤทธิ์

เทสโทสเตอโรนเป็นลิแกนด์ซึ่งมีสัมพรรคภาพสูงเมื่อเชื่อมกับหน่วยรับแอโดรเจนในนิวเคลียส (nuclear androgen receptor, AR) รวมทั้งเป็นตัวทำการ (agonist) ของหน่วยรับด้วยอนึ่ง เทสโทสเตอโรนยังจับกับหน่วยรับแอนโดรเจนที่เยื่อหุ้มเซลล์ (membrane androgen receptor, mARs) เช่น GPRC6A และ ZIP9 แล้วเริ่มสภาพกัมมันต์ของ mARs เหล่านั้นนอกจากนั้น เทสโทสเตอโรนยังเพิ่มฤทธิ์ได้เมื่อแปลงโดยอาศัยเอนไซม์ 5α-reductase กลายเป็นแอนโดรเจนที่มีฤทธิ์แรงกว่าคือ DHT ภายในเนื้อเยื่อที่ "ให้ลักษณะชาย" (คือที่แสดงออก 5α-reductase) เช่น ต่อมลูกหมาก ถุงพักน้ำอสุจิ (seminal vesicle) ผิวหนัง และปุ่มรากผมเมื่อเทียบกับเทสโทสเตอโรน สาร AAS สังเคราะห์อื่น ๆ โดยมาก (รวมทั้ง DHT) จะไม่มีการเพิ่มฤทธิ์เช่นนี้โดยเท่ากันหรือโดยประการทั้งปวง ซึ่งเป็นเหตุให้สารเหล่านี้มีผลสร้างกล้ามเนื้อและให้บุรุษภาพที่ไม่เหมือนกัน[68]

นอกจาก DHT แล้ว เทสโทสเตอโรนยังเปลี่ยนเป็นเอสโทรเจนที่อัตราประมาณ 0.3% โดยอาศัยเอนไซม์อะโรมาเทส[69]ซึ่งเกิดภายในเนื้อเยื่อหลายอย่างโดยเฉพาะเนื้อเยื่อไขมัน (adipose tissue) ตับ และสมอง แต่โดยหลักก็ที่เนื้อเยื่อไขมัน[69]

หลังจากเทสโทสเตอโรนได้แปลงเป็น DHT แล้ว ก็จะสร้างและสลายเป็น 3α-androstanediol (3α-diol) ซึ่งเป็นสเตอรอยด์ประสาทและ positive allosteric modulator ของ GABAA receptor ที่มีกำลัง, และเป็น 3β-androstanediol ซึ่งเป็นตัวทำการที่มีกำลังและมีบุริมสิทธิ (preferential) กับ Estrogen receptor beta (ERβ)[70]เมแทบอไลต์เหล่านี้รวมทั้ง estradiol อาจมีบทบาทที่เป็นผลของเทสโทสเตอโรนในสมอง รวมทั้งแก้ซึมเศร้า แก้วิตกกังวล คลายเครียด ทำให้มีความสุข และให้มีแรงจูงใจทางเพศ[70]

ผลต่อร่างกายและสมอง

หน่วยรับแอนโดรเจน (AR) แสดงออกในอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายรวมทั้งองคชาต อัณฑะ หลอดเก็บอสุจิ (epididymis) ต่อมลูกหมาก ถุงพักน้ำอสุจิ ไขมัน ผิวหนัง กระดูก ไขกระดูก กล้ามเนื้อ กล่องเสียง หัวใจ ตับ ไต ต่อมใต้สมอง ไฮโปทาลามัส และสมองส่วนต่าง ๆ[71][72]ผ่านการก่อกัมมันต์ของ AR (รวมทั้ง mAR) เทสโทสเตอโรนจึงมีผลมากมายรวมทั้ง[71][73]

  • โปรโหมตการเติบโต การทำงาน และการบำรุงรักษาต่อมลูกหมาก ถุงพักน้ำอสุจิ และองคชาต ทั้งในช่วงวัยเจริญพันธุ์และหลังจากนั้น
  • โปรโหมตการเติบโตและการบำรุงรักษากล้ามเนื้อ โดยเฉพาะส่วนบนของร่างกาย
  • ทำให้ไขมันสะสมใต้ผิวหนังในรูปแบบของชายและลดไขมันร่างกายโดยทั่วไป
  • ระงับพัฒนาการของเต้านมที่มีเหตุจากเอสโทรเจน แต่ก็ยังอาจมีภาวะเต้านมโตในชายผ่านการแปลงเป็น estradiol มากเกินเมื่อระดับเทสโทสเตอโรนสูง
  • บำรุงรักษาผิวหนังให้แข็งแรงสมบูรณ์ มีผิวพรรณดี ได้ความชุ่มชื้น และลดการแก่ตัวของผิวหนัง แต่ก็อาจทำให้ผิวมัน มีสิว หรือเกิดผิวหนังอักเสบที่ผิวมัน[upper-alpha 1]
  • โปรโหมตการงอกของขนใบหน้าและขนตัว แต่ก็เป็นเหตุให้หัวล้านหรือขนตัวและหน้าดก (hirsutism)
  • ช่วยให้กระดูกเจริญเติบโตและทำให้กระดูกไหล่ผายออกในช่วงวัยเจริญพันธุ์
  • ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนในตับ เช่น การผลิต sex hormone-binding globulin (SHBG) และโปรตีนมากมายอื่น ๆ
  • เพิ่มการผลิต erythropoietin ในไต และดังนั้น เป็นการกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดแดงในไขกระดูกและเพิ่มระดับฮีมาโทคริต
  • สร้างการป้อนกลับเชิงลบกลับไปยังแกนไฮโปทาลามัส-พิทูอิทารี-อะดรีนัลโดยระงับการหลั่งฮอร์โมนกลุ่ม gonadotropin รวมทั้ง follicle-stimulating hormone (FSH) และ luteinizing hormone (LH) จากต่อมใต้สมอง ดังนั้น จึงระงับการผลิตฮอร์โมนทางเพศจากต่อมบ่งเพศ ระงับการสร้างสเปิร์ม และระงับภาวะเจริญพันธุ์ (fertility)
  • ควบคุมระบบปรับขนาดหลอดเลือด (vasomotor system) และอุณหภูมิร่างกายผ่านไฮโปทาลามัส และดังนั้น จึงป้องกันภาวะร้อนจัด (hot flash) เนื่องจากฮอร์โมน
  • ควบคุมการทำงานของสมอง ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ความหงุดหงิด/ความดุ กิจกรรมทางเพศ รวมทั้งระบบประชานและความจำ
  • เพิ่มความต้องการทางเพศและการทำงานขององคชาต รวมทั้งการแข็งเองขององคชาตและฝันเปียก
  • เพิ่มความเสี่ยงการเจริญเกินของต่อมลูกหมาก (BPH) และมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมทั้งเร่งการลุกลามของมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ลดการเจริญเติบโตของเต้านมและลดความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม

เมแทบอลิซึมและการกำจัดออก

เทสโทสเตอโรนที่ทานจะไม่มีฤทธิ์ยกเว้นมีขนาดสูงมาก เพราะดูดซึมได้ไม่ดีและเกิดเมแทบอลิซึมรอบแรก (first-pass metabolism) ในตับในระดับสูง[66]อนึ่ง แอนโดรเจนที่เป็นสเตอรอยด์รวมทั้งเทสโทสเตอโรนเป็นพิษต่อตับ และดังนั้น การทานยาเทสโทสเตอโรนในขนาดสูงอาจเป็นอันตรายต่อตับเนื่องจากมีระดับในตับสูงกว่าที่มีตามธรรมชาติ[74]แทนที่จะทาน เทสโทสเตอโรนสามารถให้โดยไม่ผ่านทางเดินอาหารในรูปแบบเป็นเจลและครีมทา เป็นยาแปะ เป็นเม็ดยาอมที่แก้ม และยาฝังใต้ผิวหนัง[66][75]นอกจากนั้น มันยังสามารถให้ผ่านการฉีดยาในกล้ามเนื้อที่ออกฤทธิ์ได้นาน (depot intramuscular injection) ในรูปแบบของเอสเทอร์ที่ต้องผ่านเมแทบอลิซึมในร่างกายเพื่อออกฤทธิ์ (ester prodrug) เช่น testosterone cypionate, testosterone enanthate และ testosterone propionate รวมทั้ง testosterone undecanoate ซึ่งมีฤทธิ์นานเป็นพิเศษ[66]ส่วน testosterone buciclate มีฤทธิ์นานยิ่งกว่าแบบอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้เป็นยา[66]

แม้เทสโทสเตอโรนจะไม่ให้ใช้ทาน แต่ testosterone undecanoate ซึ่งเป็นเอสเทอร์แบบหนึ่งก็ได้อนุมัติให้เป็นยาทาน[66]เนื่องจากมีคุณลักษณะทางเคมีพิเศษเพราะมีโซ่เอสเทอร์ที่ยาวมาก จึงทำให้ testosterone undecanoate รอดผ่านเมแทบอลิซึมของตับรอบแรกได้เป็นบางส่วน แล้วดูดซึมเข้าทางเดินอาหารเข้าไปยังระบบน้ำเหลืองโดยตรง และต่อจากนั้น ระบบไหลเวียน[66]ในบรรดา testosterone undecanoate ที่เข้าไปถึงระบบไหลเวียน 90-100% จะขนส่งไปทางระบบน้ำเหลือง[76]เอสเทอร์แบบนี้ไม่เป็นพิษต่อตับในขนาดที่ใช้[66]แต่ก็มีเมแทบอลิซึมและการกำจัดออกที่ไม่แน่นอน ดังนั้น จึงต้องทาน 2-4 ครั้งต่อวันพร้อมอาหาร[66]

นอกจาก testosterone undecanoate การใช้เทสโทสเตอโรนร่วมกับยากลุ่ม 5α-reductase inhibitor เช่น dutasteride สามารถทำให้เทสโทสเตอโรนมีฤทธิ์เมื่อทานเป็นแคปซูลบรรจุยาละลายในน้ำมัน[77]เพราะลดเมแทบอลิซึมรอบแรกของเทสโทสเตอโรนในตับ[77]

การดูดซึม

สภาพพร้อมใช้ทางชีวภาพ (bioavailability) ทางปากของเทสโทสเตอโรนต่ำจนเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้[73][78]ส่วนของ testosterone undecanoate ทางปากอยู่ที่ 3-7%[76][79]เจลเทสโทสเตอโรนสำหรับทามีสภาพพร้อมใช้ทางชีวภาพที่ 10% เมื่อทาที่บริเวณผิวหนังที่แนะนำรวมทั้งท้อง แขน ไหล่ และต้นขา[80]สภาพพร้อมใช้ทางชีวภาพของยาฝังเรียกได้ว่าอยู่ที่ 100%[81]ส่วนสภาพพร้อมใช้ทางชีวภาพของยาฉีดในกล้ามเนื้อทั่วไปเกือบถึง 95%[82]

การกระจายตัว

เมื่ออยู่ในระบบไหลเวียน 97.0-99.5% ของเทสโทสเตอโรนจะจับอยู่กับโปรตีนพลาสมาโดยจะจับกับ SHBG อย่างแน่น และจับกับ albumin อย่างอ่อน ๆ และมี 0.5-3.0% ที่เป็นอิสระ (free testosterone)[2][2]

ในบรรดาที่อยู่ในระบบไหลเวียน 30-44% จับอยู่กับ SHBG และ 54-68% จับกับ albumin[2]ที่จับอยู่กับ albumin จะเรียกว่า เทสโทสเตอโรนพร้อมใช้ทางชีวภาพ (bioavailable testosterone)[2]คือไม่เหมือนกันเทสโทสเตอโรนที่จับอยู่กับ SHBG เทสโทสเตอโรนพร้อมใช้ทางชีวภาพจะจับอยู่กับโปรตีนพลาสมาอย่างอ่อน ๆ จึงมีฤทธิ์ทางชีวภาพคล้ายกับเทสโทสเตอโรนอิสระในระดับหนึ่ง[2]

เมื่อเรียกรวม ๆ กัน (คือ free, bioavailable, และ SHBG-bound) เทสโทสเตอโรนที่อยู่ในระบบไหลเวียนทั้งหมดเรียกจะเรียกว่า total testosterone[2]

Pharmacokinetics ของเทสโทสเตอโรนในรูปแบบเอสเทอร์ต่างๆ[71][83]
สูตรการให้ยาMRT
Testosterone undecanoateทางปาก1.6 ชม.3.7 ชม.
Testosterone propionateฉีดเข้ากล้ามเนื้อ0.8 วัน1.5 วัน
Testosterone enanthate
(ในน้ำมันละหุ่ง)
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ4.5 วัน8.5 วัน
Testosterone undecanoate
(ในน้ำมันเมล็ดชา)
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ20.9 วัน34.9 วัน
Testosterone undecanoate
(ในน้ำมันละหุ่ง)
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ33.9 วัน36.0 วัน
Testosterone buciclate
(สารแขวนลอยในน้ำ)
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ29.5 วัน60.0 วัน
ระดับเทสโทสเตอโรนภายใน 16 สัปดาห์ เมื่อฉีดเอสเทอร์ต่าง ๆ ของเทสโทสเตอโรนเข้ากล้ามเนื้อ ในชายที่ต่อมบ่งเพศทำงานน้อยเกิน[71]

เมแทบอลิซึม

เทสโทสเตอโรนจะสลายในตับโดยหลักด้วยกระบวนการรีดักชันอาศัยเอนไซม์ 5α-reductase และ 5β-reductase และกระบวนการจับคู่ (conjugation) ผ่านการถ่ายโอนกรดกลูคูรอนิก (glucuronidation) และซัลเฟต (sulfation)[2][65][84]เมทาบอไลต์หลัก ๆ ในปัสสาวะของเทสโทสเตอโรนก็คือ androsterone glucuronide และ etiocholanolone glucuronide[2][65][84][85]

ครึ่งอายุในการกำจัด (elimination half-life) ของเทสโทสเตอโรนจะต่าง ๆ กัน ขึ้นอยู่กับการให้ยาและสูตรยา[73]testosterone undecanoate ที่ใช้ทานเป็นแคปซูลน้ำมันมีครึ่งอายุ (terminal half-life) ที่ 1.6 ชม.[71]เพราะมีครึ่งอายุสั้นมาก จึงต้องทานวันละ 2-4 ครั้ง[71]ส่วนการให้เทสโทสเตอโรนแบบอื่น ๆ รวมทั้งเจลและยาน้ำที่ใช้ทา ยาแปะ และยาเม็ดสำหรับอม จะมีผลที่ยาวนานกว่าและสามารถให้บ่อยน้อยกว่าขึ้นอยู่กับรูปแบบและสูตร เช่น วันละครั้ง วันละสองครั้ง หรือทุก ๆ สองวัน[73][71]

สำหรับเทสโทสเตอโรนที่ไม่ใช่เอสเทอร์และให้โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ครึ่งอายุจะสั้นมากโดยอยู่ที่ประมาณ 10 นาที เทียบกับของเอสเทอร์ที่ให้โดยฉีดเหมือนกันซึ่งมีครึ่งอายุยาวนานกว่ามาก[73][71]เมื่อให้ในรูปแบบละลายน้ำมัน ครึ่งชีวิตอยู่ที่ 0.8 วันสำหรับ testosterone propionate, 4.5 วันสำหรับ testosterone enanthate, 20.9 วัน (ในน้ำมันเมล็ดชา), 33.9 วัน (ในน้ำมันละหุ่ง) สำหรับ testosterone undecanoate, และ 29.5 วันสำหรับ testosterone buciclate[73][71]แม้ค่าวัดอย่างแม่นยำจะไม่มีสำหรับ testosterone cypionate ที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เมแทบอลิซึมและการกำจัดของมันเชื่อว่า เหมือนกับ testosterone enanthate โดยมีรูปแบบการปล่อยเข้าสู่ร่างกายที่คล้ายกันมาก[59][71]

เนื่องจากมีครึ่งชีวิตต่าง ๆ กัน เอสเทอร์ของเทสโทสเตอโรนที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อจึงให้บ่อยไม่เท่ากัน[86]testosterone propionate จะฉีด 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์, testosterone enanthate และ testosterone cypionate จะฉีดหนึ่งครั้งทุก ๆ 2-4 สัปดาห์, testosterone undecanoate และ testosterone buciclate ฉีดทุก ๆ 10-14 สัปดาห์[86]เพราะมีฤทธิ์ไม่นาน testosterone propionate ปัจจุบันจึงไม่ค่อยได้ใช้ และ testosterone undecanoate ก็เป็นเอสเทอร์ที่นิยมสำหรับฉีดเข้ากล้ามเนื้อ[73][71]testosterone undecanoate และ testosterone buciclate อาจใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงแค่ 4 ครั้งต่อปี[73][71]

ส่วนยาที่ฝังใต้ผิวหนังมีครึ่งชีวิต (absorption half-life) ที่ 2.5 เดือน[73]และปกติจะต้องฝังใหม่ทุก ๆ 4-5 เดือน[87]

การกำจัด

เทสโทสเตอโรนและเมทาบอไลต์ของมันจะกำจัดออกทางปัสสาวะ[88]โดยขับออกเป็น androsterone glucuronide และ etiocholanolone glucuronide เป็นหลัก[85]แต่ก็ขับออกในรูปแบบอื่น ๆ ด้วยรวมทั้ง testosterone glucuronide (1%), testosterone sulfate (0.03%), และ androstanediol glucuronides[85][89]เทสโทสเตอโรนที่ไม่ได้เปลี่ยนสภาพมีน้อยมากในปัสสาวะ (น้อยกว่า 0.01%)[88][89]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เทสโทสเตอโรน_(ยา) http://www.aacp.com/pdf%2F0214%2F0214ACP_Amanatkar... http://www.chemspider.com/Chemical-Structure.5791.... http://ireport.cnn.com/docs/DOC-1167887 http://www.espn.com/espnw/voices/article/17275159/ http://www.nature.com/ijir/journal/v16/n1/full/390... http://adisinsight.springer.com/drugs/800029680 http://testosteronedruglawyers.com/wp-content/uplo... http://library.med.utah.edu/WebPath/TUTORIAL/PROST... http://www.ema.europa.eu/ema/index.jsp?curl=/pages... http://www.fda.gov/Drugs/DrugSafety/ucm401746.htm