ตัวละคร ของ เรือรบอวกาศยามาโตะ

ฝ่ายชาวโลก

จูโซ โอคิตะ

จูโซ โอคิตะ นายทหารผู้มากประสบการณ์ของกองกำลังพิทักษ์โลก เขาเป็นผู้บัญชาการกองเรือรบที่เข้าร่วมยุทธการพลูโต[6]ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่เขาต้องสูญเสียลูกชาย[8] และโคได สุสุมุสูญเสียพี่ชาย[6] โอคิตะเป็นคนใจเย็นและสุขุมในการตัดสินใจมากแม้ในยามคับขัน

เนื่องจากกัปตันโอคิตะเสียลูกชายคนเดียวในการรบที่พลูโต ส่วนโคไดเสียพี่ชายคนเดียว ดังนั้นเขาจึงมองโคไดเป็นเสมือนลูกชายคนหนึ่ง[14]

ระหว่างการเดินทาง โอคิตะมีอาการป่วยเนื่องจากเคลื่อนรังสีอวกาศ แต่แรกเริ่มที่อาการแสดงออกมา หมอซาโตขอให้เขาเข้าไปฟังพื้นในห้องพยาบาลแต่ถูกปฏิเสธ ระหว่างการเดินทาง เขาล้มลงเนื่องจากอาการหลายครั้งจนในที่สุด เข้าถูกส่งเข้าห้องพยาบาลและเข้ารับการผ่าตัดในระหว่างที่เดินทางมาได้ครึ่งทาง[15]

สุสุมุ โคได

โคได สุสุมุเป็นนักเรียนนายเรือของกองกำลังพิทักษ์โลก เกิดและโตที่แหลมมิอุระ[5] ในวัยเด็ก เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักกีฎวิทยา[5] แต่แล้วความฝันของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตเนื่องจากระเบิดอุกกาบาตของกามิลัสระหว่างรอเขากลับบ้าน[5] ทำให้เขาแค้นพวกกามิลัสอย่างมาก ในการตรวจสอบมนุษย์ต่างดาวที่ถูกยามาโตะจับมาได้ เขาพยายามจะฆ่าทหารกามิลัสนายนั้นทันทีหลังจากที่ทราบว่ากามิลัวนั้นมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกประการ[5]

เขาปรากฏตัวครั้งแรกในการฝึกพิเศษคู่กับชิมะ ไดสุเกะบนดาวศุกร์[6] เนื่องจากเหตุการณ์ยานอวกาศปริศนาตก ทั้งคู่จึงได้รับคำสั่งให้ไปสำรวจและพบแคปซูลข่าวสารจึงถูกเรียกตัวกลับ[6] ต่อมาได้รับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสรรพาวุธของยามาโตะ[8] แต่เดิมทีเขาเกลียดกัปตันโอคิตะ เนื่องจากพี่ชายของเขาหายสาบสูญในยุทธการพลูโต แต่กัปตันโอคิตะรอด แต่เปลี่ยนความคิดเมื่อรู้ว่ากัปตันเองก็เสียลูกชายคนเดียวในการรบครั้งนั้นเช่นกัน[8]

โคไดมักจะขับเครื่องคอสโม ซีโร ไฟเตอร์ (Cosmo Zero Fighter) นำฝูงบินคอสโมไทเกอร์ออกรบด้วยตัวเองเสมอ[12] รักพวกพ้อง ในการทดลองวาร์ปครั้งแรกของยามาโตะ เครื่องบินแบล็ค ไทเกอร์ลำหนึ่งถูกยิงในการปฏิบัติการขับไล่อากาศยานข้าศึกยังไม่สามารถลงจอดในยามาโตะได้[12]โคไดพยายามขอร้องกัปตันโอคิตะให้รอเครื่องบินลำนั้นและวิ่งไปที่ท้ายเรือเพื่อนำร่องเครื่องบินลำนั้นให้ลงจอดสำเร็จทันเวลา[12] บางครั้ง เขาฝ่าฝืนคำสั่งของกัปตันโอคิตะเพื่อที่จะทำภารกิจที่ได้รับมอบให้สำเร็จเช่นกัน[9] อย่างไรก็ตาม เขามีนิสัยหัวดื้อ เมื่อคิดจะทำอะไรก็ลงมือทำโดยไม่ฟังใคร[10] แต่ถึงแม้เขามักจะเป็นคนเลือดร้อน หัวดื้อ แต่เขาก็มีความสามารถในการสังเกตรายละเอียดเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ชนิดคาดไม่ถึงทีเดียว[16]

โคได สุสุมุนั้นไม่มีญาติหลงเหลืออยู่บนโลกเลย[14] เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตจากการโจมตีของกามิลัส[ต้องการอ้างอิง] ส่วนพี่ชายที่หายสาบสูญของเขานั้น แท้จริงแล้วได้รับความช่วยเหลือและอาศัยอยู่บนดาวอิสแกนดา [ต้องการอ้างอิง] (แต่ ณ เวลานั้นไม่มีใครทราบจนเมื่อเขาเดินทางถึงอิสแกนดา[ต้องการอ้างอิง]) ด้วยเหตุนี้เอง กัปตันโอคิตะจึงเอ็นดูเขาเหมือนลูก[14]

ถ้งแม้ว่าโคไดจะเคยฝึกร่วมกับชิมะบนฐานดาวอังคารด้วยกันก่อนจะเข้าประจำการบนยามาโตะ แต่ในช่วงแรกของการเดินทางทั้งคู่ก็มักจะทะเลาะกันจนเลยเถิดถึงขั้นชกต่อย[10] แต่สุดท้ายทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนรักที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

โคไดเป็นผู้มีความเป็นผู้นำสูง ระหว่างที่โอคิตะเข้ารับการผ่าตัดไม่สามารถทำหน้าทีได้นั้น กามิลัสส่งพาราโนดอนเข้าโจมตี[15] ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรและไม่กล้าตัดสินใจนั้น เขาตัดสินใจบัญชาการรบด้วยตัวเองจนผ่านพ้นวิกฤตมาด้วยดีจนแม้แต่โอคิตะยังเอ่ยชม[15] และมอบตำแหน่งรักษาการผู้บังคับการเรือให้เมื่อเขาป่วยจนม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไป[16]

ไดสุเกะ ชิมะ

ชิมะ ไดสุเกะเป็นนักเรียนนายเรือของกองกำลังพิทักษ์โลก ปรากฏตัวครั้งแรกในการฝึกพิเศษคู่กับโคได สุสุมุบนดาวศุกร์[6] เนื่องจากเหตุการณ์ยานอวกาศปริศนาตก ทั้งคู่จึงได้รับคำสั่งให้ไปสำรวจและพบแคปซูลข่าวสารจึงถูกเรียกตัวกลับ[6]ต่อมาได้รับตำแหน่งต้นหนของยามาโตะ[8]

ชิมะมีน้องชายชื่อจิโร[8] ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่ของพวกเขา[14]

ถ้งแม้ว่าชิมะจะเคยฝึกร่วมกับโคไดบนฐานดาวอังคารด้วยกันก่อนจะเข้าประจำการบนยามาโตะ แต่ในช่วงแรกของการเดินทางทั้งคู่ก็มักจะทะเลาะกันจนเลยเถิดถึงขั้นชกต่อย[10] แต่สุดท้ายทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนรักที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

ชิมะตกตะลึงในความงามของยูกิแต่แรกพบ[6] แต่เนื่องจากยูกิและโคไดมีใจให้แก่กัน เขาจึงได้แต่เก็บความในใจเอาไว้จนกระทั่งเผยออกมาในวาระสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจของเขา[ต้องการอ้างอิง]

มาโมรุ โคได

โดไค มาโมรุ พี่ชายของโคได สุสุมุ เป็นผู้บัญชาการเรือมิซซาย "ยูกิคาเสะ"[9]ถูกเข้าใจว่าเสียชีวิตในการรบในยุทธการพลูโต เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งถอยของโอคิตะจึงถูกเรือข้าศึกล้อมยิงจม[6] ซึ่งเหตุผลที่เขาขัดขืนนั้นเพราะว่าเขาต้องการถ่วงเวลาข้าศึกให้โอคิตะถอยหนีได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง[17]

ระหว่างที่เขายังเป็นนักเรียนทหาร เขาเป็นคนที่ได้รับความนิยมสูง[17] เขาเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนรักของซะนะดะ ซาโต[17] หลังจบการศึกษาเขาได้รับการบรรจุเป็นนักบิน[17]

ยูกิ โมริ

ยูกิ โมริคือนางพยาบาลคนสวยประจำโรงพยาบาลแห่งกองบัญชาการกลาง[6] ต่อมาถูกย้ายขึ้นมาประจำการบนยามาโตะในฐานะหัวหน้าฝ่ายสืบสวน, วิเคราะห์และสนับสนุนชีวิต[8] นอกจากนี้ เธอยังทำหน้าที่เป็นพลเรดาห์บนเรืออีกด้วย[18] ณ เวลาที่เธอออกเดินทางพร้อมกับยามาโตะ เธอยังไม่มีคนรักหรือคู่หมั้นเลย[14] แต่ในระหว่างการเดินทางเธอกับโคไดเริ่มมีความรู้สึกชอบพอกัน [19]

ยูกิกับชาร์ชามีหน้าตาเหมือนกัน[6] จนแม้แต่สตาร์ชาพี่สาวของชาร์ชายังนึกว่าเป็นคนๆเดียวกัน [ต้องการอ้างอิง]

ซาเกะโซ ซาโต

นายสัตวแพทย์ซาเกะโซ ซาโต สัตว์แพทย์ฝีมือเยี่ยมประจำโรงพยาบาลแห่งกองบัญชาการกลาง[6] ถูกย้ายขึ้นมาประจำการในตำแหน่งหมอประจำเรือ[8]

หมอซาโต้ชื่นชอบการดื่มสาเกมากและเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีย์ ญาติเพียงหนึ่งเดียวของเขาก็คือแมวชื่อ มีจัง[20] การที่เขาได้ขึ้นมาประจำการบนยามาโตะทำให้เขาได้มีโอกาสเป็นศึกษามนุษย์ต่างดาวเป็นคนแรกของโลก[5]

อานาไลเซอร์

อานาไลเซอร์เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยของยูกิประจำโรงพยาบาลแห่งกองบัญชาการกลาง[6] มีนิสัยชอบลวนลามยูกิขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่บ่อยๆ[7] สามารถแยกร่างได้ 3 ส่วน[7] ขออนุญาตกัปตันโอคิตะขึ้นมาทำงานบนยามาโตะเนื่องจากมองว่าตัวเองสามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงได้มากกว่าการทำงานในโรงพยาบาล[7] อานาไลเซอร์มีความสามารถในการวิเคราะห์หาส่วนประกอบของอากาศ [18], ความสามารถในการสำรวจ[9]และตรวจจับ[21] สามารถแปลภาษาต่างดาว[9]

อานาไลเซอร์มีพละกำลังมหาศาล มากกว่ามนุษย์ปกติ 10,000เท่า[22]สามารถยกรถถังอวกาศได้[9] แต่อย่างไรก็ตามความสามารถที่พิเศษสุดของอานาไลเซอร์ที่เหนือหุ่นยนต์ทั่วไปก็คือการมีความสามารถในการเมาสุราได้[23] อานาไลเซอร์เชื่อว่าตัวเองเป็นมนุษย์[24] และคิดที่จะแต่งงานกับยูกิด้วย[24] เขาขอยูกิแต่งงานระหว่างที่ทั้งคู่ได้รับคำสั่งให้สำรวจดาวบีเมรา (Bemera Planet) จนเป็นเหตุให้ยูกิตกใจและเสียการควบคุมการบินจนเครื่องบินตกหัวทิ่มดิน[24] อย่างไรก็ตาม อานาไลเซอร์ก็ตัดใจจากยูกิเมื่อเขาพบว่ายูกิแอบชอบโคไดอยู่[24]

ซะบุโร คาโต

ซะบุโร คาโต้ หัวหน้าฝูงบิน "แบล็ค ไทเกอร์"[8]ภายใต้การบังคับบัญชาของโคได[8]

นัมบุ ยะซุโอะ

นัมบุ ยะซุโอะ ผู้ช่วยโคไดด้านอาวุธยิง [8]

โยชิคะสุ ไอฮะระ

โยชิคะสุ ไอฮะระ นายทหารสื่อสาร[8] ภายใต้การบังคับบัญชาของโคได[8] ในระหว่างการเดินทางไอฮะระแอบใช้เครื่องมือสื่อสารซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเขาติดต่อกับโลก[25]จึงซึ่งเป็นเหตุให้ฝ่ายกามิลัสส่งสัญญาณปลอมหลอกเขาว่าสถานการณ์ในโลกนั้นสิ้นหวังเพื่อทำลายขวัญของยายะโตะ[25] สุดท้ายไอฮะระเสียสติหนีออกจากยามาโตะตัวเปล่าและค้นพบดาวเทียมส่งสัญญาณเทียมโดยบังเอิญเขาจึงได้สติคืนมา[25]

เคนจิโร โอตะ

เคนจิโร โอตะ เป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนนักบิน[8]

ชิโร ซะนะดะ

ชิโร ซะนะดะ เป็นหัวหน้าฝ่ายสนับสนุนและพัฒนาทางวิศวกรรม[8] เขาเป็นวิศวกรที่มีความสามารถสูง สร้างอุปกรณ์หลายๆอย่างเพื่อใช้งานบนยามาดตะหลายชิ้น

ซะนะดะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของมาโมรุ โคได พี่ชายของสุสุมุ โคไดในโรงเรียนทหารและเป็นเพื่อนรักกัน[17] แต่หลังจบการศึกษาทั้งคู่ต้องแยกการทำงาน[17] ซะนะดะพบมาโมรุครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกไปรบบริเวณดาวพลูโต[17] โดยซะนะดะเป็นผู้รับผิดชอบการซ่อมแซมยานรบของมาโมรุซึ่งเสียหายอย่างหนัก[17] ซึ่งเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของมาโมรุก่อนที่เขาจะสูญหายในการรบ[17] ซึ่งนั่นทำให้เขาโทษตัวเองว่าซ่อมแซมยานของมาโมรุไม่ดีพอ[17]

ซะนะดะในวัยเด็กฝันอยากจะเป็นจิตกร [17]และเคยมีพี่สาวอยู่คนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนเครื่องเล่นในสวนสนุกบนดวงจันทร์[17]ระหว่างที่เขายังเป็นนักเรียนประถม[17] ส่วนเขาก็เสียแขนขาทั้งสองข้าง[17] แต่ต่อมาเขาประดิษฐ์แขนขาเทียมให้ตัวเองโดยแขนขาเทียบของเขาติดตั้งระเบิดเอาไว้[17] เนื่องจากการเสียพี่สาว เขาจึงเปลี่ยนความตั้งใจมาเป็นนักวิทยาศาสตร์เพื่อที่จะให้วิทยาศาตร์รับใช้มนุษยชาติ[17]

ฮิโกซะเอะมอน โทกุกะวะ

ฮิโกซะเอะมอน โทกุกะวะ เป็นต้นกลประจำยามาโตะ[8] เขาเป็นทหารช่างที่ติดตามกัปตันโอคิตะ[8]มีอายุมากแล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกพ่อแม่ของยูกิเข้าใจผิดว่ายูกิเลือกที่จะคบเขา[14] แต่แท้จริงแล้วเขามีลูกแล้ว[14] และเขาก็รักหลานที่ชื่อ ไอโกะ มากด้วย[14]

ฝ่ายชาวกามิลัส

ชาวกามิลัสนั้น ถึงแม้จะเป็นมนุษย์ต่างดาวแต่แท้จริงแล้ว มีลักษณะทางกายภาพเหมือนมนุษย์โลกทุกประการยกเว้นสีผิวที่เป็นสีน้ำเงิน[5]

ลอร์ด เดสเลอร์

ลอร์ด เดสเลอร์ (Lord/ Leader Desler) ผู้นำสูงสุดของดาวกามิลัส[8] แรกสุดเขาประเมินค่ายามาโตะไว้ต่ำ[8][12] แต่หลังจากยามาโตะสามารถออกนอกระบบสุริยะได้ เขาจึงลงมาวางแผนการรบด้วยตัวเอง[26]

เดสเลอร์เป็นนักยุทธ์ศาสตร์ชั้นยอด เขาวางแผนทำลายยามาโตะหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้จะไม่สำเร็จแต่ก็ทำให้ยามาโตะเกือบจมหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำเผด็จการที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ชอบการประจบสอพล ครั้งหนึ่งเขาเคยตำหนิฮิสุที่เสนอความเห็นประจบเขาเกี่ยวกับยามาโตะด้วยการปฏิเสธว่า "ข้าฯไม่ต้องการความเห็นของเจ้า รายงานมาแต่ความจริง"[27] แต่ถึงกระนั้นเขาก็เกลียดการเสียหน้าเป็นที่สุดเช่นกัน เขาตัดสินใจฆ่าคนที่ทำให้เขาเสียหน้าได้อย่างไม่ลังเลเลย[28]

ฮิสุ

ฮิสุ (Hisu) เป็นรองประธานของฝ่ายกามิลัสและผู้ช่วยของเดสเลอร์[12]

ชลุสส์

ชลุสส์ (Shlutz) ผู้บัญชาการฐานปฏิบัติการหน้าพลูโต[8] พยายามวางแผนสกัดยามาโตะไม่ให้ออกนอกระบบสุริยะหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลว สุดท้ายเขาเสียฐานทัพไปเนื่องจากการลอบวางระเบิดของฝ่ายยามาโตะและหลบหนีไป[29] ต่อมาเขาเข้าสู้กับยามาโตะอีกครั้ง ในบริเวณแถบดาวเคราะห์น้อยและเสียชีวิตในการรบด้วยการเอายานพุ่งชนใส่ยามาโตะ[13]

แกนซ์

แกนซ์ (Gantz) เป็นผู้ช่วยของชลุสส์ [12] และเสียชีวิตพร้อมชลุสส์[13]

โดเมล

โดเมล (Domel) แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงของกามิลัส และเคยได้รับเหรียญกล้าหาญขากเดสเลอร์[5] แต่เดิมเขาเป็นผู้บัญชากากองพลแม็คเจนแลน[30] แต่เนื่องจากเขาต้องการจะสู้กับยามาโตะ เขาจึงขอเดสเลอร์ย้ายมาบัญชาการกองพลกาแล็กติก[30] และเดสเลอร์ก็อนุญาตตามคำขอของเขาในฐานะของขวัญวันหยุด[5] กองพลกาแล็กติกมีฐานอยู่ที่ดาวบาลันซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างโลกกับดาวอิสแกนดา[30] และเคยเป็นฐานลำเลียงในการรุกรานโลกอีกด้วย[24] เขาเป็นคนหยิ่งผยอง ชอบวางก้าม แต่ก็เป็นแม่ทัพผู้ชาญฉลาด มีความสามารถในการวิเคราะห์ระดับสูง และมีความมุ่งมั่น

โดเมลเขียนไดอารีของตัวเอง และเข้าเขียนถึงการปะทะกับยามาโตะครั้งแรกว่า "ฉันเข้าปะทะกับยามาโตะและไม่ควรเลยที่จะประมาทมัน"[30]

เขาเป็นนายทหารผู้มีความสามารถในการวางแผนสูง[31] แต่เนื่องจากการวางแผนใช้ดวงอาทิตย์เทียมกำจัดยามาโตะโดยมีฐานทัพบูลานเป็นเครื่องสังเวยนั้นทำให้เขาต้องขึ้นศาลทหาร[31] ศาลทหารมีมติให้ประหารเขาแต่เดสเลอร์ปฏิเสธเนื่องจากเห็นคุณค่าในตัวโดเมล[31] และสั่งให้รับหน้าที่กำจัดยามาโตะก่อนที่ยามาโตะเดินทางเข้าสู่เมฆแมเจลแลนใหญ่ให้ได้[31]

โดเมลส่งสารท้ารบไปยังยามาโตะที่จักรวาลสายรุ้ง (Rainbow Galexy) [31] ในยุทธการที่จักรวาลสายรุ้งนี้ เป็นการรบที่สร้างความเสียหายให้แก่ยามาโตะอย่างที่สุดเนื่องด้วยโดเมลวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุม อย่างไรก็ตามโชคเป็นของยามาโตะเมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกผันจนกองเรือของกามิลัมจมทั้งหมดยกเว้นเรือธง [32] โดเมลตัดสินใจพลีชีพระเบิดตัวตายพร้อมยามาโตะ[31] ก่อนตายเขาเปิดช่องสัญญาณสนทนากับกับตันโอคิตะ แสดงความชื่นชมในความสามารถของกันและกัน[31]

เกล

เกล (Gale) เดิมทีเขาเป็นผู้บัญชาการกองพลกาแล๊กติก แต่เพราะการย้ายมาของโดเมลเขาจึงถูกลดขั้นลงเป็นรองผู้บัญชาการแทน[30] ซึ่งเขาไม่พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะท่าทางวางอำนาจของโดเมล ที่มาถึงก็ทำลายข้าวของเครื่องประดับของเขาและดูถูกเขาว่ามีรสนิยมแย่ที่สุดในกามิลัส[30] ในยุทธการที่ดาวบูลาน เกลมิอาจทนเห็นโดเมลใช้ลูกน้องและฐานของเขาเป็นเครื่องสังเวยในการปราบยามาโตะได้จึงแอบแจ้งให้เดสเลอร์เข้าระงับโดเมลเสีย[16] อันเป็นผลให้โดเมลถูกส่งขึ้นศาลทหาร[31] แต่ถึงกระทั้นโดเมลก็ยังเลือกเขาเป็นผู้ช่วยในยุทธการที่จักรวาลสายรุ้ง[31] และเสียชีวิตในปฏิบัติการพลีชีพพร้อมกับโดเมล[32]

ฝ่ายชาวอิสแกนดา

สตาร์ชา

สตาชาร์คือชาวดาวอิสแกนดา[6] มีตำแหน่งเป็นราชินี [8]และเป็นผู้เสนอความช่วยเหลือมายังโลกโดยให้น้องสาวนั่งยานอวกาศมายังโลก[6]

ซาชาร์

ซาชาร์คือชาวดาวอิสแกนดาน้องสาวของสตาร์ชาร์[6] เดินทางมายังโลกเพื่อเสนอความช่วยเหลือ[6]แต่ยานอวกาศที่โดยสารมาได้รับความเสียหายและถูกพบเห็นครั้งแรกในยุทธการพลูโต[6] จากนั้นจึงตกลงบนดาวอังคาร[6]และถูกพบว่าเสียชีวิต[6]

ใกล้เคียง

เรือรบในกองทัพเรือไทย เรือรบอวกาศยามาโตะ เรือรบโมเอะ เรือรบสหรัฐ (ยูเอสเอส) เรือรบ เรือรบแนวเส้นประจัญบาน เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร เรือรบยามาโตะ เรือรบหลวงธนบุรี เรือรบหลวงออโรรา