เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์
เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์

เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์

เศรษฐกิจของประเทศเนเธอร์แลนด์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 17 ของโลกเมื่อคิดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)[1][2]จากรายงานของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ มีจีดีพีต่อคนอยู่ที่ราวๆ 48,860 ดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2017/18 จีดีพีของประเทศเติบโตราวร้อยละ 4 ระหว่างช่วง ค.ศ. 1996 ถึง 2000 ก่อนจะลงมาในช่วง 5 ปีต่อมา และลงมาอยู่ที่การเติบโตร้อยละ 3-4 ในช่วง ค.ศ. 2006 ถึง 2007 จากพิษเศรษฐกิจจากเหตุการณ์วิกฤติหนี้สาธารณะยุโรปหลังการค้นพบก๊าซธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1959 เนเธอร์แลนด์ขุดเจาะและส่งออกมานับแต่นั้นโดยมีก๊าซธรรมชาติคิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณสำรองในสหภาพยุโรป เป็นทรัพยากรที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับเนเธอร์แลนด์หลายทศวรรษที่ผ่านมา[3] อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติก็มีผลกระทบกับเศรษฐกิจภาคส่วนอื่นเช่นกันหรือที่รู้จักกันในทางเศรษฐศาสตร์ว่า โรคดัตช์เนเธอร์แลนด์มีระบบเศรษฐกิจที่เปิดและมั่งคั่ง ขึ้นอยู่กับการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างมาก มีอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง อัตราการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อต่ำ ดุลบัญชีเกินสะพัดสูง และเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมของยุโรปโดยมีท่าเรือรอตเทอร์ดามเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ท่าอากาศยานนานาชาติสคิปโฮลเป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ของยุโรป อุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ อาหารแปรรูป เคมีภัณฑ์ การกลั่นปิโตรเลียม เทคโนโลยีขั้นสูง การบริการด้านการเงิน บันเทิง และเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ ภาคการเกษตรมีแรงงานเพียงร้อยละ 2 ของแรงงานทั้งประเทศแต่สร้างผลผลิตส่วนเกินมหาศาลสำหรับการแปรรูปอาหารและการส่งออก เนเธอร์แลนด์ยังเป็นหนึ่งใน 11 ประเทศที่เริ่มใช้เงินสกุลยูโรเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2002

แหล่งที่มา

WikiPedia: เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ http://appsso.eurostat.ec.europa.eu/nui/show.do?wa... http://www.cbs.nl/nl-NL/menu/themas/vrije-tijd-cul... http://vorige.nrc.nl//international/article2274261... http://www.oecd-ilibrary.org/taxation/total-tax-re... http://mkt.unwto.org/en/publication/unwto-tourism-... http://www.world-nuclear.org/info/inf107.html http://data.worldbank.org/indicator/NE.CON.GOVT.ZS http://www.wttc.org/research/economic-impact-resea... https://books.google.com/books?id=QG1R4StCc1gC https://www.theguardian.com/environment/2018/jan/2...