เสือโคร่งแคสเปียน หรือ
เสือโคร่งเปอร์เซีย (
อังกฤษ: Caspian tiger, Persian tiger;
อาหรับ: ببر قزويني;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Panthera tigris virgata)
เสือโคร่งสายพันธุย่อยสายพันธุ์หนึ่งที่
สูญพันธุ์ไปแล้ว มีการกระจายพันธุ์อยู่ในภูมิภาค
เอเชียกลางจนถึง
ตะวันออกกลาง เช่น
อัฟกานิสถาน,
เทือกเขาคอเคซัส, ภาคตะวันตกของ
จีน,
ที่ราบสูงแมนจูเรีย,
อิหร่าน,
อิรัก,
ตุรกี,
มองโกเลีย,
คาซัคสถาน,
ทาจิกิสถาน,
คีร์กีซสถาน,
เติร์กเมนิสถาน และ
อุซเบกิสถานรวมถึงอาจจะแพร่กระจายพันธุ์ไปถึง
ซูดานใน
แอฟริกาเหนือด้วยก็เป็นได้ เนื่องจากมีผู้พบ
ขนเสือโคร่งวางขายในตลาดของ
ไคโร อียิปต์ ในปี
ค.ศ. 1951 ซึ่งขนเสือผืนนี้มาจากซูดาน
[1]เสือโคร่งแคสเปียน มีลักษณะคล้ายคลึงกับ
เสือโคร่งไซบีเรีย (P. t. altaica) มาก นับเป็นเสือโคร่งที่มีขนาดใหญ่อีกสายพันธุ์หนึ่ง โดยตัวผู้ใน
เตอร์กิสถานมีความยาวลำตัว 270
เซนติเมตร นับเป็น
สถิติที่ใหญ่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา ในขณะที่ตัวเมียมีขนาดเล็กลงมา
น้ำหนักตัวเต็มที่ประมาณ 240
กิโลกรัม ล่า
กวางและหมูป่า รวมถึงไก่ฟ้า กินเป็นอาหาร
[2]ถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือโคร่ง 2
สายพันธุ์นี้ต่อติดกัน โดยเสือโคร่งแคสเปียนจะกระจายพันธุ์อยู่แถบตะวันตกของภูมิภาคเอเชียกลาง และเสือโคร่งไซบีเรียจะกระจายพันธุ์อยู่ทางตะวันออกของภูมิภาคเอเชียกลางจนถึง
เอเชียเหนือเสือโคร่งแคสเปียน สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ต้น
ทศวรรษที่ 70 โดยที่เทือกเขาคอเคซัสตัวสุดท้ายถูก
ฆ่าตายไปในปี
ค.ศ. 1922 ใกล้กับ
ทบิลิซี จอร์เจีย หลังจากไปฆ่า
สัตว์เลี้ยงในฟาร์มของชาวบ้าน เสือโคร่งแคสเปียนตัวสุดท้ายในตุรกีถูกฆ่าในปี
ค.ศ. 1970 ใกล้กับอูลูเดเร
ฮักการีในอิรักเคยพบเสือโคร่งแคสเปียนเพียงตัวเดียว ถูกฆ่าใกล้กับ
โมซูล ในปี
ค.ศ. 1887 ในอิหร่าน เสือโคร่งแคสเปียนตัวสุดท้ายถูกฆ่าในปี
ค.ศ. 1959 ในโกลีสตาน เสือโคร่งแคสเปียนตัวหนึ่งในลุ่ม
แม่น้ำทาริม ของจีนถูกฆ่าตายในปี
ค.ศ. 1899 ใกล้กับ
ทะเลสาบลอปนอร์ใน
มณฑลซินเจียง และหลังจาก
ทศวรรษที่ 20 ก็ไม่มีใครเห็นเสือโคร่งสายพันธุ์นี้ในลุ่มแม่น้ำนี้อีกเลยเสือโคร่งแคสเปียนหายไปจากลุ่ม
แม่น้ำมานัสใน
เทือกเขาเทียนซานทางตะวันตกของ
อุรุมชี ใน
ทศวรรษที่ 60 ที่แม่น้ำไอรี ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยสำคัญแหล่งสุดท้ายในบริเวณทะเลสาบบัลฮัช มีผู้พบครั้งสุดท้ายในปี
ค.ศ. 1948 และตอนปลาย
แม่น้ำอามูดาร์ยาบริเวณชายแดนระหว่างเติร์กเมนิสถาน, อุซเบกิสถาน และอัฟกานิสถาน เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 70 แล้ว แม้จะมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่าพบเสือโคร่งแคสเปียนบริเวณ
ทะเลอารัลใกล้กับนูคัส ในปี
ค.ศ. 1968 หรือใน
เขตสงวนทางธรรมชาติทิโกรวายาบัลกา ซึ่งเป็นป่ากกริมแม่น้ำอามูดาร์ยา บริเวณชายแดนทาจิกิสถานและอัฟกานิสถาน มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายในปี
ค.ศ. 1953[3] แต่มีผู้อ้างว่าพบเห็นรอยเท้าคล้ายรอยเท้าเสือโคร่งขนาดใหญ่ในปี ค.ศ. 1995 แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันในเชิงวิชาการได้อย่างแท้จริง
[4] [2]