เมนูนำทาง
เส้นทางธารน้ำตา การโยกย้ายโดยความสมัครใจของชอคทอว์ชาติชอคทอว์เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันคือรัฐแอละแบมา, มิสซิสซิปปี และ ลุยเซียนา หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาฉบับต่างๆ ที่เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1801 แล้วชอคทอว์ก็เหลือดินแดนที่เป็นของตนเองอยู่เพียง 45,000 ตารางกิโลเมตร สนธิสัญญาลำธารแดนซิงแรบบิทยกดินแดนที่เหลือทั้งหมดให้แก่สหรัฐอเมริกา และได้รับการอนุมัติเมื่อต้นปี ค.ศ. 1831 การโยกย้ายชอคทอว์ออกจากดินแดนเดิมเพิ่งมาตกลงกันหลังจากที่ได้ทำการตกลงกันในข้อที่ว่าทางรัฐบาลสหรัฐจะอนุญาตให้ชอคทอว์ยังคงอยู่ในดินแดนได้ จอร์จ ดับเบิลยู. ฮาร์คินส์ผู้นำของชนเผ่าชอคทอว์คนสำคัญเขียนจดหมายถึงพลเมืองอเมริกันก่อนที่จะได้มีการดำเนินการโยกย้ายว่า:
|
รัฐมนตรีกระทรวงสงครามของสหรัฐอเมริกาหลุยส์ แคสส์แต่งตั้งให้จอร์จ เกนส์เป็นผู้บริหารการโยกย้าย เกนส์แบ่งการโยกย้ายออเป็นสามช่วงๆ แรกเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1831 และสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1833 การย้ายกลุ่มแรกเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 โดยผู้ที่ถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐานกลุ่มต่างๆ เดินทางมาพบกันที่เมมฟิสและวิคส์เบิร์ก ฤดูหนาวอันทารุณทำให้ผู้อพยพต้องเผชิญกับน้ำท่วม, แผ่นน้ำแข็ง และหิมะ การโยกย้ายเริ่มด้วยการใช้เกวียน เมื่อมาประสบกับน้ำท่วมก็ทำให้ใช้เกวียนเป็นไปไม่ได้ เมื่ออาหารเริ่มร่อยหรอลงชาวเมืองเมมฟิสและวิคส์เบิร์กก็เริ่มมีความกังวล การขนย้ายจึงเปลี่ยนไปเป็นการใช้เรือไอน้ำห้าลำ เพื่อนำผู้ถูกย้ายไปยังที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่อยู่ริมน้ำ กลุ่มจากเมมฟิสเดินทางขึ้นไปยังอาร์คันซอ ราว 97 กิโลเมตรยังอาร์คันซอโพสต์ เมื่อไปถึงอุณภูมิก็ลดต่ำลงกว่าศูนย์องศาเป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์แม้น้ำก็กลายเป็นน้ำแข็งซึ่งทำให้ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ทันที ขณะเดียวกันอาหารก็ร่อยหรอลงทุกขณะ จนต้องมีการปันส่วนแต่ละส่วนก็ประกอบด้วยข้าวโพดต้ม, หัวเทอร์นิพหนึ่งหัว และน้ำร้อนสองถ้วยต่อวัน รัฐบาลส่งเกวียนสี่สิบเล่มไปยังอาร์คันซอโพสต์เพื่อขนย้ายผู้อพยพต่อไปยังลิตเติล ร็อค เมื่อไปถึงหัวหน้าของชอคทอว์ก็กล่าวต่อผู้สัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์อาร์คันซอกาเซ็ตต์ว่าการโยกย้ายเป็น “เส้นทางแห่งน้ำตาและความตาย” (trail of tears and death)[6] ส่วนกลุ่มที่มาพบกันที่วิคส์เบิร์กถูกนำทางโดยผู้นำทางผู้ไม่มีความสามารถที่เดินทางหายกันไปในบริเวณหนองน้ำของทะเลสาบโพรวิเดนซ์
อเล็กซิส เดอ โทเคอวิลล์นักปรัชญาการเมืองและนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสอเล็กซิส เดอ โทเคอวิลล์นักปรัชญาการเมืองและนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสผู้เห็นเหตุการณ์การโยกย้ายชาติชอคทอว์ขณะที่อยู่ที่เมมฟิสในปี ค.ศ. 1831 บันทึกไว้ว่า:
|
ชอคทอว์เกือบ 17,000 คนย้ายไปยังเขตสงวนอินเดียนและต่อมาโอคลาโฮมา[8] ผู้ที่ถูกโยกย้ายระหว่าง 2,500-6,000 คนเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง แต่หลังจากการอพยพครั้งแรกก็ยังมีชาวชอคทอว์อีกราว 5,000-6,000 คนที่ยังคงตั้งถิ่นฐานอยู่ในมิสซิสซิปปีในปี ค.ศ. 1831[9][10] แต่ชอคทอว์ผู้ที่ยังอยู่ในมิสซิสซิปปีก็ต้องประสบกับปัญหาทางกฎหมาย, การถูกข่มเหงน้ำใจ และ การรังควาน “รั้วและบ้านช่องของเราถูกรื้อถูกเผา, วัวถูกเอามาเลี้ยงในทุ่งของเรา และเราเองก็ถูกกลั่นแกล้ง, จับใส่โซ่ตรวน และทำร้าย จนกระทั่งคนดีๆ ของเราเสียชีวิตไปกันหลายคน”[10] ชอคทอว์ในมิสซิสซิปปีต่อมาก่อตั้งตัวเป็นกลุ่มชอคทอว์อินเดียนแห่งมิสซิสซิปปี (Mississippi Band of Choctaw Indians) และกลุ่มที่ถูกย้ายออกไปจากมิสซิสซิปปีเรียกตนเองว่าชาติชอคทอว์แห่งโอคลาโฮมา (Choctaw Nation of Oklahoma)
เมนูนำทาง
เส้นทางธารน้ำตา การโยกย้ายโดยความสมัครใจของชอคทอว์ใกล้เคียง
เส้นทางการค้า เส้นทางสายไหม เส้นทางธารน้ำตา เส้นทางฝันของสาวน้อยขนมหวาน เส้นทางแชมเปียนส์ภายในประเทศยูฟ่ายูธลีก ฤดูกาล 2017–18 เส้นทางทะเลเหนือ เส้นทางซานเตียโกเดกอมโปสเตลาในประเทศฝรั่งเศส เส้นทางการเดินทางในเพชรพระอุมา เส้นทางจิงโจ้ เส้นทางดาวแหล่งที่มา
WikiPedia: เส้นทางธารน้ำตา http://www.cherokeeregistry.com/ http://books.google.com/books?id=Rk7NPRm_nB0C http://kingwoodkowboy.com/trailoftears.html http://www.seminoletribe.com/history/indian_remova... http://www.cts.bia.edu/trail_of_tears/index.htm http://digital.library.okstate.edu/kappler/Vol2/tr... http://digital.library.okstate.edu/kappler/Vol2/tr... http://digital.library.okstate.edu/kappler/Vol2/tr... http://anpa.ualr.edu/trailOfTears/letters/1831Dece... http://www.anpa.ualr.edu/trail_of_tears/indian_rem...