เมนูนำทาง
เส้นทางธารน้ำตา ความไม่พึงพอใจในการโยกย้ายของครีคหลังจากสงครามในปี ค.ศ. 1812 ผู้นำของมัสคีกี (ครีค) เช่นวิลเลียม แม็คคินทอชก็ลงนามในสนธิสัญญายกดินแดนให้แก่จอร์เจียเพิ่มขึ้น การลงนามในสนธิสัญญาฟอร์ทแจ็คสัน ในปี ค.ศ. 1814 เป็นการยุติสงครามของชาติครีคและอินเดียนชาติอื่นทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา[14] ผู้นำของครีคที่เป็นมิตรดีต่อสหรัฐเช่นเซลอคทา และ บิ๊กวอร์ริเออร์ก็ทำการเจรจากับชาร์พไนฟ์ (สมญาที่ชาวอเมริกันอินเดียนเรียกประธานาธิบดีแอนดรู แจ็คสัน) และย้ำว่าพวกตนนั้นเป็นผู้รักมีสันติ แต่กระนั้นแจ็คสันก็ย้อนกลับไปว่าชาวอินเดียนก็มิได้ “เชือดคอเทคุมเซห์” เมื่อมีโอกาสฉะนั้นจึงสมควรแล้วที่จะต้องเสียดินแดนครีคให้แก่สหรัฐ นอกจากนั้นแล้วประธานาธิบดีแจ็คสันก็ยังละเลยข้อตกลงที่เก้าที่ระบุว่าจะฟื้นฟูอธิปไตยของชาติและชาวอินเดียน
|
ต่อมาสหพันธ์ครีคจึงออกกฎหมายว่าห้ามการยกที่ดิน และถือว่าเป็นอาชญากรรมที่มีโทษถึงตาย แต่กระนั้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1825 แม็คคินทอชและหัวหน้าเผ่าอื่นๆ ก็ไปลงนามในสนธิสัญญาอินเดียนสปริงส์ที่ยกดินแดนเกือบทั้งหมดที่เหลืออยู่ของครีคให้กับรัฐจอร์เจีย[16] หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาอนุมัติสนธิสัญญา แม็คคินทอชก็ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1825 โดยครีคที่นำโดยเมนาวา
สภาครีคแห่งชาติที่นำโดยโอโพธเลยาโฮลา (Opothleyahola) ประท้วงว่าสนธิสัญญาอินเดียนสปริงส์เป็นสนธิสัญญาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ประธานาธิบดีจอห์น ควินซี แอดัมส์มีความเห็นอกเห็นใจ และในที่สุดสนธิสัญญาฉบับนี้ได้รับการประกาศให้เป็นโมฆะ และมีการทำการตกลงกันใหม่ตามข้อตกลงในสนธิสัญญาวอชิงตัน (ค.ศ. 1826)[17] นักประวัติศาสตร์อาร์. ดักกลาส เฮิร์ทบันทึกว่า: “ชาวครีคประสบกับความสำเร็จที่ไม่มีชาติอินเดียนอื่นใดเคยประสบมาก่อน — ในการสามารถทำให้สนธิสัญญาเป็นโมฆะได้”[18] แต่ผู้ว่ารัฐการของรัฐจอร์เจียก็มิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาฉบับใหม่ และเริ่มดำเนินการโยกย้ายชาวอินเดียนตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาฉบับเดิม ในระยะแรกประธานาธิบดีจอห์น ควินซี แอดัมส์ก็พยายามเข้าแทรกแซงด้วยการส่งกองทหารจากรัฐบาลกลาง กองทหารก็ไปปะทะกับทหารอาสาสมัครของจอร์เจีย ประธานาธิบดีแอดัมส์จึงเรียกทหารกลับเพราะความเกรงเหตุกาณ์จะบานปลายไปเป็นสงครามกลางเมือง ประธานาธิบดีจอห์น ควินซีให้คำอธิบายต่อผู้ใกล้ชิดว่า “ชาวอินเดียนไม่ควรค่าต่อการเข้าสงคราม”
แม้ว่าชาวครีคอินเดียนจะถูกบังคับให้ย้ายออกจากจอร์เจีย พร้อมด้วยชาวครีคใต้ (Lower Creeks) ไปยังเขตสงวนอินเดียน แต่ก็ยังคงมีชาวครีคเหนือ (Upper Creeks) อีกราว 20,000 คนที่ยังคงอยู่ในแอละแบมา ทางฝ่ายรัฐบาลก็พยายามทุกวิถีทางที่จะยกเลิกรัฐบาลเผ่าของชาวอินเดียนและใช้กฎหมายของรัฐในการปกครองชาวครีค โอโพธเลยาโฮลาพยายามร้องของให้ประธานาธิบดีแจ็คสันช่วยพิทักษ์จากการกระทำของแอละแบมา แทนที่จะให้ความช่วยเหลือ ก็กลับทำการลงนามกันสนธิสัญญาฉบับใหม่สนธิสัญญาคูสเซตา เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1832 ที่แบ่งดินแดนของครีคออกเป็นผืนย่อยลงไปอีก[19] ผลของสนธิสัญญาฉบับนี้ทำให้ชาวครีคมีทางเลือกสองทาง ทางหนึ่งคือขายที่ดินและรับเงินไปทำการโยกย้ายไปทางตะวันตก หรือยังคงตั้งหลักแหล่งอยู่ในแอละแบมาแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐ ผู้เก็งกำไรที่ดินต่างก็เข้ามาหลอกลวงซื้อที่ดินจากชาวครีคกันขนานใหญ่ จนกระทั่งเกิดมีการปะทะกันและนำไปสู่ความขัดแย้งทำนองที่เรียกว่า “สงครามครีค ค.ศ. 1836” รัฐมนตรีกระทรวงสงครามหลุยส์ คาสส์ส่งนายพลวินฟิลด์ สกอตต์เพื่อทำการยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยการบังคับโยกย้ายชาวครีคไปยังเขตสงวนอินเดียนทางตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี
เมนูนำทาง
เส้นทางธารน้ำตา ความไม่พึงพอใจในการโยกย้ายของครีคใกล้เคียง
เส้นทางการค้า เส้นทางสายไหม เส้นทางธารน้ำตา เส้นทางฝันของสาวน้อยขนมหวาน เส้นทางแชมเปียนส์ภายในประเทศยูฟ่ายูธลีก ฤดูกาล 2017–18 เส้นทางทะเลเหนือ เส้นทางซานเตียโกเดกอมโปสเตลาในประเทศฝรั่งเศส เส้นทางการเดินทางในเพชรพระอุมา เส้นทางจิงโจ้ เส้นทางดาวแหล่งที่มา
WikiPedia: เส้นทางธารน้ำตา http://www.cherokeeregistry.com/ http://books.google.com/books?id=Rk7NPRm_nB0C http://kingwoodkowboy.com/trailoftears.html http://www.seminoletribe.com/history/indian_remova... http://www.cts.bia.edu/trail_of_tears/index.htm http://digital.library.okstate.edu/kappler/Vol2/tr... http://digital.library.okstate.edu/kappler/Vol2/tr... http://digital.library.okstate.edu/kappler/Vol2/tr... http://anpa.ualr.edu/trailOfTears/letters/1831Dece... http://www.anpa.ualr.edu/trail_of_tears/indian_rem...