เทคนิคการเล่น ของ โยโย่

สลีปปิง (Sleeping)

มีความหมายว่าการหลับ ใช้เรียกการที่ผู้เล่นควบคุมให้โยโย่หมุนค้างที่ปลายเชือก การหมุนค้างโดยที่เชือกอยู่นิ่งดังกล่าวเป็นพื้นฐานสำคัญในการเล่นท่าอื่นๆ โดยเฉพาะท่าที่เน้นการใช้เชือก การแข่งโยโย่ประเภท 1เอ และ 3เอ จึงมีพื้นฐานมาจากสลีปปิง หัวใจสำคัญของการเล่นท่านี้ มาจากการออกแบบแกนหมุนแบบปลอก และการใส่ตลับลูกปืนในโยโย่ ซึ่งช่วยให้โยโย่หมุนฟรีได้เป็นระยะเวลานาน แต่ถึงอย่างนั้น โยโย่ที่เป็นแบบแกนหมุนยึดอยู่กับที่ก็สามารถเล่นท่าสลีปปิงได้ แต่จำเป็นต้องคลายเชือกส่วนที่คล้องกับแกนให้หย่อนเล็กน้อย ซึ่งทำได้ 2 วิธี คือ

  1. การปล่อยโยโย่ให้ห้อยอย่างอิสระชั่วขณะหนึ่ง เกลียวเชือกของโยโย่จะคลายออกเองโดยธรรมชาติ
  2. การเล่นโยโย่ท่า ลาเรียต (Lariat) หรือท่า ยูเอฟโอ (UFO)

โยโย่ทั่วไป มักใช้เล่นท่าสลีปปิงได้เป็นเวลาราว 10-25 วินาที แต่บางอันที่คุณภาพดีและราคาสูง อาจใช้เล่นท่าสลีปปิงได้นาน 10-11 นาที

ลูปปิง (Looping)

หมายความหมายว่าการวนรอบ ใช้เรียกการที่ผู้เล่นควบคุมให้โยโย่หมุนเคลื่อนที่อยู่ตลอด โดยไม่มีสลีปปิง ซึ่งการเคลื่อนที่ดังกล่าวมักออกมาในลักษณะการควงโยโย่ให้หมุนวนเป็นวง

โยโย่ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เอื้อสำหรับการเล่นท่าลูปปิงนี้ จะผ่านการถ่วงศูนย์โดยให้มวลส่วนใหญ่อยู่ตรงใจกลางแกนหมุน ช่วยให้โยโย่หมุนในแนวที่เส้นเชือกเป็นแกนหมุนได้ง่ายโดยปราศจากแรงต้านของมวลโยโย่ ผลคือผู้เล่นสามารถเล่นโยโย่โดยการควงซึ่งทำให้เชือกพันเกลียวได้มากขึ้นแต่โยโย่ไม่เสียความเสถียรในการหมุนไต่ตามเส้นเชือก

การแข่งขันโยโย่ประเภท 2เอ ใช้พื้นฐานท่านี้เป็นสำคัญ เพราะเน้นการควงโยโย่ให้เคลื่อนที่ตลอดเวลา

ออฟ-สตริง (Off-String)

หมายถึงการเล่นที่ตัวโยโย่หลุดออกจากเชือก โยโย่ที่ใช้เล่นท่านี้ได้ต้องเป็นแบบที่เชือกไม่ยึดกับแกนหมุนของโยโย่ โดยมากผู้เล่นจะซัดโยโย่ขึ้นกลางอากาศ รอจนโยโย่หลุดจากเชือกจนตกลงมา จึงใช้เชือกเข้าไปรองรับโยโย่อีกครั้ง ก่อนจะปล่อยให้เชือกพันทบรอบแกนหมุนของโยโย่เองโดยธรรมชาติ เรียกกว่า ฟอร์เวิร์ด พาส (Forward Pass) อย่างไรก็ตามผู้เล่นทักษะสูงหลายคน สามารถซัดโยโย่ลงด้านล่างแล้วตวัดปลายเชือกให้พันรอบแกนหมุนได้ในชั่วขณะที่โยโย่เคลื่อนที่ไปจนสุดระยะของเชือกโดยที่โยโย่ไม่ตกกระทบพื้น

โยโย่ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อเล่นแบบออฟ-สตริง มักมีขนาดใหญ่ และมีช่องกว้างระหว่างจานหมุนทั้งสอง เช่นโยโย่ทรงผีเสื้อ การออกแบบดังกล่าวเพื่อช่วยให้ผู้เล่นใช้เชือกคล้องโยโย่ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ส่วนที่เป็นขอบของจานหมุนมักจะติดขอบยางไว้โดยรอบ เพื่อป้องกันความเสียหายของตัวโยโย่ และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้เล่นและผู้คนโดยรอบในกรณีที่การเล่นผิดพลาด

ทักษะและโยโย่สำหรับการเล่นแบบ ออฟ-สตริง นี้ ถูกแบ่งออกมาโดยเฉพาะในการแข่งขันประเภท 4เอ

ท่าที่มักใช้กันมาก ได้แก่ เมน พาส (Main Pass), ฟลี เบาส์ (Flea Bounce), อีไล ฮอปส์ (Eli Hops) เป็นต้น

ฟรีแฮนด์ (Free Hand)

โยโย่ที่มีตุ้มถ่วงน้ำหนัก ใช้สำหรับการเล่นแบบฟรีแฮนด์

หมายถึงการเล่นโยโย่ โดยที่ไม่ได้มัดเชือกเข้ากับมือของผู้เล่น โดยทั่วไป เพื่อเกิดความสมดุล จะถ่วงตุ้มน้ำหนักไว้ที่ปลายด้านหนึ่งของเชือก การเล่นลักษณะนี้โดยทั่วไป เมื่อผู้เล่นซัดโยโย่ออกจากมือแล้ว จะปล่อยตุ้มถ่วงออกจากมือด้วย ทำให้ตัวโยโย่ทั้งชุดหมุนโดยอิสระกลางอากาศ ผู้เล่นอาจแสดงท่าต่างๆ โดยการสัมผัสกับตัวจานหมุนของโยโย่โดยตรง หรือการจับตุ้มถ่วง หรือจับเชือกในบริเวณต่างๆ

โยโย่สำหรับการเล่นแบบฟรีแฮนด์ ถูกพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2542 โดย สตีฟ บราวน์ (Steve Brown) หลังจากจดสิทธิบัตร กลุ่มบริษัทเฟลมเบอ ก็ซื้อสิทธิในการผลิตโยโย่ประเภทนี้ ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมแพร่หลายเป็นอย่างมาก โดยในปี พ.ศ. 2551 ถือว่าเป็นรูปแบบการเล่นโยโย่ที่เติบโตเร็วที่สุด

การเล่นโยโย่แบบฟรีแฮนด์ อาจประยุกต์การเล่นแบบสลีปปิง และใช้เชือกเป็นแกนหลักของท่า หรืออาจพลิกแพลงใช้การเล่นลูปปิงประกอบได้หลากหลาย

การแข่งขันโยโย่แบบเล่นฟรีแฮนด์ ถูกแยกต่างหากเป็นประเภท 5เอ