การรักษา ของ โรคพิษสุนัขบ้า

การฉีดวัคซีนและ Ig ในผู้ป่วยสัมผัสโรคระดับ 3
กรณีวันที่ (หลังเข็มแรก)
0371428
อิมมูโนโกลบูลิน
ฉีดวัคซีนใต้หนัง
ฉีดวัคซีนเข้ากล้าม
ฉีดวัคซีนกระตุ้นกรณีเข็มล่าสุด >6 เดือน
ฉีดวัคซีนกระตุ้นกรณีเข็มล่าสุด ≤6 เดือน
ที่มา: สถานเสาวภา สภากาชาดไทย (แนวปฏิบัติ พ.ศ. 2559)[27]

การรักษาหลังการสัมผัสสามารถป้องกันโรคได้ เมื่อให้อย่างทันท่วงทีภายใน 10 วันหลังจากรับเชื้อ[25] การล้างแผลส่วนน้ำและสบู่อย่างหมดจดทันทีเมื่อรับเชื้อ (ภายใน 5 นาที) ก็มีส่วนช่วยในการลดจำนวนอนุภาคไวรัสได้[28] และยังสามารถลดจำนวนเชื้อได้อีกด้วยการใช้โพวิโดนไอโอดีนหรือแอลกอฮอล์ในการทำแผล[29]

ในประเทศไทย สถานเสาวภา สภากาชาดไทย แนะนำให้ผู้ป่วยสัมผัสโรคระดับ 3 ขององค์การอนามัยโลกได้รับอิมมูโนโกลบูลินโรคพิษสุนัขบ้า (rabies immunoglobulin) 1 ขนาด และวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า 4–5 เข็ม โดยขนาดอิมมูโนโกลบูลินจากมนุษย์ไม่ควรเกิน 20 ยูนิตต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ควรฉีดอิมมูโนโกลบูลินรอบแผลให้มากที่สุด และที่เหลือฉีดในชั้นกล้ามเนื้อ ณ จุดที่อยู่ไกลจากจุดฉีดวัคซีน ส่วนการสัมผัสโรคระดับ 1 และ 2 ไม่จำเป็นต้องได้รับอิมมูโนโกลบูลิน[27]

วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกควรให้โดยเร็วที่สุด ในกรณีของการฉีดใต้หนัง เข็มถัดมาจะฉีดในวันที่ 3, 7 และ 28 หลังฉีดวันแรก รวม 4 เข็ม และในกรณีของการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เข็มถัดมาจะฉีดในวันที่ 3, 7, 14 และ 28 รวม 5 เข็ม แพทย์อาจพิจารณาไม่ฉีดวัคซีนจนครบกรณีที่สามารถสังเกตอาการของสัตว์ได้ ส่วนผู้ป่วยที่เคยได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม (วันที่ 0, 3 และ 7) แล้วก่อนสัมผัสโรคครั้งนี้ ไม่ต้องได้รับอิมมูโนโกลบูลิน โดยจะฉีดวัคซีนกระตุ้นในวันที่ 0 และ 3 (รวม 2 เข็ม) เท่านั้น หรือเข็มเดียวกรณีที่เคยฉีดเข็มสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือน[27]

อาการปวดและผลข้างเคียงของวัคซีนมีเซลล์สมัยใหม่จะคล้ายกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ การฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อควรฉีดเข้าต้นแขน ไม่ควรฉีดเข้าบริเวณแก้มก้น ในทารกแนะนำให้ฉีดเข้าด้านข้างของต้นขา[30]

ในสหรัฐ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแนะนำให้ฉีดวัคซีนตามมาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะถูกค้างคาวกัด ได้แก่ การพบว่ามีค้างคาวอยู่ในห้องเดียวกันกับเด็กที่ไม่มีคนเฝ้า หรือบุคคลพิการทางจิตหรือมึนเมา หรือคนปกติตื่นมาพบว่ามีค้างคาวอยู่ในห้อง[31]

หากเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว มาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสมีผลป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 100%[14] ในกรณีที่ให้มาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสช้าอย่างสำคัญ ยังควรให้การรักษาอยู่เพราะอาจได้ผล มีบุคคลกว่า 15 ล้านคนได้รับวัคซีนหลังการสัมผัส แม้จะได้ผลดี แต่ก็มีราคาแพงมาก[32]

วิธีการมิลวอกี

วิธีการมิลวอกี (อังกฤษ: Milwaukee protocol) หรือวิธีการวิสคอนซิน[33][34]เป็นชุดของกระบวนการเพื่อการรักษาอย่างหนึ่งที่เคยถูกใช้เพื่อพยายามรักษาโรคพิษสุนัขบ้าระยะแสดงอาการในมนุษย์ มีองค์ประกอบสำคัญคือการทำให้ผู้ป่วยหมดสติด้วยยาและให้ยาต้านไวรัส จากการเก็บข้อมูลมาจนถึงปัจจุบันพบว่าวิธีการนี้ไม่ใช่วิธีการรักษาโรคพิษสุนัขบ้าที่ได้ผล และไม่เป็นที่แนะนำให้ใช้อีกต่อไป[35]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรคพิษสุนัขบ้า http://www.health.gov.au/internet/main/publishing.... http://www.health.vic.gov.au/ideas/bluebook/rabies... http://www.animalswecare.com/home_section/rabies/ http://www.diseasesdatabase.com/ddb11148.htm http://www.emedicine.com/eerg/topic493.htm http://www.emedicine.com/med/topic1374.htm http://www.emedicine.com/ped/topic1974.htm http://rabies.emedtv.com/rabies/rabies-symptoms.ht... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=071 http://www.medpagetoday.com/InfectiousDisease/Gene...