โรคริดสีดวงทวาร (
อังกฤษ: hemorrhoids (อังกฤษอเมริกัน) หรือ haemorrhoids (อังกฤษบริติช) หรือ piles) เป็นโครงสร้าง
หลอดเลือดในช่อง
ทวารหนัก[7][8]ในสภาพปกติจะมีลักษณะเป็นนวมและช่วยในการกลั้น
อุจจาระ[2]เมื่อบวมหรือ
อักเสบจะมี
พยาธิสภาพเป็น
หัวริดสีดวง[8]อาการของโรคริดสีดวงทวารขึ้นอยู่กับชนิดที่เป็น
[4]แบบภายในมักจะ
เลือดออกเป็นสีแดงสดโดยไม่
เจ็บเมื่อ
ถ่ายอุจจาระ[3][4]ขณะที่แบบภายนอกบ่อยครั้งจะเจ็บและบวมที่บริเวณ
ทวารหนักและถ้าเลือดออกก็จะสีคล้ำกว่า
[4]อาการบ่อยครั้งจะดีขึ้นหลังจาก 2-3 วัน
[3]แต่แบบภายนอกอาจจะเหลือติ่งหนัง (acrochordon) แม้หลังจากอาการหายแล้ว
[4]แม้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของโรคริดสีดวงทวาร แต่ก็เชื่อว่าปัจจัยที่เพิ่มแรงดันในท้องหลายอย่างมีส่วนเกี่ยวข้อง
[4]รวมทั้งท้องผูก
ท้องร่วง และนั่งถ่ายเป็นเวลานาน
[3]ริดสีดวงทวารยังสามัญกว่าในช่วง
ตั้งครรภ์ด้วย
[3]การวินิจฉัยจะเริ่มที่การตรวจดูที่บริเวณ
[3]หลายคนเรียกอาการทุกอย่างที่เกิดรอบบริเวณ
ทวารหนัก-
ไส้ตรงอย่างผิด ๆ ว่า "โรคริดสีดวงทวาร" แต่ก็ควรตัดสาเหตุร้ายแรงของอาการให้แน่นอนก่อน
[2]การส่องกล้องแบบ Colonoscopy หรือ sigmoidoscopy บางครั้งสมควรใช้เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและกันเหตุที่ร้ายแรงกว่า
[9]บ่อยครั้ง อาการไม่จำเป็นต้องรักษา
[9]การรักษาเริ่มต้นจะเป็นการเพิ่มการรับประทาน
ใยอาหาร, ดื่ม
น้ำให้มาก ๆ, ทานยา
NSAID เพื่อลดเจ็บ, และพักผ่อน
[1]ยาที่เป็นครีมอาจใช้ทาที่บริเวณ แต่ประสิทธิผลของยาเช่นนี้ไม่มีหลักฐานที่ดี
[9]อาจทำหัตถการเล็กน้อยได้จำนวนหนึ่งหากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นด้วยการรักษาแบบอนุรักษ์
[6]โดยการผ่าตัดจะสงวนไว้สำหรับโรคที่ไม่ดีขึ้น
[6]ประชากรประมาณ 50%-66% จะมีปัญหาริดสีดวงทวารอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
[1][3]ชายและหญิงพบบ่อยพอ ๆ กัน
[1]คนอายุ 45-65 ปีจะมีปัญหามากที่สุด
[5]เป็นปัญหาสำหรับคนมั่งมีมากกว่า
[4]และปกติจะหายได้ดี
[3][9]การกล่าวถึงโรคนี้เป็นครั้งแรกที่รู้มาจากบันทึกในกระดาษปาปิรัสของชาวอิยิปต์ช่วง 1700 ปีก่อน ค.ศ.
[10]