เมนูนำทาง
ไฟนอลแฟนตาซี_X โครงเรื่องไฟนอลแฟนตาซี X ดำเนินเรื่องราวในโลกที่มีชื่อว่า "สปีร่า" (Spira) ประกอบด้วยแผ่นดินผืนใหญ่ที่แบ่งออกเป็นสามอนุทวีป ล้อมรอบด้วยหมู่เกาะเขตร้อนขนาดเล็ก มีสภาพภูมิอากาศมีตั้งแต่แบบเขตร้อนที่เกาะบีไซด์และคิลิกา แบบอบอุ่นที่ภูมิภาคมีเฮน ไปจนถึงแบบหนาวเย็นที่มาคาลาเนียและภูเขากากาเซต ประชากรของสปีร่าประกอบด้วยหลายเผ่าพันธุ์ โดยเผ่าพันธุ์มนุษย์มีจำนวนมากที่สุด ในบรรดามนุษย์ที่ชนเผ่าที่มีชื่อว่า อัลเบด (Al Bhed) ซึ่งมีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นพลเมือง มีลักษณะเด่นคือ ตาสีเขียว และมีภาษาเฉพาะชนเผ่า[5] เผ่าพันธุ์กวาโดมีลักษณะบางประการคล้ายมนุษย์ แต่มีหลายสิ่งแตกต่างออกไป เช่น นิ้วมือยาวกว่า และมีเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่แตกต่างจากมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด เช่น เผ่ารอนโซที่มีลักษณะคล้ายสิงโต หรือเผ่าไฮเปลโลที่คล้ายกบ ในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหลายยังมีสิ่งที่เรียกว่า "Unsent" ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของผู้เสียชีวิตที่มีความปรารถนาอันแข็งกล้าจนสามารถคงอยู่ในรูปลักษณ์ทางกายภาพได้ มีคำอธิบายว่าผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้รับการสวดส่งวิญญาณไปยังดินแดนอันห่างไกลโดยผู้อัญเชิญ จะเกิดความริษยาต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย และกลายเป็น "Fiends" สัตว์ประหลาดที่ผู้เล่นจะได้พบและต่อสู้ตลอดทั้งเกม[6] แต่หากผู้เสียชีวิตมีความผูกพันต่อชีวิตมาก จะสามารถคงรูปลักษณ์มนุษย์ไว้ได้แม้จะเป็น Unsent สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในสปีร่า มีทั้งสัตว์ที่มีอยู่ในโลกจริงๆ เช่น แมว สุนัข นก ผีเสื้อ และสัตว์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาสำหรับเกมโดยเฉพาะ เช่น ชูพัฟ (Shoopuf) สัตว์รูปร่างคล้ายสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำขนาดยักษ์ รวมถึงโจโคโบะ นกรูปร่างคล้ายนกอีมู ซึ่งปรากฏตัวในเกมส่วนใหญ่ในซีรีส์ ไฟนอลแฟนตาซี
สปีร่าแตกต่างไปจากระบบโลกแบบยุโรปในภาคก่อนๆ อย่างมาก โดยจำลองแบบสิ่งต่างๆ มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งพืชพันธุ์ ภูมิประเทศ สถาปัตยกรรม และการตั้งชื่อ เทะสึยะ โนะมุระ ผู้ออกแบบตัวละคร ได้เลือกออกแบบสภาพภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมของสปีร่าโดยจำลองจากแปซิฟิกตอนใต้ ไทย และญี่ปุ่นเป็นหลัก บางส่วนจำลองมาจากสภาพภูมิศาสตร์ของหมู่เกาะทางใต้ อย่างเช่นบีไซด์และคิลิกา โยะชิโนะริ คิตะเซะ ผู้อำนวยการสร้าง กล่าวว่า หากโลกทัศน์ของเกมยังคงกลับไปเป็นแบบแฟนตาซียุโรปยุคกลาง ก็จะไม่ช่วยให้กลุ่มผู้พัฒนาเกมได้พัฒนาตนเอง ซึ่งระหว่างที่คิตะเซะกำลังนึกถึงสภาพแวดล้อมของโลกที่แตกต่างออกไปนั้น คะสุชิเงะ โนะจิมะ ผู้เขียนบท ก็ได้แนะนำให้สร้างเป็นโลกแฟนตาซีแบบเอเชียขึ้นมา[7]
ไฟนอลแฟนตาซี X มีตัวละครหลักที่สามารถบังคับได้เจ็ดตัว ได้แก่
ตัวร้ายหลักของเกมคือ Maester ซีมัวร์ กวาโด และ maesters คนอื่นๆ แห่งลัทธิเยวอน โดยมีซิน สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์รูปร่างคล้ายวาฬ เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งทั้งหลาย
ไฟนอลแฟนตาซี X เริ่มต้นจากช่วงหลังของเนื้อเรื่อง โดยทีดัส ตัวละครหลัก พร้อมกับพวกพ้อง อยู่ที่ด้านนอกซากเมืองซานาร์กันด์ ทีดัสจะเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองย้อนหลังก่อนที่จะมาถึงที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นเนื้อหาส่วนใหญ่ของเกม[8] เริ่มต้นจากมหานครซานาร์กันด์อันมีเทคโนโลยีก้าวหน้าและยังไม่ถูกทำลาย ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของทีดัส เขาเป็นนักกีฬาใต้น้ำบลิซท์บอลที่มีชื่อเสียง[9] ในระหวางการแข่งขันบลิซท์บอล สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำชื่อว่า ซิน ได้โจมตีเมือง เมืองถูกทำลายลง อารอนพาทีดัสไปใกล้ซินและถูกดูดไปยังที่ที่ไม่รู้จัก [10]
ในที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังบนผืนน้ำ (โลกสปิร่า) ทีดัสตื่นขึ้นพบว่าตนอยู่เพียงคนเดียว ในระหว่างที่สู้กับสัตว์ประหลาด กลุ่มคนปริศนาที่พูดภาษาประหลาดปรากฏตัวขึ้นช่วยเขาไว้ แล้วเอาตัวเขาไปด้วย โดยหนึ่งในนั้นสามารถพูดภาษาเดียวกับทีดัสได้ ซึ่งพวกเขาเสนอให้ทีดัสช่วยงาน โดยการกู้ซากเรือที่อยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นทีดัสได้รู้ว่าคนที่พูดภาษาเดียวกับเขาได้ชื่อริคคุ เป็นชาวอัลเบด เมื่อทีดัสเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ริคคุ จึงบอกเขาว่าซานาร์กันด์ถูกทำลายไปเมื่อ 1,000 ปีก่อนหน้าแล้ว ปัจจุบันเป็นเพียงแค่ซากปรักหักพังเท่านั้น เธอคิดว่าทีดัสเข้าใกล้ซินมากเกินไปจนถูกพิษทำให้สมองเพี้ยนไป จึงสัญญาว่าจะพาเขาไปที่เมืองใหญ่เพราะอาจจะเจอคนที่รู้จักเขา [11] ต่อมาซินได้ปรากฏตัวขึ้นโจมตีเรือของอัลเบด ทีดัสพลัดตกเรือและถูกซัดไปยังเกาะบีไซด์ ที่นั่นเขาได้พบกับวักก้า หัวหน้าทีมบลิซท์บอลประจำเกาะ วักก้าเองก็เข้าใจว่าทีดัสสมองเพี้ยนไปเพราะเข้าใกล้ซินจึงเสนอให้ความช่วยเหลือ แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทีดัสจะต้องเข้าร่วมทีมบลิซท์บอลของเกาะบีไซด์ วักกาแนะนำให้ทีดัสรู้จักกับยูน่า ที่เพิ่งจะได้เป็นผู้อัญเชิญ และกำลังจะออกเดินทางเพื่อปราบซิน โดยเชื่อกันว่าซินเป็นบทลงโทษต่อบาปของมวลมนุษยชาติ ยูน่าได้ออกเดินทางร่วมกับผู้พิทักษ์ของเธอ ได้แก่ ลูลู่ วักกา และคิมาห์ริ ส่วนทีดัสได้ร่วมเดินทางไปเพื่อช่วยเหลือวักกาในการแข่งขันบลิซท์บอลที่กำลังจะเริ่มขึ้นและเพื่อหาทางกลับบ้าน [12][13][14] หลังการแข่งบลิซท์บอล อารอนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อขอเป็นผู้พิทักษ์ของยูน่าตามที่ได้สัญญาไว้กับบลาสก้าพ่อของยูน่า รวมถึงโน้มน้าวให้ทีดัสเป็นผู้พิทักษ์อีกคนของยูน่า [15] อารอนเปิดเผยต่อทีดัสว่าบราสก้า เจคท์ พ่อของทีดัส และตัวเขาเองได้เคยออกเดินทางเพื่อปราบซินเมื่อสิบปีก่อนหน้า [16] ก่อนหน้านี้ทีดัสเคยคิดว่าพ่อของเขาเสียชีวิตในทะเลเมื่อสิบปีก่อน แต่ความจริงแล้วเขาถูกส่งมายังโลกสปิร่า 1000 ปีข้างหน้าเหมือนกับทีดัส และร่วมทางกลับบราสก้า และอารอนเพื่อหาทางกลับบ้าน โดยอารอนบอกทีดัสว่าตอนนี้ เจคท์ได้กลายเป็นซินไปแล้ว และนำทีดัสมาที่นี้เพื่อให้หยุดตนเอง [17] หลังจากได้ปะทะกับซินอีกครั้ง ริคคุปรากฏตัวขึ้นเข้าร่วมเป็นผู้พิทักษ์ขึ้นอีกคน โดยบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับยูน่า[18] ในระหว่างการเดินทาง ทีดัสและยูน่าได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นจนเริ่มมีใจให้กัน ทว่าเมื่อเดินทางไปถึงกวาโดสลัม เมืองของเผ่ากวาโด ซีมัวร์ผู้นำของเหล่ากวาโดได้ขอยูน่าแต่งงาน และเธอได้บอกให้เหล่าผู้พิทักษ์ของเธอทราบว่าเธอตั้งใจจะแต่งงานกับซีมัวร์เพื่อความหวังของสปิร่า [19] เมื่อไปถึงวัดมาคาลาเนีย เหล่าผู้พิทักษ์ได้เห็นข้อความจากพ่อผู้ล่วงลับของซีมัวร์ โดยกล่าวว่าเขาถูกสังหารโดยลูกชายของตนเอง และความชั่วร้ายของซีมัวร์จะทำลายสปิรา จึงรู้ว่าที่ยูน่าทำไปทั้งหมดเพื่อหาทางใกล้ชิดและจัดการกับซีมัวร์ [20] กลุ่มตัวเอกได้เข้าต่อสู้กับซีมัวร์และสังหารเขา พวกเขาจึงกลายเป็นกบฏของโลกสปิร่า หลังจากนั้นไม่นาน ซินได้เข้าโจมตีและยูน่าพลัดหลงไปจากเหล่าผู้พิทักษ์[21] เมื่อรู้ว่ายูน่าน่าจะถูกอัลเบดลักพาตัวไป ทุกคนจึงออกเดินทางไปช่วยเหลือและพบว่าเผ่าอัลเบดกำลังถูกเผ่ากวาโดโจมตีอยู่ ระหว่างการตามหายูน่า ทีดัสได้รับรู้จากริคคุว่าผู้อัญเชิญจะต้องสละชีวิตเพื่อ "การอัญเชิญครั้งสุดท้าย" ทำให้เขาต้องการหาทางที่จะปราบซินโดยไม่ทำให้ยูน่าต้องสละชีวิตตนเอง[22][23] เหล่าผู้พิทักษ์ได้ตามหายูน่าพบที่เมืองเบเวลล์ขณะที่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับซีมัวร์ที่กลายเป็นวิญญาณที่ไม่ถูกสวดส่ง[24] พวกเขาขัดขวางการแต่งงานและหนีไปกับยูน่า [25] ต่อมาถูกจับกุมและถูกพิจารณาคดี หนึ่งในผู้นำของโลกสปิร่าผู้ทรงคุณธรรมเมื่อรู้ว่าซีมัวร์ฆ่าพ่อของตน และผู้นำของโลกสปิร่าที่ผู้คนนับถือเองก็เป็นวิญญาณที่ไม่ถูกสวดส่งก็เกิดความสับสน และกลับภูเขาของตน [26] เมื่อพวกยูน่าหลบหนีออกมาได้ก็สับสนเช่นกันว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ทีดัสชวนยูน่าให้ไปซานาร์กันด์ด้วยกัน แต่ยูน่าไม่อาจละทิ้งหน้าที่ของตนได้จึงตัดสินใจจะปราบซินให้ได้ (มีฉากจูบกันใต้น้ำอันแสนโรแมนติกสุดโด่งดัง) และมุ่งหน้าไปยังซานาร์กันด์ต่อไป[27]
หลังจากเดินทางต่อ ทีดัสได้รับรู้ว่า ตัวเขาเอง เจคท์ และซานาร์กันด์ที่ทั้งสองจากมา เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นคล้ายกับสัตว์อสูร โดยอาศัยลักษณะของซานาร์กันด์แต่เดิมและประชากรในเมืองเป็นต้นแบบ[28] เมื่อนานมาแล้ว นครซานาร์กันด์เดิมได้สู้รบกับเบเวลล์ ซึ่งซานาร์กันด์ได้พ่ายแพ้ ผู้รอดชีวิตในซานาร์กันด์ได้อุทิศตนเองให้กลายเป็น "Fayth" เพื่อใช้ความทรงจำเกี่ยวกับซานาร์กันด์สร้างเมืองใหม่ขึ้นในจินตนาการ โดยตัดขาดจากสงครามในสปิรา[29] หนึ่งพันปีต่อมา เหล่า Fayth เริ่มเหน็ดเหนื่อยจากการสร้างซานาร์กันด์ในจินตนาการ แต่ไม่สามารถหยุดได้จนกว่าซินจะถูกปราบลง[30]
เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปจนถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางของยูน่า ยูนาเลสกา ผู้อัญเชิญคนแรกที่ปราบซินได้และไม่ได้ถูกสวดส่งวิญญาณนับแต่นั้น[31] จะบอกกลุ่มตัวเอกว่าสัตว์อสูรตนสุดท้ายจะสร้างขึ้นจากจิตวิญญาณของผู้มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้อัญเชิญ หลังจากปราบซินได้แล้ว สัตว์อสูรตนสุดท้ายจะกลายเป็นซินตนใหม่ ก่อให้เกิดวัฏจักรแห่งการถือกำเนิดใหม่[32] กลุ่มตัวเอกตัดสินใจไม่ใช้สัตว์อสูรตนสุดท้ายเพื่อไม่ให้มีใครต้องสละชีวิตและเพื่อไม่ให้ซินตนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาอีก[33] ยูนาเลสกาผิดหวังต่อวิธีการของทีดัสและพวกพ้อง จึงตั้งใจจะสังหาร แต่ก็ถูกปราบลงได้และสลายหายไป[34] หลังจากนั้นกลุ่มตัวเอกได้พยายามหาทางทำลายซินอย่างถาวรโดยไม่ต้องเสียสละชีวิตผู้ใด และได้รับรู้ว่าสิ่งที่ทำให้สัตว์อสูรตนสุดท้ายกลายเป็นซินคือ ยู เยวอน ซึ่งเป็นผู้อัญเชิญที่สูญเสียความเป็นมนุษย์และคงอยู่เพื่อสร้างซินเท่านั้น[35] กลุ่มตัวเอกได้บุกเข้าไปในร่างของซินและต่อสู้กับซีมัวร์ที่ถูกดูดเข้าไป และในที่สุดได้ต่อสู้กับจิตวิญญาณของเจคท์ที่ถูกกักขังอยู่ภายในร่างของซิน[36][37] เมื่อร่างอาศัยของซินถูกทำลาย กลุ่มตัวเอกได้เข้าต่อสู้กับยู เยวอน และเอาชนะได้[38] วัฏจักรการถือกำเนิดใหม่ของซินยุติลง จิตวิญญาณของเหล่า Fayth ถูกปลดปล่อยจากการถูกจองจำ ทำให้สัตว์อสูร ซานาร์กันด์ในความฝัน และทีดัสต้องสูญสลายไป[39] หลังจากนั้น ยูน่าได้กล่าวต่อประชากรสปิราให้ร่วมกันสร้างโลกที่ไม่มีซินขึ้นมาใหม่[40] เมื่อ credit ของเกมจบลงแล้ว มีฉากสั้นเป็นภาพของทีดัสอยู่ใต้น้ำและว่ายน้ำขึ้นสู่เบื้องบน ฉากนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ไฟนอลแฟนตาซี X-2 ซึ่งเป็นภาคต่อ มีเนื้อหาเกี่ยวกับยูน่าที่ออกตามหาร่องรอยของทีดัสที่อาจยังมีชีวิตอยู่เพื่อสานต่อความสัมพันธ์[41]
เมนูนำทาง
ไฟนอลแฟนตาซี_X โครงเรื่องใกล้เคียง
ไฟนอลแฟนตาซี XII ไฟนอลแฟนตาซี VII ไฟนอลแฟนตาซี ไฟนอลแฟนตาซี X ไฟนอลแฟนตาซี XV ไฟนอลแฟนตาซี XIV ไฟนอลแฟนตาซี III ไฟนอลแฟนตาซี V ไฟนอลแฟนตาซี XIII ไฟนอลแฟนตาซี XVIแหล่งที่มา
WikiPedia: ไฟนอลแฟนตาซี_X http://www.gamesindustry.biz/content_page.php?aid=... http://www.computerandvideogames.com/article.php?i... http://www.edge-online.com/features/japan-votes-al... http://www.ffcompendium.com/h/art.shtml http://fs.finalfantasytr.com/search.asp?query=fina... http://www.gamasutra.com/view/feature/3581/a_japan... http://www.gameinformer.com/Games/Review/200201/R0... http://www.gamepro.com/article/reviews/19160/final... http://www.gamerankings.com/htmlpages2/197344.asp?... http://www.gamerevolution.com/review/ps2/final-fan...