ไฮดรอกซิซีน (Hydroxyzine) เป็น
สารต้านฮิสตามีนรุ่นแรกที่อยู่ในกลุ่ม diphenylmethane และ piperazineซึ่งสังเคราะห์ขึ้นเป็นครั้งแรกโดยบริษัท
เบลเยียม (Union Chimique Belge) ในปี 2499
[2]และยังเป็นยาที่ใช้อย่างกว้างขวางทุกวันนี้เนื่องจากฤทธิ์ต้าน
หน่วยรับความรู้สึกหลายอย่างใน
สมอง ยาจึงมีฤทธิ์คลายกังวลที่มีกำลัง
ต้านความหมกมุ่น และรักษาโรคจิตอย่างอ่อน ๆ
[3]ทุกวันนี้ มันมักจะใช้โดยหลักเพื่อคลายกังวลและความเครียดที่สัมพันธ์กับโรคจิตประสาท (psychoneurosis) และเป็นยาเพิ่ม (adjunct) ในโรคทางกายอื่น ๆ ที่คนไข้รู้สึกกังวลเนื่องจากฤทธิ์
ต้านฮิสตามีน จึงสามารถใช้รักษาความคัน ภาวะรู้สึกเจ็บมากกว่าปรกติ (hyperalgesia) และความคลื่นไส้ที่เกิดจากการ
ป่วยจากการเคลื่อนไหว (เช่นเมารถเมาเรือ)และยังใช้ในบางกรณีเพื่อบรรเทาผลการขาดยากลุ่ม
โอปิออยด์[4][5]แม้ว่ามันจะมีฤทธิ์ระงับประสาท (sedative) ให้นอนหลับ (hypnotic) และคลายกังวล (anxiolytic) แต่มันไม่มีลักษณะของสารที่ใช้เสพติด รวมทั้งการติดและโอกาสเป็นพิษเหมือนกับยาอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์คล้าย ๆ กันยาสามารถใช้เพิ่มผลระงับความเจ็บปวดของยากลุ่มโอปิออยด์ต่าง ๆ และบรรเทาผลข้างเคียงของพวกมัน เช่น ความคัน ความคลื่นไส้ และการอาเจียนการซื้อยาในบางประเทศต้องอาศัย
ใบสั่งยาจากแพทย์โดยขายในสองรูปแบบ คือ pamoate และ hydrochloride saltยาที่คล้าย/สัมพันธ์กับไฮดร๊อกซิซีนรวมทั้ง
ไซคลิซีน,
บิวคลิซีน และ meclizine ซึ่งมีประโยชน์ ข้อบ่งใช้ ข้อห้ามใช้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงเหมือนกับไฮดร๊อกซิซีนสารต้านฮิสตามีนรุ่นสองคือ
เซทิไรซีน จริง ๆ ก็คือ เมแทบอไลต์ของไฮดร๊อกซิซีนที่เกิดในร่างกายมนุษย์แต่ว่าโดยที่ไม่เหมือนกับไฮดร๊อกซิซีน เซทิไรซีนดูเหมือนจะไม่ข้าม
ตัวกั้นเลือด-สมอง (blood-brain barrier) อย่างสำคัญ แม้ว่าจะมีรายงานว่ามีผลต่อกล้ามเนื้อและมีฤทธิ์ระงับประสาทดังนั้น ทำให้เป็นสารต้านฮิสตามีนที่ดี เพราะมีผลระงับความกังวลและฤทธิ์ต่อจิตใจอย่างอื่น ๆ น้อยลง แต่ว่าก็ยังสามารถมีผลต่อกล้ามเนื้อและทำให้ง่วงนอนสำหรับคนไข้บางคนได้