พระบรมวงศ์เสด็จหนีไปชายแดน ของ กบฏบวรเดช

ทหารช่างอยุธยาตกเป็นเชลยถูกควบคุมโดยทหารม้าฝ่ายรัฐบาล (สวมหมวกกะโล่) ถือปืนติดดาบปลายปืนอยู่แถวหลัง

16 ตุลาคม เครื่องบินฝ่ายกบฏบินมาทิ้งใบปลิวที่วังไกลกังวลเพื่อทูลว่าการยึดอำนาจล้มเหลว ในค่ำวันต่อมา เมื่อพระบาทสมเด็จประปกเกล้าฯทราบว่าทหารเพชรบุรียอมจำนนต่อรัฐบาลแล้ว และรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมกำลังเดินทางลงมาเข้าเฝ้า ก็ทรงตื่นตระหนกรีบเสด็จลงเรือพระที่นั่งศรวรุณ ซึ่งเป็นเรือยนต์ลำเล็กอย่างกะทันหันพร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช, หม่อมเจ้าประสบศรี จิรประวัติ, หม่อมเจ้ากมลีสาณ ชุมพล, หม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร, หม่อมเจ้านนทิยาวัด สวัสดิวัตน์, หม่อมเจ้าเศรษฐพันธ์ จักรพันธุ์ พร้อมทหารรักษาวังอีก 6-7 นาย มุ่งหน้าจังหวัดสงขลา

เนื่องจากเรือไม่พอนั่ง หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิทและเจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ต้องนำทหารรักษาวังบางส่วนขึ้นไปยึดขบวนรถไฟจากสถานีวังก์พงในช่วงบ่าย[14] เจ้ากาวิละวงศ์เป็นพนักงานขับรถ ขบวนรถไฟพิเศษนี้ออกจากหัวหินเวลาตีหนึ่งของวันที่ 18 ตุลาคม มีผู้โดยสารประกอบด้วย: กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล, หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล, หม่อมเจ้าพิไลยเลขา ดิศกุล, กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์พร้อมพระธิดา, กรมหมื่นอนุวัตจาตุรนต์, หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน์, พลโทพระยาวิชิตวุฒิไกร, พระยาอิศราธิราชเสวี และทหารรักษาวังสองกองร้อย

เมื่อนายเล้ง ศรีสมวงศ์ อธิบดีกรมรถไฟทราบข่าว จึงรีบส่งโทรเลขแจ้งสถานีรายทางล่วงหน้าว่า ทหารหลวงลักขบวนรถจักรออกจากวังก์พง ให้ทำการสกัดกั้น พนักงานกรมรถไฟจึงไปถอดรางรถไฟช่วงก่อนถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์ ขบวนรถไฟพิเศษไปต่อไม่ได้ต้องหยุดระหว่างทาง ทหารหลวงต้องช่วยกันถอดรางที่วิ่งที่ผ่านมาแล้วมาต่อเพื่อให้รถไฟเดินต่อไปได้ เมื่อขบวนรถไฟมาถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์ก็ถูกกักรถไม่ให้เดินทางต่อจนเกือบจะยิงกัน สมุหราชองครักษ์จึงโทรเลขไปยังรัฐมนตรีมหาดไทย พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์รีบนำความเข้าแจ้งนายกรัฐมนตรี พระยาพหลพลหยุหเสนาสั่งการอนุญาตให้รถไฟเดินได้ตลอดสายทาง

ทางด้านเรือพระที่นั่งศรวรุณน้ำมันหมดที่ชุมพร ต้องขึ้นฝั่งรอจนกระทั่งถึงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม จึงได้พบกับได้พบกับเรือวลัยของบริษัทอิสต์เอเชียติก กัปตันเรือวลัยชาวเดนมาร์กเชิญคณะของในหลวงขึ้นเรือวลัยและพ่วงเรือพระที่นั่งศรวรุณไปยังสงขลา ตกเย็นวันเดียวกันนั้น ขบวนรถไฟก็ไปถึงสงขลา พระบรมวงศ์ส่วนหน้ารีบไปจัดแจงสถานที่ในพระตำหนักเขาน้อยเตรียมรับในหลวง เรือวลัยเดินทางมาถึงอ่าวสงขลาในเช้าวันถัดมา