การบริโภคกรดไขมันโอเมกา-6 ของ กรดไขมันโอเมกา-6

งานศึกษาที่ได้ทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมแสดงว่า กรดไขมันโอเมกา-6 ควรทานในอัตราส่วน 1:1 เทียบกับกรดไขมันโอเมกา-3[31]แต่ก็มีข้อสังเกตอยู่แล้วว่า อาหารของคนปัจจุบันมีอัตราส่วนที่ 16:1 โดยหลักเนื่องกับน้ำมันพืช[31]กรดไขมันโอเมกา-6 กับโอเมกา-3 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่สร้างและสลายอาศัยเอนไซม์เดียวกัน ดังนั้น การทานในอัตราที่ไม่สมดุลจะมีผลต่อเมแทบอลิซึมของกรดอีกอย่าง[32]

งานศึกษาหนึ่งพบว่า อาหารเลี้ยงสัตว์มีผลมากต่อสารอาหารในเนื้อสัตว์ที่ขายให้ผู้บริโภค[33]งานหนึ่งได้ทดลองตรวจกรดไขมันในเนื้อที่ให้สัตว์กินหญ้าเทียบกับให้ธัญพืชแล้วสรุปว่า สัตว์ที่ได้หญ้าเป็นอาหารมีอัตราส่วนโอเมกา-6:โอเมกา-3 ที่นักโภชนาการเห็นดีกว่า[32]แต่ในการเกษตรปัจจุบัน สิ่งที่เน้นก็คือปริมาณผลผลิต ซึ่งได้ลดอัตรากรดไขมันโอเมกา-3 และได้เพิ่มกรดไขมันโอเมกา-6 อาศัยการเปลี่ยนแปลงธรรมดา ๆ เช่น ให้วัวกินธัญพืชแทน[16]เพราะทำให้เพิ่มน้ำหนักได้เร็วกว่าแล้วฆ่าได้เร็วกว่าเทียบกับสัตว์กินหญ้าวิธีเลี้ยงสัตว์ปัจจุบันเช่นนี้อาจเป็นตัวกำหนดอย่างหนึ่งว่า ทำไมอัตราส่วนของโอเมกา-6:โอเมกา-3 ที่มนุษย์บริโภคจึงได้สูงขึ้น

ใกล้เคียง

กรดไขมันโอเมกา-3 กรดไขมันโอเมกา-6 กรดไขมัน กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ กรดไขมันอิ่มตัว กรดไขมันจำเป็น กรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดไขมันทรานส์ กรดไฮโดรคลอริก

แหล่งที่มา

WikiPedia: กรดไขมันโอเมกา-6 http://www.nutrasource.ca/files/omega_3_chronic_no... http://www.bmj.com/rapid-response/2011/10/31/exces... http://www.highbeam.com/doc/1P3-1421893231.html http://www.medicalnewstoday.com/articles/29976.php http://riskfactor.cancer.gov/diet/foodsources/fatt... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11459870 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/12442909 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14559071 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14579680 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15234907