สถานการณ์ ของ การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย_พ.ศ._2565

     ดินแดนใต้การปกครองของยูเครน      ดินแดนใต้การปกครองของรัสเซีย

แนวรบตอนเหนือ

กองทัพรัสเซียมีความพยายามที่จะเข้ายึดครองเมืองเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน โดยการเคลื่อนทัพหลักเข้ามาจากทางประเทศเบลารุส บุกเข้ามาตามฝั่งตะวันตกของแม่น้ำนีเปอร์เพื่อเข้าปิดล้อมเคียฟ โดยมีทัพย่อยอีกสองทัพเคลื่อนเข้ามาจากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำนีเปอร์เพื่อให้การสนับสนุน ได้แก่ กองทัพที่เมืองแชร์นีฮิวและกองทัพที่เมืองซูมือ เคลื่อนเข้ามาเพื่อช่วยปิดล้อมเคียฟจากฝั่งตะวันออก[84][85]

ในวันแรกที่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครน รัสเซียสามารถยึดครองเชอร์โนบิลและปรือเปียตซึ่งเป็นเมืองร้างได้สำเร็จ[86][87] การเคลื่อนทัพของรัสเซียชะลอลงที่เมืองอีวันกิว ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณชานเมืองเคียฟ รัสเซียพยายามที่จะยึดครองเคียฟให้ได้ในเวลาอันสั้น โดยทำการโจมตีสนามบินสองแห่งใกล้เคียฟ และส่งหน่วยรบพิเศษสเปซนาซเข้าไปแทรกซึมเคียฟ แต่ความพยายามดังกล่าวล้มเหลว[88] นอกจากนี้ รัสเซียยังพยายามที่จะลอบสังหารประธานาธิบดียูเครนด้วย โดยส่งกองกำลังทหารรับจ้างและทหารจากเชชเนียเข้าไปปฏิบัติการ แต่ความพยายามดังกล่าวก็ล้มเหลวเช่นกัน โดยยูเครนอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ในหน่วยข่าวกรองของรัสเซียคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้ยูเครนสามารถขัดขวางแผนการได้สำเร็จ[89]

แนวรบตะวันออกเฉียงเหนือ

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 กองทัพรัสเซียสามารถเคลื่อนเข้าแคว้นแชร์นีฮิวที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนและปิดล้อมเมืองแชร์นีฮิวได้สำเร็จ ในวันถัดมา รัสเซียได้บุกเข้าเมืองกอนอตอป และสามารถยึดครองเมืองได้สำเร็จ[90][91]

ในวันเดียวกัน มีการเคลื่อนทัพเข้าแคว้นซูมือ และหน่วยรบของรัสเซียได้เข้าโจมตีเมืองซูมือ ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนรัสเซีย–ยูเครนแค่ 35 กิโลเมตร แต่การเคลื่อนทัพของรัสเซียในบริเวณนี้ก็หยุดลงเนื่องจากเกิดการสู้รบอย่างหนักในเมืองซูมือ แหล่งข่าวในประเทศยูเครนอ้างว่า ยานหุ้มเกราะของรัสเซียถูกทำลายมากกว่าหนึ่งร้อยคัน และมีทหารนับสิบนายถูกจับได้สำเร็จ[92] ในวันเดียวกัน มีรายงานว่าเมืองออคตือร์กาก็ถูกโจมตีเช่นกัน และมีรายงานว่ากองทัพรัสเซียมีการใช้ระเบิดสุญญากาศเพื่อโจมตีเมือง[93]

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายเฟรเดอริก เคแกน นักวิชาการชาวอเมริกัน เขียนวิเคราะห์สถานการณ์ในยูเครนว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียที่เมืองซูมือ “ถือเป็นการรุกรานที่ประสบความสำเร็จและอันตรายมากที่สุดในความพยายามที่จะรุกรานเคียฟ” นายเฟรเดอริกยังให้ความเห็นว่า สภาพทางภูมิศาสตร์ของบริเวณนั้นทำให้กองทัพรัสเซียได้เปรียบ เพราะเป็นพื้นที่โล่ง เรียบ และมีประชากรไม่หนาแน่น กองทัพรัสเซียจึงสามารถเคลื่อนอาวุธและเครื่องจักรกลได้ง่าย ส่วนฝ่ายยูเครนจะหาตำแหน่งป้องกันการรุกรานได้ยาก[94]

แนวรบตะวันออก

ที่ภาคตะวันออกของยูเครน กองทัพรัสเซียพยายามเข้ายึดครองเมืองคาร์กิว ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนแค่ 35 กิโลเมตร[95][96] ในระหว่างการสู้รบ รถถังของรัสเซียต้องเจอกับการต่อต้านอย่างหนักจากยูเครน และเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียก็ทำการยิงขีปนาวุธใส่เมืองคาร์กิว ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครนเรียกยุทธการครั้งนี้ว่า “สตาลินกราดแห่งศตวรรษที่ 21”[97]

เช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียทำการเคลื่อนทัพเข้ามาจากสาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์เพื่อเข้าโจมตีเมืองมารีอูปอล แต่เกิดการปะทะกับกองทัพยูเครนที่หมู่บ้านปาฟโลปีล ทำให้กองทัพรัสเซียพ่ายแพ้ไป[98][99][100] ในคืนวันนั้น กองทัพเรือของรัสเซียทำการโจมตีชายฝั่งทะเลอะซอฟ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมารีอูปอลไปทางตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า กองทัพรัสเซียอาจทำการเคลื่อนพลนับพันคนขึ้นบกที่ชายฝั่งดังกล่าว[101][102][103] ต่อมาในวันที่ 1 มีนาคม ผู้นำของสาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์ ระบุว่ากองทัพของดอแนตสก์สามารถล้อมเมืองวอลนอวาคาได้สำเร็จ ในวันที่ 2 มีนาคม กองทัพรัสเซียถูกผลักดันออกจากเมืองซีวีโรดอแนตสก์ หลังเกิดการปะทะกันที่เมืองดังกล่าว[104]

จนถึงวันที่ 18 มีนาคม เมืองมารีอูปอลก็ถูกปิดล้อมอย่างสมบูรณ์ เกิดการสู้รบที่ใจกลางเมือง ทำให้ประชาชนอพยพออกจากเมืองได้ยากขึ้น[105] ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม โรงเรียนศิลปะแห่งหนึ่งในเมืองมารีอูปอลซึ่งเป็นที่หลบภัยของผู้คนราว 400 คนก็ถูกวางระเบิดโดยรัสเซีย[106] ในวันเดียวกัน กองทัพรัสเซียก็ทำการปิดล้อมและโจมตีเมืองต่อไป โดยกองทัพรัสเซียต้องการให้มีการยอมแพ้อย่างสมบูรณ์ แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลของยูเครนไม่ยอม[44][107]

แนวรบทางอากาศ

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ กองกำลังรัสเซียได้โจมตีฐานทัพอากาศชูฮูย[108] ซึ่งเป็นที่จัดเก็บอากาศยานไร้คนขับของยูเครน การโจมตีครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับแหล่งจัดเก็บเชื้อเพลิงและโครงสร้างพื้นฐานของฐานทัพ[109] วันรุ่งขึ้น ฐานทัพอากาศมิลเลอร์โรโวในประเทศรัสเซียถูกกองกำลังทหารยูเครนโจมตีโดยใช้ขีปนาวุธ OTR-21 ทอชกา เจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่าขีปนาวุธทำลายเครื่องบิน ของกองทัพอากาศรัสเซียไปหลายลำ และทำให้เกิดเพลิงไหม้[110] [111] เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่ารัสเซียใช้ระบบขีปนาวุธ 9K720 อิสคานเดอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเบลารุส เพื่อโจมตีท่าอากาศยานจีโทมือร์ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานพลเรือน[112] [113] ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนหลายแห่งถูกทำลายหรือเสียหายในวันแรกของการรุกรานโดยการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย[114]

ใกล้เคียง

การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย การรุกของตอลิบาน พ.ศ. 2564 การรุกรานญี่ปุ่นของมองโกล การรุกที่เคียฟ พ.ศ. 2565 การรุกรานไซปรัสของตุรกี การรุกรานรัสเซียโดยฝรั่งเศส การรุกฤดูใบไม้ผลิ การรุกรานอิหร่านของบริเตนและสหภาพโซเวียต การรุกคอร์ซุน-เชฟเชนคอฟสกี การรุกร้อยวัน

แหล่งที่มา

WikiPedia: การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย_พ.ศ._2565 //www.amazon.com/dp/B01LYEJ56H http://dev-isw.bivings.com/ http://www.kyivpost.com/content/ukraine/armed-pro-... http://www.theguardian.com/world/2014/nov/06/ukrai... //openlibrary.org/books/OL32226712M http://www.rferl.org/content/was-yanukovychs-ouste... //www.worldcat.org/issn/0013-0613 //www.worldcat.org/issn/0140-0460 //www.worldcat.org/issn/0261-3077 //www.worldcat.org/issn/0362-4331