ในที่ทำงาน ของ ความตลกขบขัน

ในประสบการณ์มนุษย์ ความตลกขบขันเป็นสิ่งที่มีทั่วไป เป็นธรรมชาติ และมีความหมาย และดังนั้น จึงมีความสำคัญสำหรับองค์กรต่าง ๆ เช่นในที่ทำงาน[9]

บทบาทสำคัญของการหัวเราะและความสนุกสนานในที่ทำงานพิจารณาว่าเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม และปรากฏเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ช่วยผู้ทำงานให้รู้สึกมีส่วนร่วม[10]อารมณ์ขันในที่ทำงานไม่เพียงช่วยบรรเทาความเบื่อเท่านั้นแต่สามารถสร้างความสัมพันธ์ เสริมความเป็นมิตรระหว่างเพื่อนร่วมงานและทำให้รู้สึกดีในที่ทำงาน[9]

อารมณ์ขันในที่ทำงานยังสามารถลดความเครียดและใช้เป็นกลยุทธ์รับมือความเครียด[9]จริง ๆ แล้วที่นักวิชาการมีมติร่วมกันมากที่สุดถึงประโยชน์ของอารมณ์ขันก็คือผลต่อความอยู่เป็นสุข (well being) โดยใช้มุกตลกเป็นกลยุทธ์รับมือความเครียดในชีวิตประจำวัน อุปสรรค และความยากลำบากต่าง ๆ[9]การแชร์เรื่องตลกกับผู้ร่วมงานอาจช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ทำให้มีความสุข ซึ่งช่วยให้รู้สึกว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น[9]ความสนุกและความเพลิดเพลินเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ในชีวิต และการที่ผู้ร่วมงานหัวเราะในช่วงการทำงานไม่ว่าจะโดยการพูดเย้าแหย่หรือวิธีการอื่น ๆ จะช่วยเสริมความกลมกลืนสามัคคีและความเป็นกลุ่มก้อน[9]

มุกตลกยังสามารถใช้ลดความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับงานที่ต้องทำและช่วยลดการใช้ถ้อยคำหยาบคาย หรือกลยุทธ์การรับมืออื่น ๆ ที่อาจรับไม่ได้ทางสังคม[9]ความตลกขบขันไม่เพียงแค่ช่วยลดอารมณ์เชิงลบ แต่ยังสามารถใช้เป็นวิธีการระบายประสบการณ์ที่ทำให้เจ็บใจ โดยพูดแบบเบา ๆ กว่า ซึ่งในที่สุดช่วยลดความวิตกกังวลและช่วยให้อารมณ์สุข เป็นบวก เกิดขึ้นได้บ่อยกว่า[9]

นอกจากนั้นแล้ว มุกตลกยังสามารถใช้ลดความเจ้ากี้เจ้าการของเจ้านายเมื่อสั่งลูกน้องเจ้านายยังสามารถพูดถึงตนเองแบบขำ ๆ เพื่อให้ลูกน้องรู้สึกว่าเจ้านายเหมือนคนอื่น ๆ มากขึ้น[9]ยิ่งไปกว่านั้น งานศึกษาทางชาติพันธุ์วรรณนา (ethnography) ในที่ทำงาน ยืนยันว่า ความสนุกสนานสำคัญในที่ทำงาน[10]

เพราะบริษัทนำสมัยเริ่มให้ความสำคัญกับความสนุกสนาน จึงเปลี่ยนการบริหารผู้ทำงานโดยมองว่าความสนุกสนานในที่ทำงานจะมีผลบวก และไม่จำเป็นต้องตัดทอนประสิทธิภาพการทำงานของลูกจ้าง[10]การหัวเราะและการเล่นสามารถทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจดังนั้นเพื่อที่จะให้ลูกจ้างยอมรับความเร่งรีบในการทำงาน นักบริหารบ่อยครั้งจะไม่สนใจ ยอมทน หรือแม้แต่สนับสนุนให้มีการเล่น เพื่อประโยชน์ต่อจุดมุ่งหมายขององค์กร[10]คือ โดยทั่วไปแล้ว ความสนุกสนานในที่ทำงานปัจจุบันไม่พิจารณาว่าเป็นเรื่องเหลวไหล[10]

วิธีการล่าสุดในเรื่องนี้มากจากทวีปอเมริกาเหนือที่ศาสตร์รุ่งเรืองถึงกับว่ามีผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มความสนุกสนานในที่ทำงาน และบางรัฐถึงกับมีวัน "สนุกในที่ทำงาน" เป็นทางการ[10]ผลที่ได้มีผู้อ้างว่ามีประโยชน์ต่อความอยู่เป็นสุขของผู้ทำงาน ช่วยให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน[10]

ส่วนนักวิชาการอื่น ๆ พิจารณาขบวนการนี้จากมุมมองของวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความสุขซึ่งพุ่งความสนใจไปในเรื่องสุขภาพจิต แรงจูงใจ การพัฒนาชุมชน และความอยู่เป็นสุขของประชากรทั้งประเทศ รวมทั้งสมรรถภาพในการสร้าง flow (คือการมีสมาธิทำงานอย่างรู้สึกมีกำลัง มีส่วนร่วม และความสุขในการกระทำนั้น ๆ) ผ่านการเล่น และช่วยกระตุ้นให้คิดสร้างสรรค์นอกแบบ[10]

ศาสตร์ขนานกับกระบวนการนี้ ก็คือ จิตวิทยาเชิงบวก ซึ่งมุ่งพัฒนาศักยภาพของมนุษย์โดยใช้ทฤษฎีที่รับรองโดยหลักฐาน[10]และเสนอว่า การลงทุนในที่ทำงานโดยให้มีการหัวเราะและการเล่นไม่เพียงแต่สร้างความเพลิดเพลินและความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดี แต่ยังจะช่วยเพิ่มพลัง ประสิทธิภาพ และความมุ่งมั่นในการทำงาน[10]

ใกล้เคียง

ความตาย ความตลกขบขัน ความตกลงมิวนิก ความต้านทานและการนำไฟฟ้า ความตกลงปางหลวง ความตกลงการสงบศึกเกาหลี ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า ความตกลงอังกฤษ-รัสเซีย ความตกลงเชงเกน

แหล่งที่มา

WikiPedia: ความตลกขบขัน http://www.emeraldinsight.com/doi/abs/10.1108/0142... http://www.leaonline.com/doi/abs/10.1207/s1532785x... http://www.mentomusic.com/flea.htm http://www.quotationspage.com/quote/984.html http://www.uni-duesseldorf.de/WWW/MathNat/Ruch/PSY... http://www.hup.harvard.edu/catalog.php?isbn=978067... http://u.osu.edu/mclc/files/2014/09/intro20.2-158j... http://etd.library.pitt.edu/ETD/available/etd-1103... http://www-cs-faculty.stanford.edu/~uno/smullyan.h... http://www.ucpress.edu/book.php?isbn=9780520283848