ความผิดปกติของการรับประทาน (
อังกฤษ: eating disorder) เป็น
ความผิดปกติทางจิตซึ่งนิยามจากนิสัยการกินที่มีผลกระทบทางลบต่อสุขภาพทางกายหรือจิตของบุคคล
[2] ได้แก่ ความผิดปกติของการรับประทานแบบตะกละ (binge eating disorder) ซึ่งบุคคลกินปริมาณมากในเวลาอันสั้น
โรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจซึ่งบุคคลกินน้อยมากและมีน้ำหนักตัวต่ำ
โรคบูลิเมีย เนอร์โวซา ซึ่งบุคคลกินมากและพยายามล้วงเอาอาหารออกเอง
อาการกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร (pica)
ความผิดปกติแบบสำรอก (rumination) ความผิดปกติเลี่ยง/จำกัดการกินอาหาร (avoidant/restrictive food intake disorder) ซึ่งบุคคลไม่อยากอาหาร และกลุ่มความผิดปกติของการให้อาหารหรือการรับประทานที่จำแนกไว้อื่น มักพบโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้าและการใช้สารเสพติด (substance abuse) ในผู้ที่มีความผิดปกติของการรับประทาน
โรคอ้วนไม่นับว่าเป็นโรคกลุ่มนี้
[2]สาเหตุของความผิดปกติของการรับประทานยังไม่ชัดเจน
[3] ดูเหมือนทั้งปัจจัยทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมมีผลทั้งคู่ เชื่อว่าวัฒนธรรมยกยอความผอมก็มีส่วนเช่นกัน ความผิดปกติของการรับประทานพบในร้อยละ 12 ของนักเต้นรำ
[4] ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศมีโอกาสเกิดความผิดปกติของการรับประทานมากขึ้น
[6] ความผิดปกติบางชนิด เช่น อาการกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหารและความผิดปกติแบบสำรอกเกิดในผู้มีสติปัญญาบกพร่องมากกว่า ทั้งนี้ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งจะสามารถวินิจฉัยความผิดปกติของการรับประทานได้อย่างเดียวเท่านั้น
[2]การรักษาได้ผลสำหรับความผิดปกติของการรับประทานหลายชนิด ตรงแบบมักใช้การให้คำปรึกษา อาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกายปริมาณปกติ และการลดความพยายามล้วงอาหารออก
[1] บางกรณีอาจจำเป็นต้องรับเข้ารักษาในโรงพยาบาล
[1] อาจใช้ยาสำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีอาการร่วม ในเวลาห้าปี ผู้ป่วยโรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจร้อยละ 70 และอาการหิวไม่หายร้อยละ 50 กลับเป็นปกติ การฟื้นจากความผิดปกติของการรับประทานแบบตะกละมีความชัดเจนน้อยกว่าและประมาณไว้ระหว่างร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 60 ทั้งโรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจและอาการหิวไม่หายเพิ่มโอกาสเสียชีวิต
[7]ในปีหนึ่ง ประเทศพัฒนาแล้วพบความผิดปกติของการรับประทานแบบตะกละในหญิงประมาณร้อยละ 1.6 และชายร้อยละ 0.8 โรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจพบในประชากรประมาณร้อยละ 0.4 และอาการหิวไม่หายในหญิงอายุน้อยประมาณร้อยละ 1.3
[2] หญิงมากถึงร้อยละ 4 มีโรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจ ร้อยละ 2 มีอาการหิวไม่หาย และร้อยละ 2 มีความผิดปกติของการรับประทานแบบตะกละในช่วงใดช่วงหนึ่ง
[7] โรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจและอาการหิวไม่หายเกิดในหญิงมากกว่าชายเกือบ 10 เท่า
[2] ตรงแบบเริ่มในปลายวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
[1] อัตราของความผิดปกติของการรับประทานแบบอื่นไม่ชัดเจน อัตราของความผิดปกติของการรับประทานดูพบน้อยกว่าในประเทศที่ด้อยพัฒนากว่า
[8]