ประวัติ ของ จอตา

จอร์จ วอลด์, ฮัลดาน เค็ฟเฟอร์ ฮาร์ตลายน์, และแร็กนาร์ แกรนิต ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์เพราะงานวิจัยวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรตินา[49]

งานวิจัยเร็ว ๆ นี้ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียคำนวณอัตราการส่งถ่ายข้อมูลของเรตินามนุษย์ได้ประมาณ 8.75 เมกะบิตต่อวินาทีเทียบกับของหนูตะเภาที่ 875 กิโลบิตต่อวินาที[50]

แม็คลาเร็น เพียร์สัน และคณะที่ University College London และโรงพยาบาลจักษุมัวร์ฟิลดส์ในมหานครลอนดอนแสดงในปี ค.ศ. 2006 ว่า สามารถทำการเปลี่ยนเซลล์รับแสงในเรตินาของหนูได้ ถ้าเซลล์ที่รับอยู่ในระยะพัฒนาการวิกฤต (critical developmental stage)[51] เร็ว ๆ นี้แอ็ดเดอร์และคณะในเมืองดับลินแสดงด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนว่า เซลล์รับแสงที่เปลี่ยนให้หนูนั้น เกิดการเชื่อมต่อทางไซแนปส์[52]

ในปี ค.ศ. 2012 เซบาสเชียน ซุง และคณะทำงานที่แล็บในสถาบัน MIT ได้จัดตั้งเกมส์ EyeWireที่ผู้เล่นสามารถตามรอยนิวรอนในเรตินาได้[53] จุดประสงค์ของโปรเจ็กต์ EyeWire ก็เพื่อจะระบุประเภทของเซลล์โดยเฉพาะ ๆ จากเซลล์เรตินาประเภทต่าง ๆ และเพื่อจะสร้างแผนที่การเชื่อมต่อกันของเซลล์ประสาทในเรตินาซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้เข้าใจการทำงานของระบบการเห็น[54][55]

แหล่งที่มา

WikiPedia: จอตา http://bionic.gsbme.unsw.edu.au/ http://www.australianmuseum.net.au/How-spiders-see... http://www.unifr.ch/ifaa/Public/EntryPage/TA98%20T... http://www.nature.com/nature/journal/v444/n7116/ab... http://www.newscientist.com/article/dn9633-calcula... http://www.technologyreview.com/Biotech/17768 http://www.techreview.com/articles/04/09/demo0904.... http://www.bu.edu/histology/p/07901loa.htm http://neuro.med.harvard.edu/site/dh/index.html http://stanford.edu/group/vista/cgi-bin/FOV/chapte...