ข้อมูลจากในประเทศจีน ของ จักรพรรดินีวั่นหรง

เป็นการยากที่จะอธิบายได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์นั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร บ้างก็หาว่าสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋เป็นเกย์บ้าง เป็นหมันบ้าง เห็นภรรยาสตรีทุกคนเป็นเพียงเครื่องมือบ้าง แต่ว่ามีนักวิชาการหลายรวมทั้งโกวปู้โลว หลั่นเคี๋ยวพระอนุชาต่างมารดาของสมเด็จพระจักรพรรดินีหว่านหรงคนแย้งว่าหนังสือบันทึกของหมอ เอ็ดเวิร์ด เบอฮ์ และจากภาพยนตร์ The Last Emperor นั้นถูกบิดเบือนความจริงเป็นอย่างมาก หลักฐานทั้งสองนั้นอยู่บนพื้นฐานของบันทึกสารภาพของผู่อี๋ซึ่งเป็นบันทึกสารภาพที่ผู่อี๋ถูกบังคับให้เขียนขึ้นในคุกนักโทษทางการเมืองเพื่อที่จะให้ผู่อี๋ได้มีโอกาสกลับตัวกลับใจและถูกปล่อยตัวเป็นอิสระจากคุก หลังจากนั้นบันทึกสารภาพเหล่านี้ก็ได้ถูกนำไปเป็นโฆษณาชวนเชื่อโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่อแสดงให้เห็นว่าทางพรรคนั้นมีความเมตตาและทำให้เห็นว่าทางพรรคได้ชี้ทางแสงสว่างในชีวิตใหม่ให้กับทุก ๆ คนได้ ข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติของผู่อี๋ถูกเขียนโดยชาวอเมริกันนั้นส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นเรื่องอื้อฉาว, แบ่งชนชั้น และไม่แม่นยำ หรือไม่ก็รวมทั้งสามอย่างไว้ด้วยกัน เพราะในสมัยนั้นโลกตะวันตกยังใส่ร้ายป้ายสีโลกตะวันออกอย่างมากต่อเนื่องมาจนถึงสมัยของประเทศจีนคอมมิวนิสต์ในปัจจุบันด้วย แต่ในทางกลับกัน ข้อมูลที่ถูกเขียนขึ้นมาจากในประเทศจีนนั้นมีข้อมูลมากมายที่ล้นหลาม สามารถที่จะล้มล้างข้อมูลที่ถูกเขียนโดยชาวตะวันตกได้อย่างรุนแรง

ข้อมูลจากในประเทศจีนแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อนข้างจะเป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้องหรือเพื่อนสมัยเด็กมากกว่าความสัมพันธุ์แบบสามี-ภรรยา เพราะว่าสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋นั้นแทบจะไม่มีเพื่อนเลยตั้งแต่พระองค์ยังเด็กเนื่องจากการที่ถูกควบคุมให้เป็นเพียงสัญลักษณ์อยู่ในพระราชวังต้องห้ามเท่านั้นและทั้งสองพระองค์ต่างมารู้จักกันได้จากการคลุมถุงชน พระนางหว่านหรงเข้ามามีบทบาทในชีวิตของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ครั้นการอภิเษกสมรสโดยการถูกคลุมถุงชน (โดยมีเหล่าพระสนมเก่าของฮ่องเต้องค์เก่าก่อนหน้านั้นในวังเป็นผู้เลือกให้ ถึงแม้ว่าผู่อี๋จะเลือกเหวินซิ่วก่อนแล้วก็ตาม) ตั้งแต่ทั้งสองมีพระชนมมายุเพียงแค่ 16 พรรษา สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋มักจะใช้เวลาแทบทั้งชีวิตของพระองค์ไปกับหว่านหรงและค่อนข้างที่จะแสดงออกถึงความหึงหวงและเอ็นดูในพระนางอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่พระนางทรงเรียนหนังสือและเล่นกับเพื่อน ๆ ด้วย พฤติกรรมเช่นนี้ยังเป็นที่ปฏิบัติโดยจักรพรรดิผู่อี๋ต่อเนื่องไปจนถึงภายหลังที่ย้ายไปหนีภัยอยู่ที่เทียนสิน แต่ผู่อี๋ก็ได้เกิดความวิตกและเครียดเพิ่มมากขึ้นด้วยหลังจากหลายเหตุการณ์ เช่นที่สนมเอกเหวินซิ่วได้หย่าจากพระองค์ไป, การถูกไล่ออกจากพระราชวังต้องห้ามไปอยู่ที่แมนจูกัวภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่นและรวมถึงการที่สุสานราชวงศ์ชิงถูกทำลายและปล้นโดยกองทัพก๊กมินตั๋งของนายพลเจียงไคเช็กอีก แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระนางหว่านหรงนั้น ทรงเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ผู้ซึ่งสูญเสียแทบทุกสิ่งที่พระองค์รัก และเนื่องด้วยจากการที่จักรพรรดิผู่อี๋ทรงสนิมสนมกับผู่เจี๋ย ลูกพี่ลูกน้องของพระองค์และเช่นเดียวกันกับโกวปู้โลว หลั่นเคี๋ยวผู้ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของหว่านหรงด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระนางหว่านหรงทรงเป็นศูนย์รวมความมั่นคงทางความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของทั้งสามเข้าไว้ด้วยกัน

ใกล้เคียง

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิคังซี จักรพันธ์ แก้วพรม จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีโคไลที่ 2 แห่งรัสเซีย จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย