บั้นปลายชีวิตของจักรพรรดินีหว่านหรง ของ จักรพรรดินีวั่นหรง

จักรพรรดินีหว่านหรง

ในยุคบั้นปลายชีวิตของจักรพรรดินีหว่านหรง ครั้งสุดท้ายที่สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ได้เห็นสมเด็จพระจักรพรรดินีหว่านหรงคือที่แมนจูกัว ตอนที่พระองค์กำลังขึ้นเครื่องบินเพื่อหลบหนีไปที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเครื่องบินมีขนาดเล็ก ผู่อี๋เลือกเฉพาะผู่เจี๋ยผู้เป็นพระอนุชาของพระองค์ พระนัดดาชาย 3 องค์ และหมอหนึ่งคนให้ไปกับพระองค์ พระองค์ทรงเลือกเฉพาะคนที่สำคัญกับอาณาจักรใหม่ของพระองค์เท่านั้น สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ทรงมีแนวโน้มที่จะรักษาชีวิตของพระองค์เองมากกว่าคนอื่น ๆ ในพระราชวงศ์ บางข้อมูลกล่าวว่าพระองค์ทรงมีความคิดว่าทหารจะประนีประนอมกับนักคุมขังเพศหญิงมากกว่าเพศชาย พระองค์จึงเห็นสมควรว่า พระนางหว่านหรงและพระสนมจะไม่ต้องมาระเหเร่ร่อนกับพระองค์ พระองค์จึงปล่อยพระนางเดินทางด้วยรถไฟ แต่แผนหลบหนีของพระองค์ก็ทรงล้มเหลวโดยกองพันทหารของโซเวียตเป็นผู้บุกมาจับกุมเองระหว่างที่กำลังเตรียมการนำเครื่องบินหลบหนีของพระองค์ขึ้น

สมเด็จพระจักรพรรดินีหว่านหรงเป็นที่อยากรู้อยากเห็นอย่างมากกับสายตาของสาธารณชนที่ตั้งใจมาดูพระนางในห้องคุมขังที่คุกในหยานจิ พระนางทรงหมดสติบนพื้นที่มีแต่กองพระบังคนเบาและพระอาเจียนของพระนางหว่านหรงเอง ทำให้เป็นที่น่าหดหู่กับผู้ที่มาพบเห็นเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งที่สมเด็จพระจักรพรรดินีหว่านหรงจะตะโกนออกคำสั่งผู้คุมห้องคุมขังเหมือนสมัยที่พระนางยังพำนักอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ พวกผู้คุมจะหัวเราะทุกครั้งที่พระนางแสดงพระอิริยาบถเหมือนสมัยที่ยังอยู่พำนักในพระราชวังต้องห้าม หว่านหรงทรงมีเจ้าหญิงซะงะ ฮิโระและพระราชธิดาคอยดูแลสรงน้ำให้กับพระนางหว่านหรงผู้กำลังจะสิ้นพระทัยขณะที่ยังทรงถูกขังอยู่ด้วยกันในห้องคุมขัง จนกระทั่งเจ้าหญิงซะงะ ฮิโระะและพระราชธิดา ได้ทรงถูกย้ายออกจากคุก ทรงเหลือแต่เพียงสมเด็จพระจักรพรรดินีหว่านหรงอยู่พระนางเดียวในคุกอย่างสิ้นหวังและเดียวดาย

สมเด็จพระจักรพรรดินีหว่านหรงเสด็จสวรรคตในคุกที่เมืองหยานจิ ในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เพราะพระอาการข้างเคียงที่มาจากที่พระองค์ทรงพยายามเลิกฝิ่น ด้วยพระชนมายุเพียง 39 พรรษา พระบรมศพถูกเผาในสุสานของคุกที่เมืองหยานจิน เป็นงานศพที่เรียบง่ายและไม่สมกับพระอิสริยยศของจักรพรรดินี โดยที่สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ทราบข่าวของหว่านหรงในอีก 3 ปีต่อมาขณะที่สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋เองก็ยังทรงถูกคุมขังอยู่ในคุก จากคำพูดของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋เองว่า "ทางของเราแยกจากกันตอนที่ทหารญี่ปุ่นยอมแพ้ การเสพติดฝิ่นของเธอหนักมากและร่างกายของเธอได้อ่อนแอลงไปอย่างมาก เธอตายในอีกไม่กี่ปีต่อมาในคุกที่หยานจิน"

แต่สิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ คือคำพูดในบันทึกของสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ "ข้าพเจ้าได้สมรสกับภรรยาสี่คน มเหสีหนึ่งคน สนมเอกหนึ่งคน และสนมรองอีกสองคน แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเธอไม่ได้เป็นภรรยาจริงของข้าพเจ้า พวกเธอมีไว้เพื่อประดับหน้าเท่านั้น พวกเธอทั้งหมดเป็นผู้โชคร้ายของข้าพเจ้า...ถ้าโชคชะตาของพวกเธอไม่ได้มาพร้อมกับการเกิดของพวกเธอ บั้นปลายชีวิตของพวกเธอคงจะไม่ได้เป็นเช่นนี้" เป็นการยากที่จะบอกได้ว่าข้อมูลส่วนนี้ได้ถูกผู้อื่นแต่งเติมลงไปหรือไม่ อย่างไรก็ดีก็เป็นข้อความที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ใกล้เคียง

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิคังซี จักรพันธ์ แก้วพรม จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีโคไลที่ 2 แห่งรัสเซีย จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย