พระเจ้าแปรในฐานะประเทศราช ของ ตะโดธรรมราชาที่_1

เส้นทางการขึ้นครองราชย์

หลังการล่มสลายของอาณาจักรพุกาม พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงปรารถนาจะขยายพระราชอำนาจ แห่งอาณาจักรตองอูให้แผ่ไพศาล ทรงเริ่มประกาศสงครามเพื่อรวบรวมอาณาจักร โดยทรงมีเมงเยสีหตูและตะโดธรรมราชาเป็นที่ปรึกษาในราชการทั้งการปกครองและการศึกสงคราม แต่ทั้งสองนั้นก็มิได้เชี่ยวชาญยุทธวิธีนัก จึงมักได้รับโปรดเกล้าให้สำเร็จราชการแทนพระองค์เมื่อทรงกรีฑาทัพไปทำศึก พระองค์เคยสำเร็จราชการกรุงหงสาวดีแทนพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ไปตีเมืองเมาะตะมะ รบกับสอพินยา ในปี พ.ศ. 2083 ครั้งที่ 2 เมื่อทรงยกทัพไปตีเมืองแปร รบกับกับพระเจ้ามังฆ้อง เมื่อสำเร็จโทษพระเจ้ามังฆ้องแล้ว ก็จึงตั้งตะโดธรรมราชาให้ครองเมืองแปร[7]

สงครามกับอาณาจักรสยาม

สมเด็จพระสุริโยทัย (กลาง) ยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปรตะโดธรรมราชา (ซ้าย) ป้องกันสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (ขวา)

ในปี พ.ศ. 2091 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงกรีฑาทัพใหญ่ หมายจะพิชิตกรุงศรีอยุธยา ซึ่งในทัพก็มีพระเจ้าแปรตะโดธรรมราชาและเมงเยสีหตูนำทัพมาร่วมด้วย[8] ในสงครามครั้งนั้น พระเจ้าแปรทรงเป็นทัพหน้า เข้าตีทัพของพระมหาธรรมราชา เจ้าเมืองพิษณุโลก แล้วล่าถอยมา ซึ่งมีทัพของพระยาพะสิม และพระอุปราชบุเรงนองซุ่มรออยู่ ทัพเมืองพิษณุโลกต้องกลศึกกระหนาบ ทัพหลวงของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้นำทัพเข้าสมทบตีทัพพระมหาธรรมราชา ขณะนั้น สมเด็จพระมหาจักรพรรดินำทัพหลวงมาสมทบตีโต้ และได้กระทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปร พระองค์ทรงเสียทีพระเจ้าแปร เบี่ยงพระคชาธารหนี สมเด็จพระสุริโยทัย เบี่ยงพระคชาธารเข้ามารับแทน และถูกพระเจ้าแปรฟันด้วยพระแสงของ้าว สิ้นพระชนม์ขาดคอช้าง พระบรมดิลกเข้าสัประยุทธ์กับพระเจ้าแปร ก็ถูกฟันขาดคอช้างเช่นเดียวกัน อย่างไรเสียเหตุการณ์คราวเสียพระสุริโยทัยนี้ไม่ปรากฏพบในพงศาวดารพม่า

หลังจากที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ถอยทัพออกจากกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทรงขึ้นไปตีหัวเมืองเหนือ พระเจ้าแปร เข้าตีเมืองกำแพงเพชร แต่มิสามารถหักเอาเมืองได้ ฝ่ายอยุธยา นำโดยพระมหาธรรมราชา พระราเมศวร พระมหินทร์ นำทัพไปตามตีทัพหงสาวดี แต่ถูกกลศึกพระอุปราชบุเรงนองปิดล้อม[3][9] โดยมีทัพพระเจ้าแปร ไพร่พล 1,500 นาย ช้าง 50 เชือก ม้า 300 ตัว เป็นปีกขวา และเมื่อจับกุมทั้งหมดเป็นเชลยศึกได้ ทำให้สถานการณ์ขณะนั้น สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ต้องส่งช้างเผือกไปไถ่พระโอรสและพระชามาดาออกมา[10][11]