ประวัติ ของ ที่สูงแคเมอรอน

Map of the Cameron Highlands.

ที่สูงแคเมอรอน ชื่อนี้มาจากท่านเซอร์ วิลเลี่ยม คาเมรอน นักสำรวจชาวอังกฤษที่ได้รับหน้าที่จากรัฐบาลสมัยอาณานิคมในบริเวณเขตแดนรัฐปะหัง-เปรักในปี 1885

จากแผนที่บันทึกการเดินทางที่คาเมรอนได้กล่าวไว้ เขาเห็นว่า "ให้มีการเรียงลำดับการแสน้ำวนบนภูเขา โดยแบ่งตาม(พอสมควร)พื้นที่กว้างที่มีความชันไต่ระดับและที่ราบสูง"

เมื่อถึงเวลาต่อมา ท่านเซอร์ ฮิว โล ผู้อาศัยในเมืองเปรัก(1887-1889) ได้แสดงความปรารถนาที่จะพัฒนาเมืองในเขตนี้ ให้มีทั้ง "สถานพักฟื้น, สถานพักตากอากาศเพื่อสุขภาพ และแหล่งเพาะปลูกพืชแบบเปิด" เส้นทางที่แคบเพื่อที่จะมาถึง "ดินแดนแห่งคาเมรอน" เป็นเส้นทางที่ผ่านป่าทึบ หากเลยจากเส้นทางนี้แล้วการเดินทางก็จะสะดวกขึ้น

The quietude of the Cameron Highlands.

40 ปีต่อมา, เทเบิ้ลแลนด์ ได้รับการตรวจสอบอีกครั้งเมื่อท่านเซอร์ จอร์จ แมคเวล(1871-1959) ได้มาเยี่ยมชมสถานที่แล้วได้เปลี่ยนมาทำเป็นสถานพักตากอากาศ ต่อมาหัวหน้าเลขาธิการของสหพันธรัฐมาลายู(1921-1926) ได้ใช้เวลา 9 วันสำรวจดินแดนบริเวณนี้ ในช่วงเวลานั้นรัฐบาลกำลังหาสถาที่พักผ่อนเพื่อเป็นส่วนเติมเต็มสถานที่เฟรเซอร์ ฮิลล์(ภาษามลายู: บูกิต เฟรเซอร์) เฟรเซอร์ ฮิลล์ ถูกตัดออกจากแผนการขยายเนื่องจากถูกจำกัดด้วยขนาดและขาดแรงดึงดูด

หลังจากการกลับมาจากที่ราบสูงของแมคเวล เขาได้บรรยายถึงที่ราบสูงนี้ว่า "อะไรบางอย่างที่มีรูปร่างรี" หลังจากเปรียบเทียบแต่ละพื้นที่เมื่อเทียบกับนูวารา อีรีย่า ในประเทศศรีลังกา และ บากรูโอ ในประเทศฟิลิปปินส์ เขาจึงมีคำสั่งที่ดินแห่งนี้จะต้องพัฒนาเป็นสถานีเขา

ในช่วงกลางปี 1925 สถานีทดลองเกษตรกรรมได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่า ต้นซิงโคนา,ต้นชา, ต้นกาแฟ, ผลไม้และผัก สามารถปลูกที่ตำบลนี้ได้จริง ในเดือนธันวาคม ปี 1925 เจ้าหน้าที่ดูแลได้มีการนัดหมายตรวจตราพื้นที่ไร่ 200 เอเคอร์บนภูเขาบีเรมแบน ในขณะที่นักวิจัยบนสถานีได้เริ่มดำเนินการ สำนักงานอาณานิคมก็ได้มอบหมายให้ กัปตัน ซี.ซี. เบส นักสำรวจจากสหพันธรัฐมาเลเซียให้สำรวจแม่น้ำเทลอม (ภาษามลายู: ซันเก เทลอม) จากรายงานประจำปีของฝ่ายสำรวจ(1925) พบว่า "อูรูของเทลอมมีพื้นที่จริงคดเคี้ยวไปมาตามที่คาเมรอนกล่าว" และ "เขาเป็นผู้ที่มาก่อนและเรียกสิ่งนี้ว่า คาเมรอน ไฮแลนด์ เพื่อที่จะเป็นฐานในการเปรียบเทียบจากการข้ามไปหุบเขาเทลอม เขาทำแผนที่เส้นทางน้ำที่มุ่งไปสู่เทลอมและการสำรวจของเขาทำให้สถานที่นี้ถูกสร้างอย่างแน่นอนซึ่งทำให้พื้นที่อูรูของเบอแทง(เบอแทม?) เป็นที่เหมาะแก่การพัฒนามากที่สุดจนยากที่จะหาที่อื่นมาเทียบได้

THE OTHER SIDE OF CAMERONHe (Sir William Cameron) mapped out the high tableland on the Perak-Pahang borders known since as the Cameron Highlands and used to return to กัวลาลัมเปอร์ at unpredictable intervals bringing samples of unexploited mineral deposits.

TAMING THE JUNGLE, page 72[5]

จากรายงานนี้ควบคู่ไปกับการปลูกชาที่เติบโตได้ดี ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้อังกฤษเร่งพัฒนาพื้นที่นี้

Township of Brinchang (c. 2012).

ในปี 1926 คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ได้แบ่งแยกโซนทุ่งหญ้าพุ่มเตี้ยเพื่อการเกษตร, การป้องกัน, การจัดการ, ที่อยู่อาศัย และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ต่อมาถนนมูลค่า 3 ล้านดอลล่าห์ก็ได้ถูกสร้างขึ้นจากทาพาธไปที่ไฮแลนด์ โดยเริ่มต้นจากไมล์ที่ 19 ถนนทาพาธ-ปะหัง และไปสิ้นสุดที่จินติ้ง"บี"(ทานา ราตะ)

สัญญาในปีที่ 3 ได้รับรางวัลแด่นายฟอร์กเดน บริสเบนและบริษัท การสร้างครั้งแรกใช้เงินจำนวน 250,000 ดอลล่าร์ในการสร้างเมื่อปี 1926 โครงการเริ่มต้นวันที่ 1 มกราคม 1928 และเสร็จสิ้นวันที่ 14 พฤศจิกายน 1930 โดยสร้างเสร็จก่อนกำหนด 47 วัน

อาคารของถนนเส้นนี้ถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย ลูกจ้างไม่เพียงต้องเผชิญกับสภาพอากาศแต่พวกเขายังต้องรับมือกับโรคมาเลเรีย ในระหว่างการก่อสร้าง ในระดับคนทำงานมีจำนวนคนตั้งแต่ 500 ถึง 3,000 คน ตลอดสัญญามีพนักงาน 375 คนต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคไข้

ปัญหาใหญ่ที่สุดที่ต้องเผชิญกับผู้รับเหมาคือการขนส่งสินค้าที่เครื่องจักรกลขนาดหนักจากที่ราบไปสู่ที่สูงกว่า ความพ่ายแพ้สามารถเอาชนะด้วยการใช้หัวรถจักรไอน้ำที่ออกแบบสำหรับการใช้งานที่ต้องไล่ระดับความชัน

NEW ROAD TO RETREATCommunication between this remote plateau in รัฐปะหัง and the outer world will be provided by a road 41 miles long from Tapah to the hill station. The first twelve miles of that road have been in existence for some years, and another three miles were added by the F.M.S. Public Works Department comparatively recently. The remaining 26 miles are being constructed by Fogden, Brisbane and Co., and the cost of the work to the F.M.S. Government will be something like $3,000,000.

The Straits Times, Thursday, June 7, 1928, page 8.[6]

เมื่อถนนเปิดในปี 1931 ชาวอังกฤษและคนในพื้นที่ได้ย้ายไปอยู่บนไหล่เชิงเขา พวกเขาเป็นนักปลูกชาและชาวสวนปลูกผักแล้วเขาก็พบว่าภูมิอากาศที่นี่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชผลของพวกเขาเป็นอย่างดี

ในช่วงกลางปี 1930 ดินแดนมีการปรับปรุงอย่างมีชื่อเสียง มีสนามกอล์ฟ 6 หลุม, กระท่อมหลายหลัง, โรงแรมขนาดเล็ก 3 แห่ง, สถานีตำรวจ, 2 โรงเรียนประจำ, แคมป์ทหาร, โรงผลิตนม, ฟาร์มฝึกม้า, สถานพักฟื้น, สวนผัก, ไร่ชา, บ้านพักของหน่วยงานรัฐ และสถานีทดลองทางการเกษตร

เขตนี้ยังดำเนินการปลูกอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเกิดการจลาจลเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ถูกญี่ปุ่นยึดครอง(1942-1945) แทบจะไม่มีการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้เลย เมื่อญี่ปุ่นถอนฐานทัพไปเมื่อเดือนสิงหาคม 1945 พื้นที่นี้ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แล้วมาหยุดกะทันหันในระหว่างเหตุฉุกเฉินมาลายัน(1948-1945) เมื่อปัญหาความขัดแย้งยุติลง "ที่ดินของคาเมรอน" ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเสมอ ปัจจุบันนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นที่พักอาศัยที่ใหญ่ที่สุดแต่เป็นที่รู้จักอย่างดีของสถานีเขาของมาเลเซีย ซึ่งจุดสูงสุดในเพนนินซูล่า มาเลเซียซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์

ใกล้เคียง

ที่สูงแคเมอรอน ที่สูงตอนกลาง (เวียดนาม) ที่สูงอาร์มีเนีย ที่สูง ที่สุดในประเทศไทย ที่สุดในโลก ที่สุดของหัวใจ (รายการโทรทัศน์) ที่สุดของแจ้ ที่สุดในสามโลก ที่สุดในโลก (เพลงอินสติงต์)

แหล่งที่มา

WikiPedia: ที่สูงแคเมอรอน http://silk-king-jim-thompson.blogspot.com/ http://www.cameron-highlands.com/ http://cameronhighlands.com/ http://travel.cnn.com/malaysia-travel-cameron-high... http://www.malaysia-chronicle.com/index.php?option... http://www.themalaymailonline.com/malaysia/article... http://www.themalaysianinsider.com/malaysia/articl... http://www.weather-forecast.com/locations/Cameron-... http://www.youtube.com/watch?v=0S5KBKUvloA //lccn.loc.gov/2009944204