รายละเอียด ของ นกยางกรอกพันธุ์อินเดีย

ปกตินกจะหดคอ ทำให้เหมือนมีคอสั้น รูปนี้ไม่ได้หด

นกปรากฏว่าอ้วนเตี้ย คอสั้น ปากหนาสั้น มีหลังเหลืองปนน้ำตาลในฤดูผสมพันธุ์ นกโตแล้วจะมีขนคอยาว หัวและคอสีเหลือง หลังสีแดงเข้ม อกสีน้ำตาลเหลือง[5]นกเหมือนจะเปลี่ยนไปจากสีทื่อ ๆ เมื่อบิน เพราะสีขาวสดของปีกทำให้เห็นได้ชัดมันคล้ายกับนกสกุลเดียวกันอีกอย่างหนึ่ง คือ squacco heron (Ardeola ralloides) มาก แต่หลังมีสีเข้มกว่าทางด้านตะวันออกจากแหล่งที่มันอยู่ จะพบนกยางกรอกพันธุ์จีน (Ardeola bacchus) แทน และทางทิศใต้ นกยางกรอกพันธุ์ชวา (Ardeola speciosa)

ในฤดูผสมพันธุ์ มีผู้พบนกรายตัวที่มีขาแดงแต่จำนวนนกที่มีไม่ได้แสดงว่า นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ปกติสำหรับนกในฤดูผสมพันธุ์ ทำให้เสนอว่า อาจเป็นรูปแปรทางพันธุกรรม[6][7][8][9]

สีแดง/น้ำตาลที่ไม่ปกติ (erythrism) ของขนก็พบด้วยเหมือนกัน[10]จนกระทั่งเสนอเป็นสปีชีส์ย่อย phillipsi สำหรับกลุ่มที่พบในหมู่เกาะมัลดีฟส์ แต่นี่ยังไม่ได้การยอมรับ[11]นกพันธุ์นี้บวกกับสปีชีส์ที่ใกล้เคียงกันคือนกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางกรอกพันธุ์ชวา และนกยางกรอกพันธุ์มาดากัสการ์ (Ardeola idae) รวมเป็น superspecies

นกปกติจะเงียบแต่อาจร้องเสียงต่ำห้าวเมื่อบินหนีหรือใครเข้าไปใกล้ ๆ รังของมัน[11]นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ พันเอกวิลเลียม เฮ็นรี่ ไซกส์ ได้พรรณนาถึงนกนี้เมื่อปี 1832 แต่ได้ให้ชื่อวิทยาศาสตร์ของมันเพื่อยกย่องนักสัตววิทยาชาวอังกฤษจอห์น เอ็ดวาร์ด เกรย์ (John Edward Gray)

งานศึกษาทางแคริโอไทป์ได้แสดงว่า นกยางกรอกมีโครโมโซม 68 อัน (นับทั้งสองชุด คือ 2N) หรือมี 34 คู่ เทียบกับมนุษย์ที่มี 46 อันหรือ 23 คู่[12]

แหล่งที่มา

WikiPedia: นกยางกรอกพันธุ์อินเดีย http://ibc.lynxeds.com/species/indian-pond-heron-a... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10845654 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14700342 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15386041 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/4979767 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/5166875 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/5715959 http://indianbirds.in/download/IB1.5Final.pdf http://icmr.nic.in/ijmr/2003/0901.pdf http://web.archive.org/web/20150326081039/http://w...