เนื้อหา ของ บุรุษปราสาทฟ้า

เบื้องหลัง

แผนที่โลกใน บุรุษปราสาทฟ้า หลังฝ่ายอักษะชนะสงคราม

บุรุษปราสาทฟ้า บอกเล่าเรื่องราวเมื่อแฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ ประธานาธิบดีสหรัฐถูกลอบสังหารโดยจูเซปเป แซงการาสำเร็จในปี ค.ศ. 1933 ทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ดำเนินต่อไป และสหรัฐดำเนินนโยบายโดดเดี่ยวในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่สอง[4] ด้านอดอล์ฟ ฮิตเลอร์นำนาซีเยอรมนีพิชิตยุโรปส่วนใหญ่และสหภาพโซเวียต พร้อมทั้งกวาดล้างชาวยิว ชาวโรมานี และชาวสลาฟ ขณะเดียวกันจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย ก่อนจะร่วมกับนาซีบุกสหรัฐอเมริกาจากทางตะวันออกและตะวันตก จนในที่สุดปี ค.ศ. 1947 สหรัฐและพันธมิตรที่เหลืออยู่ยอมจำนนต่อฝ่ายอักษะ เป็นอันสิ้นสุดสงคราม[5]

คริสต์ทศวรรษ 1960 ญี่ปุ่นกับนาซีกลายเป็นสองมหาอำนาจที่แข่งขันกัน ดินแดนสหรัฐอเมริกาเดิมถูกแบ่งเป็นสามส่วน ญี่ปุ่นปกครองสหรัฐแปซิฟิกแห่งอเมริกา (Pacific States of America) ฝั่งตะวันตก ตรงกลางเป็นพื้นที่กันชนเรียกว่ากลุ่มมลรัฐเทือกเขาร็อกกี (Rocky Mountain States) และนาซีปกครองฝั่งตะวันออกที่แยกเป็นสองประเทศ ด้านฮิตเลอร์ยังมีชีวิตอยู่แต่ป่วยหนักด้วยซิฟิลิส มาร์ทีน บอร์มันจึงดำรงตำแหน่งผู้นำแห่งไรช์ โดยมีโยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ ไรน์ฮาร์ท ไฮดริช แฮร์มัน เกอริง และอาร์ทัวร์ ไซส์-อินควาร์ทวางแผนชิงอำนาจ ฝ่ายนาซีดำเนินหลายโครงการ เช่น สูบน้ำออกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อปรับเป็นที่เพาะปลูก พัฒนาระเบิดไฮโดรเจน ออกแบบจรวดความเร็วสูงเพื่อใช้เดินทาง และตั้งนิคมบนดวงจันทร์ ดาวศุกร์ และดาวอังคาร[6] ฉากในเรื่องส่วนใหญ่ดำเนินในเมืองซานฟรานซิสโก ที่ซึ่งชาวจีนถูกจัดให้เป็นพลเมืองชั้นสอง และชาวผิวสีตกเป็นทาส และเมืองแคนยอนซิตี เดนเวอร์ และไชแอนน์ในกลุ่มมลรัฐเทือกเขาร็อกกี

เรื่องย่อ

ในปี ค.ศ. 1962 สิบห้าปีหลังนาซีเยอรมนีและจักรวรรดิญี่ปุ่นชนะสงครามโลกครั้งที่สอง โรเบิร์ต "บ๊อบ" ไชล์แดนเปิดร้านหัตถศิลป์อเมริกันในเมืองซานฟรานซิสโก ไชล์แดนได้รับการติดต่อจากโนบุสุเกะ ทาโกมิ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นเพื่อให้หาของกำนัลแก่เบนย์ส นักธุรกิจชาวสวีเดน สินค้าบางส่วนของไชล์แดนเป็นของทำเลียนแบบจากโรงงานวินดัม-แมตสัน โรงงานที่แฟรงก์ ฟริงก์ ทหารผ่านศึกผู้ปิดบังตนเองว่าเป็นชาวยิวเพิ่งถูกไล่ออก ต่อมาแฟรงก์ตกลงตั้งธุรกิจเครื่องประดับทำมือกับอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจูเลียนา ฟริงก์ อดีตภรรยาของแฟรงก์ทำงานเป็นครูสอนยูโดที่เมืองแคนยอนซิตีเริ่มคบหากับโจ ซินนาเดลลา คนขับรถบรรทุกชาวอิตาลี ตลอดทั้งเรื่องตัวละครมักใช้ อี้จิง วิชาพยากรณ์ของจีนในการช่วยตัดสินใจครั้งสำคัญ และหลายตัวละครอ่านนวนิยายที่ถูกสั่งห้ามเรื่อง ตั๊กแตนนอนหมอบ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฝ่ายสัมพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่สอง เขียนโดยนักเขียนลึกลับนามฮอว์ธอร์น อเบนด์เซน

แฟรงก์ขู่จะเปิดโปงวินดัม-แมตสันว่าจัดหาของเลียนแบบให้ไชล์แดนเพื่อรีดเอาทรัพย์หาทุนสนับสนุนธุรกิจของตนเอง ด้านทาโกมิและเบนย์สยังหารือกันไม่ได้เนื่องจากต้องรอยาตาเบ้ บุคคลที่สามจากญี่ปุ่น ทันใดนั้นมีข่าวว่ามาร์ทีน บอร์มันเสียชีวิตหลังล้มป่วยได้ไม่นาน ส่วนไชล์แดนนำของฝากขายของแฟรงก์มาเสนอลูกค้าชาวญี่ปุ่น ผู้รับรู้ได้ถึง "พลังงาน" บางอย่างจากของชิ้นนั้น ขณะที่จูเลียนาและโจเดินทางไปเดนเวอร์ โดยโจชักชวนจูเลียนาให้ไปเยี่ยมอเบนด์เซนที่อาศัยอยู่ใน ปราสาทฟ้า ในเมืองไชแอนน์ หลังบอร์มันเสียชีวิตไม่นาน มีข่าวว่าโยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ได้ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่

เบนย์สและทาโกมิพบกับยาตาเบ้หรือนายพลเทเดกิ ต่อมามีการเปิดเผยว่าเบนย์สคือนามแฝงของรูดอล์ฟ เวเกนเนอร์ นาซีผู้แปรพักตร์ที่กำลังถูกซิชเชอร์ไฮทซ์ดีนสท์ (SD) ตามล่า เวเกนเนอร์เตือนนายพลเทเดกิว่านาซีมีแผนโจมตีหมู่เกาะญี่ปุ่นด้วยระเบิดปรมาณู ขณะหารือกันอยู่เจ้าหน้าที่ SD สองนายบุกเข้ามาแต่ถูกทาโกมิใช้ปืนโบราณยิงตายทั้งคู่ ด้านแฟรงก์ถูกคนแจ้งข่าวว่าเป็นชาวยิวและถูกจับกุม ขณะที่จูเลียนาอนุมานได้ว่าโจมีแผนจะฆ่าอเบนด์เซน ซึ่งต่อมาโจยอมรับว่าตนเป็นมือสังหารของนาซี จูเลียนาสบโอกาสทำร้ายโจจนตาย และรีบขับรถไปเตือนอเบนด์เซน

เวเกนเนอร์กลับไปที่เยอรมนีและพบว่าไรน์ฮาร์ท ไฮดริชที่ต่อต้านแผนโจมตีญี่ปุ่นมีแผนจะล้มเกิบเบิลส์ ขณะที่ทาโกมิซึ่งยังตระหนกนำปืนที่ใช้ยิงเจ้าหน้าที่ SD ไปขายคืนให้ไชล์แดน แต่เขากลับซื้อเครื่องประดับชิ้นหนึ่งกลับมา หลังจากนั้นทาโกมิรับรู้ถึงพลังงานจากเครื่องประดับชิ้นนั้นจนมองเห็น "ประวัติศาสตร์อีกด้าน" ของซานฟรานซิสโก และภายหลังบังคับกงสุลเยอรมันให้ปล่อยตัวแฟรงก์โดยที่ไม่รู้ว่าแฟรงก์เป็นผู้ทำเครื่องประดับชิ้นนี้ ด้านจูเลียนาเดินทางไปที่ ปราสาทฟ้า ของอเบนด์เซน และพบว่าเขาย้ายมาอยู่บ้านชั้นเดียวธรรมดา หลังหลบเลี่ยงหลายคำถามที่จูเลียนาถาม อเบนด์เซนเปิดเผยว่าเขาใช้ อี้จิง ในการชี้แนะตอนเขียน ตั๊กแตนนอนหมอบ ในตอนจบของเรื่องจูเลียนาและอเบนด์เซนทำการเสี่ยงทายด้วย อี้จิง และพบว่าแท้จริงแล้วเยอรมนีและญี่ปุ่นแพ้สงคราม