ฟาโรห์โรมัน[1] ซึ่งไม่ค่อยนิยมเรียกว่าเป็น
ราชวงศ์ที่สามสิบสี่แห่งอียิปต์โบราณ
[2][lower-alpha 1] เป็น
จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันในฐานะผู้ปกครองอียิปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ
ไอยคุปต์วิทยา หลังจากที่อียิปต์ถูกผนวกเข้ากับ
จักรวรรดิโรมันใน 30 ปีก่อนคริสตกาล ผู้คนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานะปุโรหิตของอียิปต์ยังคงยอมรับว่าจักรพรรดิโรมันทรงเป็น
ฟาโรห์ ตาม
พระราชอิสริยยศของฟาโรห์แบบโบราณราชประเพณี ซึ่งปรากฏภาพในงานศิลปะและและวัดวิหารทั่วอียิปต์ถึงแม้ว่าชาวอียิปต์เองจะถือว่าจักรพรรดิโรมันจะทรงเป็นฟาโรห์และเป็นผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎมณเฑียรบาลย่างโบราณราชประเพณี แต่จักรพรรดิเองก็ทรงไม่เคยยอมรับตำแหน่งหรือขนบประเพณีของฟาโรห์ภายนอกนอกดินแดนอียิปต์ เนื่องจากส่วนดังกล่าวนั้นยากที่จะพิสูจน์ในโลกโรมันอันกว้างใหญ่ จักรพรรดิส่วนใหญ่อาจจะทรงให้สถานะตามที่ทรงดูแลโดยชาวอียิปต์เพียงเล็กน้อยและไม่ค่อยได้ไปเยือน
มณฑลอียิปต์มากกว่าหนึ่งครั้งในพระชนม์ชีพของพระองค์ บทบาทของพระองค์ในฐานะเทวกษัตริย์ยังคงได้รับการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างจากชาวอียิปต์เองเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกันอย่างมากกับราชวงศ์ก่อนหน้า คือ
ราชวงศ์ทอเลมีแห่ง
เฮลเลนิสติก ซึ่งผู้ปกครองทรงใช้พระชนม์ชีพส่วนใหญ่ภายในอียิปต์ ฟาโรห์ก่อนที่อียิปต์จะผนวกเข้ากับ
จักรวรรดิอะคีเมนิดในช่วง
สมัยปลายแห่งอียิปต์โบราณต่างก็ทรงปกครองพระราชอาณาจักรจากภายในอียิปต์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม อียิปต์ก็มีการปกครองที่แตกต่างจาก
มณฑลอื่นๆ ของจักรวรรดิ โดยมีจักรพรรดิเป็นผู้เลือก
ผู้ว่าการมณฑลและมักจะปฏิบัติกับอียิปต์เหมือนสมบัติส่วนพระองค์มากกว่าที่จะเป็นมณฑล ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่จักรพรรดิทุกพระองค์ที่จะทรงได้รับการยอมรับว่าทรงเป็นฟาโรห์ แต่ศาสนาอียิปต์โบราณจำเป็นต้องให้มีตำแหน่งฟาโรห์เพื่อทรงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์และเทพเจ้า การที่ให้จักรพรรดิทรงมีบทบาทเทวสัมพันธ์นั้นได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวที่ง่ายที่สุด และคล้ายกับวิธีที่ผู้ปกครองชาว
เปอร์เซียทรงถูกมองว่าทรงเป็นฟาโรห์เมื่อหลายศตวรรษก่อน (ซึ่งสถาปนาขึ้นเป็น
ราชวงศ์ที่ยี่สิบเจ็ดและ
สามสิบเอ็ดแห่งอียิปต์)อียิปต์จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันจนกระทั่งถูก
พิชิตโดย
รัฐเคาะลีฟะฮ์รอชิดูนในปี ค.ศ. 641 จักรพรรดิแห่งโรมันพระองค์สุดท้ายที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นฟาโรห์คือ
จักรพรรดิมักซิมินุส ดาซา (ทรงครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 311 – 313) เมื่อถึงช่วงเวลาดังกล่าว มุมมองของชาวโรมันที่มีต่อตำแหน่งฟาโรห์ได้ลดลงไประยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากอียิปต์อยู่เขตรอบนอกของจักรวรรดิจักรโรมัน (ตรงกันข้ามกับมุมมองของฟาโรห์โบราณที่มองว่าอียิปต์เป็นศูนย์กลางของโลก) การแพร่กระจายของ
ศาสนาคริสต์ไปทั่วจักรวรรดิในคริสต์ศตวรรษที่ 4 และการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง
อเล็กซานเดรียของอียิปต์ให้เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ที่สำคัญ จึงได้ยุติประเพณีนิยมดังกล่าวลงอย่างเด็ดขาด เนื่องจากศาสนาใหม่ไม่สอดคล้องกับความหมายดั้งเดิมของการเป็นฟาโรห์พระนามของจักรพรรดิได้ถูกเขียนด้วย
อักษรอียิปต์โบราณตามการออกเสียงจากการแผลงพระนามในภาษากรีก วิธีการเขียนพระนามดังกล่าวส่งผลให้ฟาโรห์โรมันมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการศึกษาไอยคุปต์วิทยาสมัยใหม่ เนื่องจากการอ่านพระนามของพระองค์เป็นขั้นตอนสำคัญใน
การถอดรหัสของอักษรอียิปต์โบราณ