การพัฒนาในอนาคต ของ ยาลดความอ้วน

ยากลุ่มอื่นที่ได้พัฒนาในการใช้ยับยั้งการเอ็นไซม์ไลเปซ, ตัวที่เหมือนกับยา โอลิสแตท. ยายับยั้งเอ็นไชม์ไลเปซตัวอื่น, มีชื่อว่า GT 389-255, ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยเป๊บติมมูน[45] (จดลิขสิทธิ์จากบริษัท เจ็นไซม์). นี่เป็นการทำงานร่วมกันของการยับยั้ง และเป็นโพลิเมอร์ที่ออกแบบมาให้จับกับ ไตรกรีเซอร์ไรด์ในรูปแบบที่ไม่ได้รับการย่อย ดังนั้นจะเป็นการเพิ่มการขับออกโดยไม่มีอาการข้างเคียงเหมือนยาโอลิทสแตทที่มีการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมัน การพัฒนานี้ดูเหมือนยังอยู่ในเฟส 1 ซึ่งได้เริ่มทดลองมาตั้งแต่ปี 2004 และไม่มีการทดลองต่อในคนตั้งแต่ปี 2011, เป๊บติมูน ได้จดบันทึกใน เป๊บติมูน ลิควิเดชั่น แขฟเตอร์ 7 .[46]

ยาลดความอ้วนอีกตัวหนึ่งที่นำมาใช้ระยะยาวเป็นการพัฒนามาจากไนโนนิวคลิอิก แอซิด อินเตอร์ฟีเรนท์ (RNAi). การศึกษาทางพันธุกรรมในสัตว์ ได้แสดงให้เห็นว่าการลดลงของ ยีนส์ RIP140 ในหนู มีผลทำให้ขาดการสะสมของอาหารแม้ว่าหนูจะถูกเลี้ยงด้วยอาหารที่มีไขมันสูง.[47] การทดลองถูกนำเสนอโดยศาสตราจารย์ มัลคอม ปาร์คเกอร์ แห่งวิทยาลัยอิมพิเรียล ได้แสดงให้เห็นว่า การทำให้ RIP 140 หยุดการทำงาน, นิวเคลียร์ฮอร์โมน โค - รีเพลสเซอร์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเก็บสะสมของไขมัน มีผลต่อรูปลักษณะของสัตว์ทำให้เล็กลงตลอดชั่วชีวิต ซึ่งจะมีผลต้านทานต่อการกินอาหารที่จะทำให้อ้วนได้, และยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกายด้วย [ต้องการอ้างอิง]. บริษัทCytRx ได้พัฒนาการรักษาโดยใช้ยาที่ออกฤทธิ์ต่อต้านสาร RNAi tเพื่อใช้รักษาโรคอ้วนและโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2[ต้องการอ้างอิง]. สารนิวเคลียร์ฮอร์โมนรีเซฟเตอร์ โค-รีเพลสเซอร์ อีกตัว คือ SMRT, ได้มีการแสดงให้เห็นว่า ออกฤทธิ์มีผลต่อพันธุกรรมในหนู ดร.รัสเซล โนฟซิงเกอร์ และ ดร.โรนัล อีแซน แห่งสถาบันซอล์ค ได้แสดงให้เห็นว่า การขัดขวางการทำงานในระดับโมเลกุลระหว่างปฏิกิริยาของ SMRT และนิวเคลียร์ฮอร์โมนรีเซฟเตอร์ ที่อยู่ร่วมกัน จะเพิ่มความอ้วน และลดอัตราการเผาผลาญพลังงาน.[48] การศึกษานี้ เป็นการนำเสนอยาใหม่ ที่ออกฤทธิ์ตรงตำแหน่งการทำปฏิกิริยากันระดับโมเลกุลระหว่างนิวเคลียร์ฮอร์โมนรีเซฟเตอร์ กับโคแฟกเตอร์ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ในการทำให้เกิดแนวทางการรักษาใหม่ที่จะพัฒนาไปสู่ความพยายามในการที่จะควบคุมน้ำหนัก

มีการศึกษาอีกเรื่องที่จะกระตุ้นให้เกิดความอิ่มโดยทำให้ไม่เหลือพื้นที่ในช่องกระเพาะอาหารและลำไส้ การศึกษาทางคลินิกอย่างหนึ่ง เกี่ยวข้องกับ ไฮโดรเจล ซึ่งทำมาจากวัตถุที่เป็นประเภทอาหารแต่ย่อยไม่ได้[49] การนำร่องการศึกษาอื่น อีกการศึกษา ได้แก่การใช้ ซูโดบีซัว.[50]

ยาตัวอื่นที่มีการทำการทดลองทางคลินิก ในเดือนตุลาคม 2009 มีการใช้ ซีทิลสแตท และ TM38837.

แหล่งที่มา

WikiPedia: ยาลดความอ้วน http://trove.nla.gov.au/ndp/del/article/52188122 http://www.cbc.ca/health/story/2007/01/02/rimonaba... http://hc-sc.gc.ca/dhp-mps/medeff/advisories-avis/... http://www.hc-sc.gc.ca/ahc-asc/media/advisories-av... http://media.aace.com/press-release/research-shows... http://news.google.com/newspapers?nid=1301&dat=193... http://www.medicinenet.com/acarbose-oral/article.h... http://www.nature.com/nrd/journal/v5/n11/abs/nrd21... http://www.peptimmune.com http://bf4dv7zn3u.search.serialssolutions.com/?ctx...