พายุโซนร้อนกำลังแรงปาข่า
พายุโซนร้อน (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 1 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 26 มีนาคม – 2 เมษายน |
---|
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 998 mbar (hPa; 29.47 inHg) |
---|
- วันที่ 17 มีนาคม ความแปรปวนเขตร้อนก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปาเลาและอยู่ในพื้นที่ลมเฉียนตามแนวตั้ง
- วันที่ 24 มีนาคม JMA เพิ่มระดับความรุนแรงของหย่อมความกดอากาศเพิ่มขึ้น
- วันที่ 25 มีนาคม JMA ปรับลดระดับความรุนแรงเนื่องจากการหมุนเวียนลมที่ศูนย์กลางได้ลดลง
- วันที่ 26 มีนาคม JMA เพิ่มระดับความรุนแรงของความแปรปวนเขตร้อนอีกครั้งเพราะลมเฉือนต่ำแนวตั้งและความเอื้ออำนวยจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในทะเลจีนใต้
- วันที่ 28 มีนาคม JTWC ออก TCFA
- วันที่ 29 มีนาคม JMA เพิ่มระดับความรุนแรงของหย่อมความกดอากาศต่ำเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ ปาข่า (Pakhar) เนื่องจากมีการไหลเวียนของลมที่ศูนย์กลางอย่างสมบูรณ์
- วันที่ 30 มีนาคม JTWC ได้ปรับเพิ่มระดับความรุนแรงของ ปาข่า เป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 เนื่องจากมีการพบตาพายุบริเวณศูนย์กลาง
- วันที่ 31 มีนาคม JTWC ได้ปรับลดระดับความรุนแรงของ ปาข่า เป็นพายุโซนร้อน เนื่องจากปฏิกิริยาความสัมพันธ์ระหว่างพื้นดินและพื้นน้ำทะเล
- วันที่ 1 เมษายน ปาข่า พัดขึ้นฝั่งใกล้กับ หวุงเต่า, เวียดนาม และเริ่มอ่อนตัวลง
- วันที่ 2 เมษายน JMA ได้ปรับลดระดับความรุนแรง, ปาข่าเริ่มสลายตัว
- วันที่ 5 เมษายน ปาข่าสลายตัวทั้งหมด
พายุโซนร้อนกำลังแรงซ้านหวู่
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 1 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 20 – 27 พฤษภาคม |
---|
ความรุนแรง | 110 กม./ชม. (70 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 975 mbar (hPa; 28.79 inHg) |
---|
- วันที่ 20 พฤษภาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) รายงานว่าพบการพัฒนาของดีเปรสชันเขตร้อนใกล้ ๆ กับกวม ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่ระยะ 525 กิโลเมตร (325 ไมล์)[11]
- วันที่ 21 พฤษภาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 22 พฤษภาคม JMA ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "ซ้านหวู่"
- วันที่ 23 พฤษภาคม JTWC ประกาศทวีความรุนแรงของซ้านหวู่เป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 และซ้านหวู่เริ่มมีการจัดระเบียบของระบบมากขึ้นจากการสังเกต
- วันที่ 24 พฤษภาคม JMA ประกาศทวีความรุนแรงของซ้านหวู่เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง
- วันที่ 25 พฤษภาคม ตาพายุของซ้านหวู่ได้เคลื่อนตัวผ่านเกาะอิโวะจิมะ
- วันที่ 26 พฤษภาคม ลมเฉือนตามแนวตั้งกำลังแรงและอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่เย็นขึ้น ทำให้การไหลเวียนของความร้อนในพายุลดลง ทำให้ระบบตาพายุเริ่มเล็กลง ต่อมา JTWC ประกาศลดความรุนแรงของซ้านหวู่เป็นพายุโซนร้อน
- วันที่ 27 พฤษภาคม การติดตามโดย JMA พบว่าระดับการไหลเวียนพลังงานเริ่มจะเปิดออก ก่อนที่จะรายงานว่าซ้านหวู่อ่อนกำลังลงกลายเป็นต่ำเขตร้อนพิเศษ (Extratropical Low)
- วันที่ 30 พฤษภาคม ระบบกระจายไปในที่สุด[11]
ผลกระทบของซ้านหวู่ก่อให้เกิดลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักประมาณ 1.5–2 นิ้ว (38–51 มิลลิเมตร)ในบางส่วนของกวมและหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา[12] ความเสียหายที่รายงานมาจากเกาะกวม พบว่าเกิดการหักโค่นของกิ่งไม้ทำให้เกิดความเสียหายกับระบบสายไฟฟ้า เป็นมลูค่าประมาณ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ[12]
พายุไต้ฝุ่นมาวาร์
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 3 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 31 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน |
---|
ความรุนแรง | 140 กม./ชม. (85 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 960 mbar (hPa; 28.35 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: อัมโบ
- วันที่ 29 พฤษภาคม ความแปรปวนเขตร้อนก่อตัวขึ้นบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปาเลา
- วันที่ 31 พฤษภาคม มีการประกาศเตือน TCFA, PAGASA ปรับระดับความรุนแรงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนและใช้ชื่อ "อัมโบ (Ambo)"
- วันที่ 1 มิถุนายน JMA ปรับระดับความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "มาวาร์ (Mawar)"
- วันที่ 2 มิถุนายน JMA ปรับระดับความรุนแรงของพายุโซนร้อนมาวาร์ เป็น "พายุโซนร้อนกำลังแรงมาวาร์" ในขณะที่ JTWC ปรับระดับความรุนแรงเป็น พายุไต้ฝุ่นระดับ 1
- วันที่ 3 มิถุนายน JMA ปรับระดับความรุนแรงของพายุโซนร้อนกำลังแรงมาวาร์ เป็น "ไต้ฝุ่นมาวาร์" หลังจากที่ JTWC ปรับระดับความรุนแรงเป็น พายุไต้ฝุ่นระดับ 2
- วันที่ 4 มิถุนายน JTWC ปรับเพิ่มระดับความรุนแรงของไต้ฝุ่นมาวาร์จากพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 เป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 3 แต่ได้ลดลงมาอยู่ในระดับ 2 เหมือนเดิมหลังจากนั้นเพียง 6 ชั่วโมงเนื่องจากลมเฉือน ที่มาจากกระแสเจ็ท (jet stream) บริเวณใกล้ๆประเทศญี่ปุ่น
- วันที่ 5 มิถุนายน มาวาร์เริ่มอ่อนกำลังลงอย่างมาก จน JMA ได้ลดระดับความรุนแรงของมาวาร์เป็น พายุโซนร้อนกำลังแรง
- วันที่ 6 มิถุนายน มาวาร์กลายเป็นพายุหมุนเต็มที่
พายุไต้ฝุ่นกูโชล
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 4 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 10 – 19 มิถุนายน |
---|
ความรุนแรง | 185 กม./ชม. (115 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 930 mbar (hPa; 27.46 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: บุตโชย
- วันที่ 7 มิถุนายน ความแปรปวนเขตร้อนก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เยื้องใต้ (south-southeast) ของโปนเป (Pohnpei)
- วันที่ 8 มิถุนายน JTWC ออก TCFA แต่ได้ถูกยกเลิกไปในช่วงสายของวันที่ 9 มิถุนายน
- วันที่ 10 มิถุนายน JMA ได้ปรับระดับความรุนแรงของหย่อมความกดอากาศต่ำเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 13 มิถุนายน JTWC และ JMA ได้ปรับระดับความรุนแรงของพายุเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ "กูโชล" (Guchol)
- วันที่ 14 มิถุนายน JMA ปรับเพิ่มระดับความรุนแรงของกูโชลเป็น พายุโซนร้อนกำลังแรง, PAGASA ได้กำหนดชื่อ "บุตโชย" (Butchoy) เนื่องจากพายุโซนร้อนกำลังแรงกูโชลเคลื่อนตัวเข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ต่อมา JTWC ได้ปรับระดับเพิ่มความรุนแรงของกูโชลเป็น พายุไต้ฝุ่นระดับ 1
- วันที่ 15 มิถุนายน JTWC ได้ปรับเพิ่มระดับความรุนแรงของไต้ฝุ่นกูโชลเป็น พายุไต้ฝุ่นระดับ 2 เนื่องจากมันมีการพัฒนามากขึ้น
- วันที่ 16 มิถุนายน กูโชลพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกิด ตาพายุ บริเวณศูนย์กลาง ต่อมา JMA ได้ประกาศให้ไต้ฝุ่นกูโชล กลายเป็น พายุไต้ฝุ่นระดับ 3 และเป็น ซูเปอร์ พายุไต้ฝุ่นระดับ 4 ในเวลาถัดมาด้วย
- วันที่ 18 มิถุนายน กูโชล เริ่มอ่อนกำลังลงจากลมเฉือนปานกลางแนวตั้งและลดระดับความรุนแรงอย่างรวดเร็ว
- วันที่ 19 มิถุนายน JTWC ลดระดับความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นกูโซลเป็น พายุโซนร้อน ในขณะที่มันใกล้ขึ้นฝั่งบริเวณคาบสมุทรกี (Kii Peninsula), ประเทศญี่ปุ่น
- วันที่ 20 มิถุนายน JMA ลดระดับความรุนแรงของกูโชลเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงและปรับเป็นพายุหมุน
พายุโซนร้อนกำลังแรงตาลิม
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 16 – 20 มิถุนายน |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 985 mbar (hPa; 29.09 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: การีนา
- วันที่ 14 มิถุนายน หย่อมความกดอากาศต่ำภายในร่องมรสุม ทางทิศตะวันออกของเกาะไหหนานของประเทศจีน
- วันที่ 16 มิถุนายน หย่อมความกดอากาศต่ำเริ่มมีการไหลวันของอากาศร้อนภายใน JMA และ HKO เพิ่มระดับความรุนแรงเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 17 มิถุนายน HKO ประกาศยกเลิกการติดตามพายุ, JMA ปรับระดับความรุนแรงของดีเปรสชันเขตร้อนเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "ตาลิม" (Talim)
- วันที่ 18 มิถุนายน JTWC ได้ปรับระดับความรุนแรงของตาลิม เป็นพายุโซนร้อน
- วันที่ 19 มิถุนายน HKO ประกาศยกเลิกการเฝ้าระวังลมแรง เนื่องจากลมเฉือนปานกลางจากแนวทิศเหนือผลักดันในตาลิมเคลื่อนไปทางใต้
- วันที่ 20 มิถุนายน JMA ปรับระดับความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง แต่ก็ได้ลดความรุนแรงกลับมาเป็นพายุโซนร้อนดังเดิม และตัวพายุเริ่มเชื่อมกับร่องมรสุม, PAGASA ได้กำหนดชื่อ "คารินา" (Carina) เนื่องจากมันเข้าสู่พื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ต่อมาทั้ง JMA และ JTWC ได้ประกาศลดระดับความรุนแรงของ ตาลิม เป็นดีเปรสชันเขตร้อนในช่องแคบไต้หวัน ไม่นาน ตาลิม ก็อ่อนกำลังลงเนื่องจากเชื่อมกับร่องมรสุมเดียวกันกับที่พัฒนาเป็นตัวพายุเอง
พายุโซนร้อนทกซูรี
พายุโซนร้อน (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 25 – 30 มิถุนายน |
---|
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 992 mbar (hPa; 29.29 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: ดินโด
- วันที่ 25 มิถุนายน กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เริ่มตรวจสอบดีเปรสชันเขตร้อนที่มีการพัฒนาอยู่ในร่องมรสุมทางตะวันตกเฉียงใต้ของ มะนิลา, ฟิลิปปินส์[13][14]
- วันที่ 26 มิถุนายน ในวันนี้ดีเปรสชันเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือและตะวันตก, PAGASA ได้ตรวจสอบและกำหนดเป็นดีเปรสชันเขตร้อน และใช้ชื่อ "ดินโด" (Dindo)[15][16], JMA ปรับระดับความรุนแรงไปเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "ทกซูรี" (Doksuri)[17],JTWC ปรับระดับความรุนแรงของทกซูรีเป็นพายุโซนร้อน[ต้องการอ้างอิง]
- วันที่ 27 มิถุนายน มีการไหลเวียนลมที่ศูนย์กลางในระดับต่ำ จนเจอกับลมเฉือนตะวันออก
- วันที่ 28 มิถุนายน JTWC ปรับลดระดับความรุนแรงของพายุโซนร้อนทกซูรี เป็น ดีเปรสชันเขตร้อน เนื่องจากการไหลเวียนลมที่ศูนย์กลางผิดปกติและมีการไหลเวียนศูนย์กลางในที่ใหม่
- วันที่ 29 มิถุนายน ทกซูรีพัดขึ้นฝั่ง จูไฮ่, กวางตุ้ง, จีน[18]
- วันที่ 30 มิถุนายน JMA รายงานว่า ทกซูรี อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนก่อนที่จะสลายตัวไปในช่วงสุดท้าย[19], ในมาเก๊า พายุทำให้เกิดความเสียหายกับหลังคาของบ้านเรือนประชาชนเล็กน้อย[20]
พายุโซนร้อนกำลังแรงขนุน
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 14 – 19 กรกฎาคม |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 985 mbar (hPa; 29.09 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: เอนเตง
- วันที่ 12 กรกฎาคม มีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของกวม
- วันที่ 14 กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ประกาศเพิ่มความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 15 กรกฎาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ประกาศการแจ้งเตือนการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน และประกาศเพิ่มระดับความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 16 กรกฎาคม JMA ประกาศเพิ่มระดับความรุนแรงของระบบเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ "ขนุน" ต่อมาอีกไม่นาน JTWC ก็ประกาศเพิ่มระดับความรุนแรงระบบเป็นพายุโซนร้อนด้วย พายุเคลื่อนตัวเข้าไปในพื้นที่รับผิดชอบของฟิลิปปินส์ PAGASA จึงประกาศใช้ชื่อ "เอนเทง" ในเวลาสั้นๆ ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่รับผิดชอบของฟิลิปปินส์ไป
- วันที่ 17 กรกฎาคม JMA ประกาศเพิ่มระดับความรุนแรงของขนุน เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง ขณะที่ศูนย์กลางของพายุผ่านเกาะโอะกิโนะเอะระบุ
- วันที่ 18 กรกฎาคม JMA ประกาศลดระดับความรุนแรงของขนุนเป็นพายุโซนร้อน ขณะอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ค่อนใต้ของเกาะเชจู
พายุไต้ฝุ่นบิเซนเต
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 4 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 18 – 25 กรกฎาคม |
---|
ความรุนแรง | 150 กม./ชม. (90 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 950 mbar (hPa; 28.05 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: เฟร์ดี
- วันที่ 18 กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ประกาศทวีกำลังระบบหย่อมความกดอากาศต่ำเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[21]
- วันที่ 20 กรกฎาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ออกประกาศ TCFA ของระบบ[22] ต่อมาไม่นาน PAGASA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อนและใช้ชื่อ "เฟร์ดี (Ferdie)"[23] ต่อมา JTWC ได้ประกาศทวีกำลังระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[24] หลังจากระบบเคลื่อนเข้ามาอยู่ในทะเลจีนใต้
- วันที่ 21 กรกฎาคม JMA ได้ประกาศทวีกำลังพายุเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "บิเซนเต"[25]
- วันที่ 23 กรกฎาคม เนื่องจากลมเฉือนแนวตั้งและอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้น กระตุ้นให้บิเซนเตทวีกำลังแรงขึ้น ต่อมา JMA ได้ประกาศทวีกำลังบิเซนเตเป็นไต้ฝุ่น และ JTWC ได้ประกาศทวีกำลังแรงบิเซนเตเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4[26] ที่เวลา 16:45 UTC หอสังเกตการณ์ฮ่องกง (HKO) ได้ออกสัญญาณเตือนภัยพายุเฮอร์ริเคนระดับ 10 เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไต้ฝุ่นยอร์ก ในปี พ.ศ. 2542[27] ต่อมาไต้ฝุ่นบิเซนเตได้ขึ้นถล่มแผ่นดินที่ไทชานในมณฑลกวางตุ้ง, จีน[28]
- วันที่ 24 กรกฎาคม เนื่องจากระบบขึ้นไปอยู่บนแผ่นดิน JMA ได้ประกาศลดความรุนแรงของบิเซนเตเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และ JTWC ได้ประกาศลดความรุนแรงของบิเซนเตไปเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 3[29][30] และในวันเดียวกันนั้น
JMA ได้ประกาศลดความรุนแรงบิเซนเตเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[31]
พายุไต้ฝุ่นเซาลา
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 2 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 26 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 130 กม./ชม. (80 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 960 mbar (hPa; 28.35 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: เฮเนร์
- วันที่ 26 กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) รายงานว่าพบว่ามีการพัฒนาดีเปรสชันเขตร้อน ในพื้นที่ลมเฉือนแนวตั้งกำลังแรงภายในร่องมรสุม ประมาณ 1,000 กิโลเมตร (620 ไมล์) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมะนิลา, ฟิลิปปินส์
- วันที่ 28 กรกฎาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ประกาศทวีความรุนแรงให้ระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน ในขณะที่ JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงให้ระบบเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ "เซาลา" อีกไม่นาน PAGASA ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อนและใช้ชื่อ "เฮเนร์ (Gener)"
- วันที่ 29 กรกฎาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงเซาลา เป็นพายุโซนร้อน ส่วน JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงเซาลาเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง
- วันที่ 30 กรกฎาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงของเซาลาอีกครั้งเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 1 ในขณะที่ระบบเริ่มพัฒนาลักษณะของตาพายุแต่จากนั้นไม่นาน เซาลาก็ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนอีกครั้ง
- วันที่ 31 กรกฎาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของเซาลาเป็นไต้ฝุ่น เซาลายังคงทวีกำลังแรงต่อไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2
- วันที่ 1 สิงหาคม การพยากรณ์ส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ว่า เซาลา จะผ่านใกล้ชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน ขณะที่เซาลากำลังถล่มแผ่นดินไต้หวัน พายุได้ทวีกำลังแรงเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 2 ตัวพายุนั้นเคลื่อนผ่านแผ่นดินไปอย่างช้า ๆ และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และมุ่งหน้าตรงต่อไปประเทศจีน
- วันที่ 3 สิงหาคม พายุขึ้นถล่มแผ่นดินในมณฑลฝูเจี้ยน, ไต้หวัน และออกทะเลไปขึ้นฝั่งอีกครั้งด้วยความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนใกล้เจียงซี
พายุไต้ฝุ่นด็อมเร็ย
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 1 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 27 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 130 กม./ชม. (80 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 965 mbar (hPa; 28.5 inHg) |
---|
- วันที่ 26 กรกฎาคม มีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมินะมิโทะริชิมะ
- วันที่ 27 กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ประกาศทวีความรุนแรงขึ้นเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[32]
- วันที่ 28 กรกฎาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ออกประกาศเตือนการแจ้งเตือนการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน ก่อนที่ JMA จะประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ "ด็อมเร็ย"[33][34] และต่อมา JTWC ก็ได้ประกาศทวีความรุนแรงด็อมเร็ยเป็นดีเปรสชันเขตร้อนด้วย[35]
- วันที่ 29 กรกฎาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงด็อมเร็ยเป็นพายุโซนร้อน[36]
- วันที่ 30 กรกฎาคม ด็อมเร็ยได้เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ และทวีกำลังแรง จน JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงด็อมเร็ยเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะจิจิชิมะ ต่อมาพายุได้เคลื่อนตัวมาทางตะวันตกเฉียงเหนือและเริ่มปรากฏรูปแบบของตาพายุ[37]
- วันที่ 1 สิงหาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงด็อมเร็ยเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ขณะที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านหมู่เกาะโอะซุมิ ในประเทศญี่ปุ่นขณะที่ระบบเริ่มพัฒนาตาของพายุขึ้น[38]
- วันที่ 2 สิงหาคม ด็อมเร็ยเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลเหลือง ต่อมา JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงด็อมเร็ยเป็นไต้ฝุ่น ต่อมาไม่นาน ด็อมเร็ย ขึ้นถล่มแผ่นดินเซียงซุย ใน เจียงซู, จีน ที่เวลา 13:30 UTC (21:30 CST)[39] ต่อมาไม่นาน JTWC ได้ประกาศลดความรุนแรงด็อมเร็ยลงเป็นพายุโซนร้อนและออกคำประกาศเตือนครั้งสุดท้าย
- วันที่ 3 สิงหาคม JMA ได้ประกาศลดความรุนแรงด็อมเร็ยเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และเป็นดีเปรสชันเขตร้อนเมื่อพายุอยู่ในซานตง
- วันที่ 4 สิงหาคม ระบบได้สลายตัวไปใกล้เหอเป่ย์[40]
พายุไต้ฝุ่นไห่ขุย
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 1 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 1 – 11 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 965 mbar (hPa; 28.5 inHg) |
---|
- วันที่ 31 กรกฎาคม หย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวในร่องมรสุม
- วันที่ 1 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอิโวะจิมะ และศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ออกประกาศการแจ้งเตือนการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนในวันเดียวกัน[41][42]
- วันที่ 2 สิงหาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 3 สิงหาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของดีเปรสชันเขตร้อนเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "ไห่ขุย"[43][44]
- วันที่ 4 สิงหาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงของไห่ขุยเป็นพายุโซนร้อน[45]
- วันที่ 5 สิงหาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของพายุโซนร้อนไห่ขุยเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง ขณะที่พายุอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเยื้องเหนือของเกาะคุเมะ[46]
- วันที่ 6 สิงหาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงพายุโซนร้อนไห่ขุยเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 เมื่อพายุเริ่มมีการพัฒนาตา
- วันที่ 7 สิงหาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงไห่ขุยเป็นไต้ฝุ่น และในขณะเดียวกัน JTWC ก็ได้ประกาศลดระดับความรุนแรงของไต้ฝุ่นระดับ 1 ไห่ขุยเป็นพายุโซนร้อน ต่อมา ไห่ขุยได้ขึ้นถล่มแผ่นดินเชียงซาน ใน มณฑลเจ้อเจียง, จีน ที่เวลา 19.20 UTC (วันที่ 8 สิงหาคม เวลา 03.20 น. ตามเวลาในประเทศจีน)[47]
- วันที่ 8 สิงหาคม JMA ได้ประกาศลดระดับความรุนแรงของไห่ขุยลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และ JTWC ก็ได้ออกคำเตือนสุดท้ายของพายุ ในไม่ช้า JMA ก็ลดระดับความรุนแรงไห่ขุยเป็นพายุโซนร้อน
พายุโซนร้อนกำลังแรงคีโรกี
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 3 – 10 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 990 mbar (hPa; 29.23 inHg) |
---|
- วันที่ 3 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) รายงานว่าดีเปรสชันเขตร้อนมีการก่อตัวขึ้นในร่องมรสุม ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเวก[48][49]
- วันที่ 4 สิงหาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ออกประกาศการแจ้งเตือนการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน และได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อนต่อมาตามลำดับ[50]
- วันที่ 5 สิงหาคม JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นพายุโซนร้อน[51]
- วันที่ 6 สิงหาคม JMA ได้รายงานว่าระบบได้กลายเป็นไซโคลนเต็มรูปแบบ[52]
- วันที่ 8 สิงหาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "คีโรกี"[53]
- วันที่ 9 สิงหาคม JTWC ได้ประกาศลดความรุนแรง คีโรกี ลงเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[54] ต่อมา JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรง คีโรกี เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงและมีกำลังแรงสุด[55] ขณะเดียวกัน JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรง คีโรกี เป็นพายุโซนร้อนอีกครั้ง[56] ในช่วงสุดท้ายของวัน JTWC ได้ประกาศคำเตือนสุดท้าย และประกาศลดระดับความรุนแรง คีโรกี เป็นดีเปรสชันเขตร้อน[57] ส่วนสุดท้ายของระบบเคลื่อนตัวไปยังทะเลโอค็อตสค์ และสลายไปในไซบีเรีย
พายุไต้ฝุ่นไคตั๊ก
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 1 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 12 – 18 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 970 mbar (hPa; 28.64 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: เฮเลน
- วันที่ 10 สิงหาคม ร่องมรสุมได้มีการก่อตัวของหย่อมความกดอากาศต่ำ[58]และได้เกิดการไหลเวียนความร้อนระดับอ่อน[59]
- วันที่ 12 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้เริ่มติดตามดีเปรสชันเขตร้อนอ่อนๆกับลมต่ำกว่า 30 นอต[60] ต่อมาสำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ (PAGASA) ได้เริ่มการออกคำเตือนเกี่ยวกับระบบและใช้ชื่อ "เอเลน (Helen)"[61]และศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ก็เริ่มประกาศคำเตือนในดีเปรสชันเขตร้อน 14W[62]
- วันที่ 13 สิงหาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของดีเปรสชันเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "ไคตั๊ก"[63] 9 ชั่วโมงต่อมาหลังจาก JTWC ได้ติดตามระบบ[64] ต่อมา JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงพายุอีกครั้งเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง[65]
- วันที่ 15 สิงหาคม ระบบเริ่มมีการไหลเวียนระบบที่ดีขึ้นและ JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นไต้ฝุ่น[66]และพายุยังคงมุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศจีนด้วยระบบที่ลึกลงและเริ่มมีลมเฉือนลดลง[67] อย่างไรก็ตามก็เป็นเพียงในเวลา 0000 UTC เท่านั้น
- วันที่ 16 สิงหาคม JMA ได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า ไคตั๊ก ยังคงเป็นไต้ฝุ่นอยู่[68]ในเวลาเดียวกัน PAGASA ได้ออกคำเตือนสุดท้ายของหน่วยสำหรับ "ไคตั๊ก" ที่ทางหน่วยงานเรียกว่า "เฮเลน" หลังจากนั้นระบบพายุได้เคลื่อนออกจากพื้นที่รับผิดชอบของฟิลิปปินส์[69]
- วันที่ 17 สิงหาคม ไคตั๊กได้ขึ้นถล่มแผ่นดินที่คาบสมุทรเลโจวในภาคใต้ของประเทศจีนในระดับความรุนแรงของไต้ฝุ่น[70] ภายใน 6 ชั่วโมง ไคตั๊กเคลื่อนตัวสู่ชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามและอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน[71] ช่วงกลางคืน JTWC ได้ออกคำเตือนสุดท้ายของระบบในขณะที่ระบบอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวเร็วขึ้นบนแผ่นดิน[72]
- วันที่ 18 สิงหาคม JMA ได้หยุดติดตามพายุ[73]
พายุไต้ฝุ่นเท็มบิง
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 4 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 17 – 30 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 150 กม./ชม. (90 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 950 mbar (hPa; 28.05 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: อินเม
- วันที่ 16 สิงหาคม มีหย่อมความกดอากาศต่ำเขตร้อนก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน[74]
- วันที่ 17 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ประกาศว่าระบบกลายเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[75]
- วันที่ 18 สิงหาคม ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ออกประกาศการแจ้งเตือนการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน (TCFA) กับระบบ[76]
- วันที่ 19 สิงหาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นพายุโซนร้อนและใช้ชื่อ "เท็มบิง" ส่วน JTWC ก็ได้ประกาศให้ระบบทวีความรุนแรงเป็นเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[77][78]ในไม่ช้าสำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ (PAGASA) ก็ได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อนและใช้ชื่อ "อินเม (Igme)"[79]
- วันที่ 20 สิงหาคม เท็มบิงเริ่มทวีกำลังแรงขึ้นและมีความหนาแน่นแบบแรงระเบิดไหลออกคู่ส่งผลให้ JMA และ JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงเท็มบิงเป็นไต้ฝุ่น[80][81]
- วันที่ 22 สิงหาคม เท็มบิงได้ทวีกำลังแรงขึ้นไปอีกเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 และเริ่มมีผนังขอบตาพายุ[82]
- วันที่ 23 สิงหาคม เท็มบิงกลับมาทวีกำลังแรงขึ้นอีกครั้งและมีความรุนแรงถึงไต้ฝุ่นระดับ 3 ก่อนจะขึ้นถล่มแผ่นดิน ผิงตง, ไต้หวัน ในวันเดียวกัน[83]
- วันที่ 24 สิงหาคม หลังจากที่พายุขึ้นถล่มแผ่นดินไต้หวันก็เริ่มอ่อนกำลังลง ต่อมา JMA ได้ประกาศลดความรุนแรงของพายุเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และ JTWC ได้ประกาศลดระดับความรุนแรงพายุเป็นพายุโซนร้อนในภายหลัง[84]
- วันที่ 25 สิงหาคม ในไม่ช้า JTWC ประกาศทวีความรุนแรงระบบอีกครั้งเป็นไต้ฝุ่นเมื่อพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ ต่อมา JMA ประกาศทวีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่นอีกครั้ง
พายุไต้ฝุ่นบอละเวน
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 4 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 19 – 29 สิงหาคม |
---|
ความรุนแรง | 185 กม./ชม. (115 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 910 mbar (hPa; 26.87 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: ฮูเลียน
- วันที่ 19 สิงหาคม อดีตของพายุดีเปรสชันเขตร้อนทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะมาเรียนา[85]โบเลเวน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องและค่อยๆเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในพื้นที่พัฒนาเขตร้อน
- วันที่ 21 สิงหาคม ระบบทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อนอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นได้ทวีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่น[86][87]
- วันที่ 24 สิงหาคม ระบบได้มีลมหมุนเวียนสูงสุด 185 กม./ชม. (115 ไมล์) และมีความกดอากาศ 910 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล; 26.81 นิ้วปรอท) และอ่อนกำลังเล็กน้อย พายุได้เคลื่อนผ่านโอะกินะวะ
- วันที่ 26 สิงหาคม ระบบเริ่มเคลื่อนตัวไปทางเหนือ[88][89][90]
- วันที่ 28 สิงหาคม บอละเวนได้อ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง และเคลื่อนตัวเข้าหาคาบสมุทรเกาหลีและเคลื่อนเข้าถล่มแผ่นดินเกาหลีในที่สุดก่อนจะกลายเป็นไซโคลนเต็มรูปแบบ[91] ส่วนที่เหลืออยู่ของบอละเวนเคลื่อนตัวเข้าสู่รัสเซียอย่างรวดเร็ว[92]
แม้ว่าบอละเวน ในขณะโจมตีเกาะริวกิวนั้นเป็นพายุไต้ฝุ่น แต่ก็มีความเสียหายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้[93] ผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจะเป็นฝนตกหนักเป็นจำนวน 551.5 มม. (21.71 นิ้ว) ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม[94]มีคนหนึ่งจมน้ำเสียชีวิตในอะมะมิ โอะชิมะหลังจากที่ถูกน้ำพลัดหายไปในแม่น้ำ[95]ในญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ มีสองคนถูกพัดหายไปในทะเล[96][97] ในเกาหลีใต้ มีคนจำนวน 19 คนถูกฆ่าโดยพายุ อาคารหลายหลังคาเรือนได้รับความเสียหายและประมาณ 1.9 ล้านหลังคาเรือนต้องอยู่อย่างไม่มีไฟฟ้าใช้[98][99]ในประเทศเกาหลีมีความเสียหายถึง 420 พันล้านวอน (₩) สวนแอปเปิ้ลส่วนใหญ่ถูกทำลายไป[100] ส่วนความเสียหายในเกาหลีเหนือคือ มีผู้เสียชีวิตจากพายุอย่างน้อย 59 คนและมีบุคคลสูญหายไป 50 คน[101] นอกจากนี้บ้านเรือนประชาชนนอกชายฝั่ง 6,700 หลังคาเรือนถูกทำลายไป และมีผูเสียชีวิต 9 คนจากเรื่อล่มในจีน[102]
พายุไต้ฝุ่นซันปา
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 10 – 18 กันยายน |
---|
ความรุนแรง | 205 กม./ชม. (125 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 900 mbar (hPa; 26.58 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: กาเรน
- วันที่ 9 กันยายน บริเวณถูกรบกวนเขตร้อนก่อตัวขึ้นทางใต้ของกวม[103]
- วันที่ 10 กันยายน ระบบเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก, JMA ปรับเพิ่มทวีความรุนแรงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนบริเวณปาเลา, JTWC ออกประกาศ TCFA ในระบบ โดย JTWC ได้ปรับเพิ่มทวีความรุนแรงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนเช่นกัน
- วันที่ 11 กันยายน JMA ได้ประกาศเพิ่มทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อน (TS) และใช้ชื่อว่า "ซันปา (Sanba)" ,สำนักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ ออกประกาศใช้ชื่อว่า "กาเรน (Karen)"[104]
- วันที่ 12 กันยายน JTWC ประกาศทวีความรุนแรงพายุเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 ขณะที่ตัวระบบเริ่มมีลักษณะของตาพายุ
- วันที่ 13 กันยายน JTWC ประกาศทวีความรุนแรงของพายุเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 5 (พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่น), และเป็นพายุที่แรงที่สุดนับจากไต้ฝุ่นเมกีปี พ.ศ. 2553
พายุไต้ฝุ่นเจอลาวัต
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 20 กันยายน – 1 ตุลาคม |
---|
ความรุนแรง | 205 กม./ชม. (125 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 905 mbar (hPa; 26.72 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: ลาวิน
- วันที่ 17 กันยายน มีการตรวจพบความแปรปรวนเขตร้อนทางทิศตะวันออกของกวม
- วันที่ 20 กันยายน JTWC ประกาศ TCFA พร้อม JMA ประกาศทวีความรุนแรงบริเวณความกดอากาศต่ำเป็นดีเปรสชันเขตร้อน (TD), 8 ชั่วโมงต่อมา PAGASA ได้ทวีความรุนแรงของระบบให้เป็นดีเปรสชันเขตร้อนและใช้ชื่อ "ลาวิน (Lawin)" จากนั้น JTWC ได้ประกาศทวีความรุนแรงของมันเป็นดีเปรสชันเขตร้อนด้วยเช่นกัน
ต่อมา JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นพายุโซนร้อน (TS) และใช้ชื่อ "เจอลาวัต (Jelawat)" เช่นเดียวกับ JTWC
- วันที่ 21 กันยายน เพียงครึ่งวันต่อจากนั้น JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงของ เจอลาวัต เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง (STS)
- วันที่ 23 กันยายน ทั้ง JMA และ JTWC ประกาศทวีความรุนแรงของ เจอลาวัต เป็นไต้ฝุ่น (TY) ขณะที่ตัวพายุเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 (Category 1 Typhoon) และกลายเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 4 (Category 4 Typhoon) ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ขณะที่เริ่มมีการพัฒนาของตาพายุเล็ก ๆ บริเวณใจกลางพายุ
- วันที่ 25 กันยายน เจอลาวัต มีขนาดกว้างขึ้น 50 กิโลเมตร หลังจากมีพนังขอบตาพายุ, JTWC ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็น ซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 (Category 5 Super Typhoon)
- วันที่ 26 กันยายน JTWC ประกาศลดระดับความรุนแรงเป็น ซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 4 (Category 4 Super Typhoon)
- วันที่ 28 กันยายน หลังจากไต้ฝุ่นเจอลาวัตขึ้นฝั่งที่ประเทศไต้หวัน ก็ได้อ่อนกำลังลงเรื่อยๆ จาก ซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 4 เป็นไต้ฝุ่นระดับ 3 และ 2 และเนื่องจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่เย็นขึ้นทำให้มันอ่อนกำลังลงไปอีกเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 1
พายุโซนร้อนกำลังแรงเอวิเนียร์
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 23 – 30 กันยายน |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 985 mbar (hPa; 29.09 inHg) |
---|
- วันที่ 22 กันยายน หย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวทางตะวันตกของเกาะกวม
- วันที่ 23 กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน
- วันที่ 24 กันยายน ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) ได้ประกาศทวีความรุนแรงระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน ต่อมาได้ประกาศทวีความรุนแรงอีกครั้งเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ "เอวิเนียร์" และเริ่มเคลื่อนออกจากเจอลาวัต ต่อมา JMA ได้เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมพายุที่มีลักษณะเหมือนตาขนาดเล็กปรากฏอยู่
- วันที่ 29 กันยายน ระบบสลายไปโดยลมเฉือนแนวตั้งกำลังแรงและกลายเป็นพายุหมุนนอกเขตร้อนเต็มรูปแบบในวันรุ่งขึ้น[105]
พายุโซนร้อนกำลังแรงมาลิกซี
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 29 กันยายน – 4 ตุลาคม |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 985 mbar (hPa; 29.09 inHg) |
---|
- วันที่ 27 กันยายน มีการตรวจพบความแปรปรวนเขตร้อนใกล้กับรัฐชุก
- วันที่ 29 กันยายน JMA ประกาศทวีความรุนแรงบริเวณความกดอากาศต่ำเป็นดีเปรสชันเขตร้อน (TD)
- วันที่ 1 ตุลาคม ระบบพัฒนาเป็นพายุโซนร้อน JMA ประกาศใช้ชื่อ มาลิกซี
- วันที่ 3 ตุลาคม JMA ประกาศทวีความรุนแรงของพายุจากพายุโซนร้อน เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง
- วันที่ 4 ตุลาคม มาลิกซี เริ่มอ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในที่สุด
พายุโซนร้อนกำลังแรงแคมี
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 29 กันยายน – 7 ตุลาคม |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 990 mbar (hPa; 29.23 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: มาร์เซ
- วันที่ 28 กันยายน มีการตรวจพบความแปรปรวนเขตร้อนทางตะวันออกของเวียดนาม
- วันที่ 29 กันยายน JMA ประกาศทวีความรุนแรงบริเวณความกดอากาศต่ำเป็นดีเปรสชันเขตร้อน (TD) ภายในร่องความกดอากาศต่ำ (ร่องมรสุม) ที่ระยะห่างจากนครโฮจิมินห์ ประมาณ 745 กิโลเมตร (465 ไมล์)[106][107]
- วันที่ 1 ตุลาคม ระบบพัฒนาเป็นพายุโซนร้อน JMA ประกาศใช้ชื่อ แคมี
พายุไต้ฝุ่นพระพิรุณ
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 3 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 5 – 19 ตุลาคม |
---|
ความรุนแรง | 165 กม./ชม. (105 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 940 mbar (hPa; 27.76 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: นีนา
- วันที่ 5 ตุลาคม JMA ประกาศทวีความรุนแรงคลื่นความแปรปรวนเขตร้อนเป็นดีเปรสชันเขตร้อนบริเวณตอนเหนือของเกาะกวม[108]
- วันที่ 7 ตุลาคม JMA ประกาศทวีความรุนแรงของดีเปรสชันเขตร้อน (TD) เป็นพายุโซนร้อน (TS) และประกาศใช้ชื่อ พระพิรุณ และต่อมา พระพิรุณ ได้ทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง (STS), PAGASA ได้ประกาศใช้ชื่อ นีนา (Nina) เนื่องจากระบบเข้ามาในเขตพื้นรับชอบของฟิลิปปินส์ (Philippine Area of Responsibility ; PAR)[109]
พายุโซนร้อนกำลังแรงมาเรีย
พายุโซนร้อนกำลังแรง (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 12 – 20 ตุลาคม |
---|
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 990 mbar (hPa; 29.23 inHg) |
---|
- วันที่ 13 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ได้ประกาศทวีความรุนแรงของระบบเป็นดีเปรสชันเขตร้อน[110]ในขณะที่ ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของปากันในหมู่เกาะนอร์ทเทิร์นมาเรียนาห่างประมาณ 50 ไมล์ทะเล (93 กิโลเมตร; 85 ไมล์)[111]
- วันที่ 14 ตุลาคม ระบบเคลื่อนไปทางตะวันตกและทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนมาเรีย[112]
- วันที่ 15 ตุลาคม JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรง มาเรีย เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง[113]
- วันที่ 19 ตุลาคม การไหลเวียนลมเฉือนทำให้พายุเริ่มเคลื่อนที่ช้าลง[114]
- วันที่ 20 ตุลาคม เศษที่เหลือกำลังรวมเข้ากับ พระพิรุณ โดยพระพิรุณเป็นฝ่ายดึงเศษของมาเรียเข้าไป[115]
พายุไต้ฝุ่นเซินติญ
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุไต้ฝุ่นระดับ 3 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 21 – 29 ตุลาคม |
---|
ความรุนแรง | 155 กม./ชม. (100 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 945 mbar (hPa; 27.91 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: โอเฟล
พายุไต้ฝุ่นบบพา
พายุไต้ฝุ่น (JMA) |
---|
พายุไต้ฝุ่น (TMD) |
---|
พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 25 พฤศจิกายน – 9 ธันวาคม |
---|
ความรุนแรง | 185 กม./ชม. (115 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 930 mbar (hPa; 27.46 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: ปาโบล
- วันที่ 23 พฤศจิกายน ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) รายงานว่าพบพื้นที่ความกดอากาศต่ำขนาดใหญ่ 90w[117] ระบบก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ และมีสภาพที่สมบูรณ์ขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิผิดน้ำทะเลที่อบอุ่น[118]
- วันที่ 25 พฤศจิกายน JTWC และ JMA ได้ประกาศทวีความรุนแรงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนในขณะที่ JTWC ได้ใช้สัญญาณเรียกขาน 26W[119][120] 26W ได้กลายเป็นพายุโซนร้อนโดยสถานะทำให้ JMA ใช้ชื่อทางการว่า "บบพา"[121]
- วันที่ 27 พฤศจิกายน JTWC ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนบบพา[122]
- วันที่ 2 ธันวาคม พายุได้เคลื่อนตัวมาในเขตรับผิดชอบของฟิลิปปินส์และได้ชื่อ "ปาโบล (Pablo)"
- วันที่ 3 ธันวาคม ระบบได้ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่คาดคิดระบบกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 และเริ่มมีตาที่กว้าง 27 กิโลเมตร
บบพาขึ้นถล่มแผ่นดินฟิลิปปินส์ในระดับความรุนแรงเป็นซุเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 [123]
- วันที่ 9 ธันวาคม JTWC ได้ประกาศคำเตือนสุดท้ายของพายุ[124]
พายุโซนร้อนอู๋คง
พายุโซนร้อน (JMA) |
---|
พายุโซนร้อน (TMD) |
---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) |
---|
|
ระยะเวลา | 24 – 28 ธันวาคม |
---|
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 1000 mbar (hPa; 29.53 inHg) |
---|
ชื่อของ PAGASA: กินตา
พายุทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในหมู่เกาะวิซายาของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ขณะที่กำลังทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อน ด้วยการจัดระบบการพาความร้อนอย่างดีของพายุขณะที่กำลังเคลื่อนผ่านฟิลิปปินส์[130][131] ต่อมา PAGASA ได้รายงานว่า อู๋คง ได้ทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในเกาะเล็กๆ ในภาคกลางของฟิลิปปินส์รวม 7 ครั้ง[132]
วันที่ 27 ธันวาคม พายุได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 คนในฟิลิปปินส์ และเคลื่อนไปทางทะเลจีนใต้โดยลงทะเลที่ตะวันออกของจังหวัดปาลาวัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมะนิลา[133]