การวัด ของ ลักษณะบุคลิกภาพใหญ่ทั้งห้า

มีวิธีการวัดลักษณะบุคลิกภาพใหญ่ 5 อย่างหลายแบบ คือ

  • International Personality Item Pool (IPIP)[152]
  • Revised NEO Personality Inventory (NEO-PI-R)
  • Ten-Item Personality Inventory (TIPI) และ Five Item Personality Inventory (FIPI) เป็นแบบการให้คะแนนที่ย่อมากเพื่อวัดลักษณะทั้ง 5[153]
  • Self-descriptive sentence questionnaires[115]
  • Lexical questionnaires[154]
  • Self-report questionnaires[155]
  • Relative-scored Big 5 measure[156]

การวัดแบบที่ใช้บ่อยที่สุดเป็นรายการประโยคที่สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลเพิ่ม[115]หรือถ้าเป็นแบบการวัดโดยใช้คำ ก็จะเป็นรายการคำวิเศษณ์[154]เพราะว่าการวัดทั้งสองแบบบางครั้งอาจยาวมาก จึงมีการพัฒนาแบบที่สั้นลงที่ได้ทดสอบความสมเหตุสมผลแล้ว เพื่อใช้ในงานวิจัยประยุกต์ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีพื้นที่และเวลาในการเก็บข้อมูลน้อย เช่นการวัดโดยใช้รายการ 40 อย่างคือ International English Big-Five Mini-Markers[111]หรือแม้แต่ที่สั้นยิ่งกว่านั้น เช่นการวัดโดยรายการ 10 อย่าง[157]แต่ก็มีงานวิจัยที่แสดงนัยว่า ระเบียบวิธีบางอย่างที่ใช้ในการทดสอบบุคลิกภาพสั้นเกินไปและมีรายละเอียดน้อยเกินไปที่จะประเมินบุคลิกภาพได้จริง ๆคือโดยปกติแล้ว คำถามที่มากกว่าและละเอียดกว่าจะแสดงบุคลิกภาพได้แม่นยำกว่า[158]

นักวิจัยกลุ่มต่าง ๆ ได้ตรวจสอบทฤษฎี FFM นี้แล้ว[159]แต่ว่า สิ่งที่ค้นพบหลัก ๆ หลายอย่างมาจากหลักฐานที่วัดลักษณะบุคลิกภาพโดยใช้แบบคำถามที่ผู้ร่วมการทดลองแจ้งเอง (self-report)ดังนั้น จึงอาจมีอคติได้ เช่น self-report bias หรือแม้แต่การโกหกซึ่งยากที่จะกำหนดหรือแก้ได้[155]และมีการอ้างว่า แบบทดสอบไม่สามารถสร้างโพลไฟล์บุคลิกภาพที่แม่นยำได้จริง ๆ เพราะว่า คำตอบที่ได้ไม่จริงในทุกกรณียกตัวอย่างเช่น ผู้สมัครงานอาจจะเลือกตอบคำถามทำให้ตนดูดีที่สุด[160]ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเป็นพิเศษเมื่อพิจารณาว่า ทำไมคะแนนจึงต่างกันระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่มบุคคลคือความต่างของคะแนนอาจจะแสดงความต่างของบุคลิกภาพจริง ๆหรืออาจจะเป็นสิ่งที่ทำขึ้น (artifact) เนื่องจากวิธีการตอบคำถาม

งานวิจัยแสดงนัยว่า การวัดโดยเปรียบเทียบที่ผู้ตอบต้องเลือกระหว่างรายการแสดงบุคลิกภาพที่น่าชอบใจพอ ๆ กัน โดยเลือกแบบซ้ำ ๆอาจจะเป็นวิธีการวัดทางเลือกเพื่อที่จะประเมินลักษณะบุคลิกภาพได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อาจมีการโกหกหรือมีอคติ[156]เมื่อเปรียบเทียบกับการวัดบุคลิกภาพธรรมดาในการพยากรณ์ GPA และความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้สถานการณ์ปกติและภายใต้สถานการณ์ที่มีอคติการวัดโดยเปรียบเทียบสามารถพยากรณ์ผลที่สืบหาได้อย่างสำคัญและสม่ำเสมอภายใต้สถานการณ์ทั้งสองแต่ว่า แบบคำถามธรรมดาที่ใช้เพื่อเปรียบเทียบ (Likert questionnaire) สูญเสียความสามารถการพยากรณ์ภายใต้สถานการณ์ที่มีอคติดังนั้น การวัดโดยเปรียบเทียบได้รับอิทธิพลจากคำตอบที่มีอคติ น้อยกว่าการวัดบุคลิกภาพแบบธรรมดา

งานศึกษาปี 2013 วิเคราะห์คำ วลี และหัวข้อ 700 รายการที่รวบรวมมาจากข้อความในเฟซบุ๊กของอาสาสมัคร 75,000 คน ผู้ที่ทำแบบทดสอบบุคลิกภาพด้วย แล้วพบการใช้ภาษาที่ต่างกันอย่างน่าสนใจโดยเปรียบเทียบกับบุคลิกภาพ เพศ และอายุ[161]งานวิจัยนี้ ต่างจากนักวิจัยพวกอื่น ๆ ตรงที่ว่า ได้ใช้ข้อมูลที่ไม่ได้เก็บโดยเฉพาะเพื่อกำหนดบุคลิกภาพ[ต้องการอ้างอิง]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ลักษณะบุคลิกภาพใหญ่ทั้งห้า http://50.22.92.12/index.php/ibm/article/view/j.ib... http://individual.utoronto.ca/jacobhirsh/publicati... http://find.galegroup.com/gic/infomark.do? http://ic.galegroup.com/ic/suic/NewsDetailsPage/Ne... http://www.personality-and-aptitude-career-tests.c... http://asm.sagepub.com/cgi/content/abstract/9/2/18... http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S... http://www.subjectpool.com/ed_teach/y4person/1_int... http://www.workingresources.com/nss-folder/pdffold... http://apsychoserver.psych.arizona.edu/jjbareprint...