[16]สงครามแอลจีเรีย ยังเป็นที่รู้จักกันคือ
สงครามเพื่ออิสรภาพแก่แอลจีเรีย หรือ
การปฏิวัติแอลจีเรีย(
อาหรับ: الثورة الجزائرية Al-thawra Al-Jazaa'iriyya;
แม่แบบ:Lang-ber;
ฝรั่งเศส: Guerre d'Algérie or Révolution algérienne) เป็นการสู้รบระหว่างฝรั่งเศสและ
แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติแอลจีเรีย(
ฝรั่งเศส: Front de Libération Nationale – FLN) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 ถึง ค.ศ. 1962 ซึ่งนำไปสู่แอลจีเรียได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ด้วยสงครามการให้เอกราชที่สำคัญครั้งนี้ มันเป็นความขัดแย้งที่ซับซ้อนที่เห็นได้อย่างเด่นชัดด้วยสงครามรบแบบกองโจร การสู้รบของขบวนการมาร์กี และมีการใช้ทรมาน ความขัดแย้งครั้งนี้ได้กลายเป็น
สงครามกลางเมืองระหว่างชุมชนต่างๆและชุมนุมภายใน
[17] สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในดินแดนแอลจีเรีย กับผลกระทบต่อ
ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่การเริ่มต้นอย่างมีประสิทธิภาพโดยสมาชิกแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ(FLN) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1954 ในช่วง Toussaint Rouge(วันสมโภชนักบุญทั้งหลายสีแดง) ด้วยความขัดแย้งครั้งนี้นำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองอย่างร้ายแรงในฝรั่งเศสทำให้
สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4 ล่มสลาย(ค.ศ. 1946-58) ถูกแทนที่ด้วย
สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 พร้อมกับประธานาธิบดีที่เข้มแข็ง ด้วยความโหดร้ายของวิธีการที่ใช้โดยกองทัพฝรั่งเศสได้ล้มเหลวในการเอาชนะหัวใจและวิญญาณในแอลจีเรีย การสนับสนุนที่่แปลกๆในประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่และชาวฝรั่งเศสที่มีศักดิ์ศรีในต่างประเทศต้องอับอาย
[18][19]ภายหลังจากการประท้วงครั้งใหญ่ใน
แอลเจียร์และหลายเมืองอื่นๆต่างได้เรียกร้องเอกราช(ค.ศ. 1960)
[20][21] และมติขององค์การสหประชาชาติได้ตระหนักถึงสิทธิในการได้รับเอกราช
[22] ชาร์ล เดอ โกล ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ได้ตัดสินใจที่จะเปิดการประชุมเจรจากับแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ ผลสรุปด้วยการลงนามในข้อตกลงเอวีย็อง ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1962 การลงประชามติได้เกิดขึ้นเมื่อ 8 เมษายน ค.ศ. 1962 และคนในฝรั่งเศสมีสิทธิ์ในการลงคะแนนในการอนุมัติข้อตกลงเอวีย็อง ผลสุดท้ายคือ 91% การให้สัตยาบันในข้อตกลงครั้งนี้
[23] และ 1 กรกฏาคม ข้อตกลงนั้นอยู่ภายใต้การลงประชามติครั้งที่ 2 ในประเทศแอลจีเรีย ด้วยผลโหวตในการได้รับเอกราช คือ เห็นด้วย 99.72% และไม่เห็นด้วย 0.28%
[24]แผนการของฝรั่งเศสในการถอนกำลังนำไปสู่วิกฤตการณ์รัฐ รวมถึงความพยายามต่างๆที่จะลอบสังหารเดอ โกล รวมทั้งความพยายามที่จะก่อรัฐประหาร อดีตส่วนใหญ่ที่ถูกดำเนินโดย Organisation armée secrète (OAS), เป็นองค์กรใต้ดินที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาจากบุคคลากรทางทหารส่วนใหญ่ของฝรั่งเศสที่สนับสนุนชาวฝรั่งเศสในแอลจีเรีย ซึ่งได้ก่อการวางระเบิดและฆาตกรรมจำนวนมากทั้งในประเทศแอลจีเรียและในแผ่นดินเกิดเพื่อหยุดยั้งแผนการให้อิสรภาพเมื่อได้มอบอิสรภาพแล้วในปี ค.ศ. 1962 ชาวยุโรป-แอลจีเรีย(
Pieds-noirs) 900,000 คนได้ลี้ภัยไปยังฝรั่งเศสภายในเวลาไม่กี่เดือนเพราะหวาดกลัวการล้างแค้นของแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ รัฐบาลฝรั่งเศสไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายในฝรั่งเศส ชาวมุสลิมแอลจีเรียส่วนใหญ่ที่ทำงานให้กับฝรั่งเศสจะถูกปลดอาวุธและถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เนื่องจากข้อตกลงระหว่างทางการฝรั่งเศสกับทางการแอลจีเรียได้ประกาศว่าจะไม่ดำเนินการอะไรใดๆกับพวกเขา
[25] อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกฮาร์คิส(Harkis) มีหน้าที่ในการสนับสนุนแก่กองทัพฝรั่งเศส ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกทรยศและหลายคนถูกสังหารโดยแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติหรือไม่ก็ถูกรุมประชาทัณฑ์ มีบ่อยครั้งหลังจากถูกลักพาตัวและถูกทรมาน
[13]:537
[26] มีจำนวนประมาณ 9,000 คนได้หลบหนีไปยังฝรั่งเศส
[27] บางคนได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ชาวฝรั่งเศสที่ปฏิบัติด้วยการขัดคำสั่ง และในปี ค.ศ. 2016 พวกเขาและลูกหลานได้กลายเป็นส่วนที่สำคัญของประชากรแอลจีเรีย-ฝรั่งเศส