การเจรจา ของ สนธิสัญญาแวร์ซาย

ภาพขณะที่คณะผู้แทนจากนานาประเทศกำลังลงนามสนธิสัญญาแวร์ซาย ในห้องแห่งกระจก

การเจรจาระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1919 ในอาคาร Salle de l'Horloge ของกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มจากการประชุมของคณะผู้แทน 70 คนจาก 26 ประเทศมีส่วนร่วมในการประชุม[17] ส่วนเยอรมนี ออสเตรียและฮังการีผู้แพ้สงครามถูกยกเว้นไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม สหภาพโซเวียตก็ถูกห้ามมิให้เข้าประชุมด้วย เนื่องจากได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพแยกต่างหากกับเยอรมนีแล้วใน ค.ศ. 1917

จนกระทั่งถึงเดือนมีนาคม ค.ศ. 1919 บทบาทที่สำคัญที่สุดของการเจรจา ความซับซ้อนและเงื่อนไขอันยุ่งยากของสันติภาพอยู่ระหว่างการประชุมของ "สภาสิบ" ซึ่งประกอบด้วยบุคคลสำคัญจาก 5 ประเทศผู้ชนะสงครามหลักเท่านั้น (สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี ญี่ปุ่น) ด้วยรูปร่างแปลกประหลาดอันไม่เหมาะสมและไม่เป็นทางการในการตัดสินใจของที่ประชุม ญี่ปุ่นจึงได้ถอนตัวออกจากการประชุมหลัก จึงเหลือเพียง "สี่มหาอำนาจ" เท่านั้น[18] ต่อมาภายหลัง อิตาลีก็ได้ถอนตัวจากการประชุมเช่นกัน (กลับมาเซ็นสัญญาในเดือนมิถุนายนเพียงชั่วคราวเท่านั้น) ทำให้การครอบครองฟิอูเม (ปัจจุบัน คือ ริเจกา) ถูกปฏิเสธ ดังนั้น เงื่อนไขสุดท้ายของฝ่ายสัมพันธมิตรจึงเหลือเพียง "สามมหาอำนาจ" เท่านั้น คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ส่วนทางด้านเยอรมนีนั้นถูกห้ามมิให้เข้าร่วมประชุม ในการเจรจาดังกล่าวนั้น เป็นการยากที่จะตัดสินใจในฐานะธรรมดาเนื่องจากว่าเป้าหมายของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ซึ่งสุดท้ายก็ได้ออกมาเป็น "การประนีประนอมอย่างไม่มีความสุข"[19]

ใกล้เคียง

สนธิสัญญาแวร์ซาย สนธิสัญญาเบาว์ริง สนธิสัญญาเบอร์นี สนธิสัญญาญี่ปุ่น–สยาม พ.ศ. 2440 สนธิสัญญาสันติภาพ สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 122 สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1783) สนธิสัญญาทรียานง สนธิสัญญา สนธิสัญญาอึลซา

แหล่งที่มา

WikiPedia: สนธิสัญญาแวร์ซาย http://www.foundingdocs.gov.au/item.asp?dID=23 http://www.ashatteredpeace.com http://www.baanjomyut.com/library/treaty/treaty4.h... http://transcripts.cnn.com/TRANSCRIPTS/1010/03/fzg... http://www.exulanten.com/cr2.html http://www.firstworldwar.com/source/versailles.htm http://books.google.com/books?id=hXaJLfcIBuoC http://video.google.com/videoplay?docid=7176252790... http://www.imdb.com/title/tt0441912/ http://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=940...