การใช้สิงโตเป็นสัญลักษณ์ ของ สิงโตในมุทราศาสตร์

ภาพวาดสิงห์ในถ้ำลาส์โกซ์ในประวัติศาสตร์สิงโตมีปีกที่เป็นสัญลักษณ์ของนักบุญมาร์คซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส (รายละเอียดของภาพเขียนโดยวิตโตเร คาร์พัชชิโอ, ค.ศ. 1516)

สิงโตเป็นสัตว์ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์มาตั้งแต่สมัยหิน นักล่าสัตว์ในระหว่างยุคน้ำแข็งของอารยธรรมออริยาเชียน (Aurignacian) ใช้สิงโตเป็นสัญลักษณ์มากว่า 30,000 ปีโดยแสดงภาพสิงโตตัวเมียล่าสัตว์ที่มีท่าทางผยองที่ไม่ต่างไปจากสิงโตร่วมสมัย หลังจากนั้นก็มีการใช้สิงโตตัวเมียเป็นส่วนใหญ่ในการเป็นสัญลักษณ์ของการพิทักษ์และผู้นำทางการสงคราม

ภาพเขียนในที่เก็บศพที่นาคาดา (Naqada) ในอียิปต์เป็นภาพที่เขียนก่อนที่อารยธรรมของอียิปต์จะเริ่มขึ้นในแอฟริกาเหนือเป็นภาพของสิงโตสองตัวยืนทำท่าพิทักษ์ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพสำหรับสักการะ

สฟิงซ์ฟาโรห์ฮัตเชปซุตของอียิปต์ที่มีลักษณะที่แปลกที่มีหูกลมปรากฏบนประติมากรรมที่สร้างราวระหว่างปี 1503 ถึง 1482 ก่อนคริสต์ศักราช

สิงโตมีบทบาทในหลายวัฒนธรรมโบราณหลายวัฒนธรรมต่อมา ในอียิปต์โบราณ บางครั้งฟาโรห์ก็จะใช้สฟิงซ์ซึ่งเป็นสิงโตตัวเมียที่มีหัวเป็นคนเป็นสัญลักษณ์ สฟิงซ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดก็คือมหาสฟิงซ์แห่งกิซา ตั้งแต่มนุษย์เริ่มมีการบันทึกก็เป็นที่ทราบกันว่าสิงโตเป็นสัตว์ล่าเหยื่อที่ดุร้ายที่สุดพันธุ์หนึ่งในวัฒนธรรมอียิปต์โบราณและแอฟริกา และมาเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญที่สุดของวัฒนธรรมโบราณในฐานะผู้กล้าหาญ นักต่อสู้ และผู้พิทักษ์ของอาณาจักร ตำนานอียิปต์มีสิงโตที่ได้แก่บาสต์ และเซ็คห์เม็ดในบรรดาเทพชั้นสูงของอียิปต์ ประมุขที่เป็นชายมักจะกล่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับลูกของเทพีเช่นมาเฮส (Maahes) ขณะที่ผู้ปกครองอียิปต์ในนิวเบีย (Nubia) ก็ได้บันทึกถึงการสักการะเดดุน (Dedun) ว่าเป็นเทพของความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง ผู้ที่เชื่อกันว่าเป็นลูกชายของสิงโตนิวเบีย แต่นิวเบียมิได้รวมเทพไว้ในบรรดาเทพชั้นเอก

ในสมัยโบราณสิงโตเป็นสัตว์ที่พบกันเป็นปกติในบริเวณทางฝั่งทะเลตอนใต้ของทะเลเมดิเตอเรเนียนทะเลเมดิเตอเรเนียนและในกรีซและตะวันออกกลาง ในตำนานเทพเจ้ากรีกสิงโตมีบทบาทหลายอย่าง ประตูเมืองไมซีเนียมีสิงโตสองตัวยืนประกบคอลัมน์กลางที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพองค์สำคัญของวัฒนธรรมกรีกยุคแรกที่สักการะกันมาตั้งแต่สองพันปีก่อนคริสต์ศักราช ต่อมาในตำนานเทพเจ้ากรีก สิงโตนิวเมียน (Nemean Lion) สร้างเป็นรูปสัตว์กินคน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองสิ่งที่เฮราคลีสได้รับการมอบหมายให้ทำ ในเรื่องอันโดรคลีส (Androcles) หนึ่งในนิทานอีสป ตัวเอกของเรื่องเป็นทาสที่หนีจากนายที่ช่วยดึงหนามที่ตำเท้าสิงโต ต่อมาเมื่อถูกจับตัวได้และถูกโยนให้สิงโตกินเพื่อเป็นการลงโทษ แต่สิงโตจำได้และไม่ยอมฆ่า ในพระธรรมปฐมกาลของคัมภีร์ฮิบรู ชาวอิสราเอลไลท์ใช้สิงห์แห่งยูดาห์เป็นสัญลักษณ์

การเป็นสัตว์ที่เป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งปวงมีรากฐานมาจากอิทธิพลของหนังสือฟิซิโอโลกัส (The Physiologus) ซึ่งเป็นหนังสือของคริสเตียนยุคแรกที่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ของสัตว์ที่เผยแพร่ไปยังวัฒนธรรมหลายวัฒนธรรม และมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมตะวันตก หนังสือฟิซิโอโลกัสเขียนขึ้นเป็นครั้งแรกเป็นภาษากรีกในคริสต์ศตวรรษที่ 2 ต่อมาได้รับการแปลเป็นภาษาลาตินราวปี ค.ศ. 400 AD และต่อมาในภาษาอื่นๆ หลายภาษาของตะวันออกกลาง เนื้อหาของหนังสือมีอิทธิพลต่อปรัชญาความคิดเกี่ยวกับความหมายของสัตว์ในยุโรปเป็นเวลากว่าพันปี และเป็นหนังสือที่มาก่อนหนังสือเรื่องสัตว์ (books of beasts) ของยุคกลาง

ในประวัติศาสตร์สมัยต่อมาการใช้สิงโตเป็นสัญลักษณ์ก็แพร่หลายมากขึ้นเพื่อแสดงความมีอำนาจเช่นในการตั้งชื่อเช่นเฮนรีสิงห์ ความนิยมการใช้สิงห์จะเห็นได้จากสิงห์ที่ปรากฏในตราอาร์มต่างๆ เป็นจำนวนมาก