ความแพร่หลาย ของ สื่อลามกอนาจารเด็ก

ทางอินเทอร์เน็ต

ศาสตราจารย์นักประวัติศาสตร์ผู้หนึ่งที่กล่าวว่า มีหลักฐานท่วมท้นที่แสดงว่า สื่อลามกอนาจารเด็กไม่สามารถที่จะหาได้นอกจากทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น ทางอินเทอร์เน็ตเป็นต้น)[51]คือ อินเทอร์เน็ตเป็นตัวเปลี่ยนวิธีการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกเด็กอย่างถอนราก และตามกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ มีผลเป็นการเพิ่มอย่างมหาศาลซึ่ง "ความแพร่หลาย การเข้าถึงได้ และจำนวนของสื่อลามกอนาจารเด็ก"[52]การผลิตสื่อให้กำไรมากและไม่จำกัดแต่ในกลุ่มคนใคร่เด็กเท่านั้น[53]กล้องดิจิทัลและการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตอำนวยโดยการใช้บัตรเครดิตและความง่ายในการส่งภาพข้ามชาติ ทำให้ง่ายกว่าแต่ก่อนที่จะหาภาพถ่ายหรือวิดีโอลามกเด็ก[19][20]

ศูนย์เพื่อเด็กหายและถูกฉวยผลประโยชน์แห่งชาติ (National Center for Missing and Exploited Children ตัวย่อ NCMEC) ซึ่งเป็นองค์การไม่แสวงหาผลกำไรเอกชน (แต่เบื้องต้นจัดตั้งโดยรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา) ประเมินว่า ในปี 2546 20% ของสื่อลามกอนาจารที่แลกเปลี่ยนทางอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อลามกเด็ก และตั้งแต่ปี 2540 จำนวนภาพลามกเด็กที่หาได้ทางอินเทอร์เน็ตได้เพิ่มขึ้นถึง 1,500%[20]ส่วนองค์กรการกุศลในสหราชอาณาจักรคือ มูลนิธิเฝ้าดูอินเทอร์เน็ต (Internet Watch Foundation) รายงานในปี 2550 ว่า สื่อลามกเด็กทางอินเทอร์เน็ตเริ่มประกอบด้วยความรุนแรงและความโจ่งแจ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และภาพที่แสดงการทารุณอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ตั้งแต่ปี 2547[54]ประธานบริหารขององค์กรกล่าวว่า "ประเด็นที่น่ากังวลใจก็คือความรุนแรงของภาพกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆนี่เรากำลังพูดถึงเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์ถูกข่มขืน"เด็กที่ถูกทารุณในภาพ 80% เป็นหญิง และ 91% ดูเหมือนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบ

การดำเนินคดีทำได้ยากเพราะว่า มีการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศ บางครั้งแม้แต่ส่งภาพเป็นแค่บางส่วนเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย[54]ผู้ทำผิดบางครั้งหลีกเลี่ยงการตรวจจับโดยใช้ไวรัสคอมพิวเตอร์เพื่อจะสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์คนอื่นได้อย่างผิดกฎหมาย แล้วใช้คอมฯนั้นเก็บสื่อลามกในคดีหนึ่ง ชายรัฐแมสซาชูเซตส์ถูกจับฐานมีสื่อลามกเด็ก แต่ความจริงคอมฯของเขาถูกนักเลงคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อดูเว็บไซต์ลามกและเก็บภาพโดยที่เขาไม่รู้[55]ส่วนศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐได้ตัดสินว่า ถ้าบุคคลดาวน์โหลดสื่อลามกจากเครือข่ายแชร์ไฟล์แล้วมีไฟล์นั้นในแชร์โฟลเดอร์ของเขา โดยที่ไม่ได้ตั้งระบบให้คนอื่นเข้าถึงไม่ได้ บุคคลนั้นสามารถมีความผิดฐานเผยแพร่สื่อลามกเด็กได้[56]

เกี่ยวกับความแพร่หลายทางอินเทอร์เน็ต กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวว่า "ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม ประเมินว่า มีภาพลามกอนาจารเด็กกว่าล้านภาพทางอินเทอร์เน็ต โดยมีการโพ้สต์รูปใหม่ ๆ 200 รูปในแต่ละวัน" และยังให้ข้อสังเกตว่า มีผู้ทำผิดคนหนึ่งที่ถูกจับในสหราชอาณาจักรที่มีภาพลามกเด็กถึง 450,000 รูป และว่า มีเว็บไซต์สื่อลามกเด็กเว็บหนึ่งที่มีคนคลิกดู 1 ล้านคลิกต่อเดือนนอกจากนั้นแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนสื่อลามกในระดับ/วิธีการที่ซ่อนเร้นทางอินเทอร์เน็ต และมีการประเมินว่า มีคนใคร่เด็กระหว่าง 50,000-100,000 คนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มมิจฉาชีพต่าง ๆ ทั่วโลก และจำนวน 1/3 ดำเนินการอยู่ในสหรัฐ

มีกลุ่มมิจฉาชีพขนาดยักษ์ระดับนานาชาติที่อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ในปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดที่เคยทำในเรื่องนี้ ตำรวจใน 30 ประเทศได้จับกุมผู้ต้องหา 184 คน โดยมีการระบุคนอื่นอีก 486 คนเจ้าหน้าที่ของเนเธอร์แลนด์ได้จับชายดัตช์เกิดในอิสราเอลอายุ 37 ปี ผู้เป็นคนจัดตั้งและเจ้าของเว็บบอร์ด Boylover.net ซึ่งเป็นศูนย์ของกลุ่มนี้เว็บบอร์ดนี้มีสมาชิกมากที่สุดถึง 70,000 คนจากทั่วโลก[57][58]ในปี 2551 กูเกิล เสิร์ชได้เริ่มใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถตรวจสอบสื่อลามกอนาจารเด็กที่เข้าถึงได้ทางเว็บของกูเกิลได้เร็วขึ้นเป็นโปรแกรมที่ใช้วิธีการรู้จำแบบ (pattern recognition) เพื่อทำการตรวจสอบ[59]

พฤติกรรมการสะสมและแรงจูงใจโดยรวม ๆ

ผู้ดูสื่อลามกอนาจารเด็กที่เป็นคนใคร่เด็กจะหมกมุ่นเป็นพิเศษในการเก็บ จัดระเบียบ ตั้งหมวดหมู่ และขึ้นป้ายสื่อที่สะสมตามอายุ เพศ กิจกรรมทางเพศ และจินตนาการทางเพศ[60][61]ตามเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐคนหนึ่ง "การสะสม" สื่อไม่ได้หมายเพียงแค่ดูสื่อ แต่หมายถึงเก็บมันไว้ จนกระทั่ง "มันกลายเป็นสิ่งที่กำหนด ให้เชื้อเพลิง และยืนยันจินตนาการทางเพศที่พวกเขาชอบใจมากที่สุด"การมีสื่อเป็นจำนวนมากเป็นตัวบ่งชี้ความชอบใจทางเพศที่มีกำลังต่อเด็ก และถ้าผู้สะสมสื่อเป็นคนใคร่เด็กด้วย สื่อที่สะสมนั้นจะเป็นตัวชี้ที่ดีที่สุดว่าผู้นั้นต้องการทำอะไรกับเด็ก[61]สมาคมเพื่อการป้องกันความโหดร้ายต่อเด็กแห่งชาติแห่งสหราชอาณาจักร (National Society for the Prevention of Cruelty to Children) ได้กล่าวไว้ว่า

ความหมกมุ่นในการสะสมและการจัดสิ่งที่สะสมเป็นเรื่อง ๆ หรือเป็นธีม นำไปสู่การสร้างชุมชมสังคมทางอินเทอร์เน็ตมีจุดประสงค์เพื่อขยายจำนวนสิ่งที่สะสมและโดยอาศัยชุมชนเสมือนเช่นนี้ ผู้สะสมก็จะสามารถมองข้ามเนื้อหาและลักษณะทารุณกรรมของสื่อเหล่านี้ แล้วเห็นเด็กเป็นวัตถุแทนที่จะเป็นบุคคล โดยเห็นพฤติกรรมของตนว่าเป็นปกติกลายเป็นการแสดง "ความรัก" ต่อเด็กแทนที่จะเป็นทารุณกรรม[62]

ผู้ทำผิดเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะใช้วิธีการที่ซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับ[60]กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ให้ข้อสังเกตว่า "มีผู้ทำผิดผู้มีประสบการณ์กลุ่มหลักกลุ่มหนึ่ง ซึ่งบางคนเกี่ยวข้องกับกลุ่มข่าวคนใคร่เด็ก กว่า 20 ปี ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีสูง" และว่า "กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ของคนใคร่เด็กบ่อยครั้งจะมีคำแนะนำทางเทคนิคสำหรับคนใหม่จากคนเก่า ๆ"[61]

รายงานวุฒิสภาสหรัฐปี 2529 พบว่า แรงจูงใจในการสะสมสื่อลามกเด็กรวมทั้งเพื่อปลุกและสนองอารมณ์ทางเพศเพื่อแก้ต่างและให้เหตุผลกับพฤติกรรมที่ใคร่เด็กเพื่อแสดงรูปให้เด็กดูเพื่อลดความยับยั้งชั่งใจในการร่วมเพศเพื่อเก็บรักษารูปของเด็กคนหนึ่งในช่วงอายุที่ชอบใจทางเพศเพื่อแบล็กเมล์บุคคลในรูปเพื่อเป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารกับผู้บริโภคสื่อลามกเด็กคนอื่นและเพื่อผลกำไร[63]

คณะกรรมาธิการข้อตัดสินสหรัฐ (U.S. Sentencing Commission) ปี 2555 รายงานว่า ผู้ทำผิดเกี่ยวกับสื่อลามกเด็ก "ในขณะที่มีโอกาสที่จะเกิดอารมณ์ทางเพศต่อเด็กมากกว่าผู้ทำผิดทางเพศแบบจับต้อง มากกว่าประชากรโดยทั่วไป" ก็ยังสามารถมีแรงจูงใจที่ไม่เกี่ยวกับเพศในการสะสมสื่อลามกเด็กรวมทั้งความอยากรู้อยากเห็นในส่วนเบื้องต้น พฤติกรรมการเก็บสะสมแบบย้ำคิดย้ำทำ (หรือหมกหมุ่น) การหลีกเลี่ยงความทุกข์และความไม่พอใจในชีวิต และความสามารถในการสร้างเอกลักษณ์ออนไลน์ใหม่ที่มีความสำเร็จทางสังคมได้ดีกว่าชีวิตจริงผู้ทำผิดบางคนพบว่า การเก็บสะสมเป็นความสุขไม่ว่ารูปนั้นจะเร้าอารมณ์ทางเพศสำหรับตนหรือไม่โดยความสนใจกลายเป็นการเก็บรวบรวมให้เต็มชุดแล้วจัดระเบียบสิ่งที่สะสมเป็นงานอดิเรก เหมือนกับที่คนเก็บสะสมแสตมป์ทำ[64]

เซ็กซ์ทัวร์เด็ก

ดูบทความหลักที่: เซ็กซ์ทัวร์เด็ก

แหล่งสื่อลามกอนาจารเด็กที่แพร่ไปทั่วโลกแหล่งหนึ่งก็คือที่ทำโดยนักเที่ยวเซ็กซ์ทัวร์เด็กเหยื่อโดยมาอาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาตัวอย่างเช่น ในปี 2539 ศาลในประเทศไทยตัดสินคนเยอรมันว่า ได้ทำร้ายเด็กและทำสื่อลามกอนาจารเพื่อค้าขายเขาเป็นคนในกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยประโยชน์จากเด็กไทยนอกจากนั้นแล้ว สื่อลามกที่ยึดได้ในประเทศสวีเดนและเนเธอร์แลนด์ในคริสต์ทศวรรษ 1990 เป็นจำนวนมาก ได้ทำโดยคนเที่ยวเซ็กซ์ทัวร์ในแถบเอเชียอาคเนย์[38]Interpol ทำงานร่วมกับประเทศสมาชิก 190 ประเทศเพื่อแก้ปัญหานี้ และได้ขอความช่วยเหลือเป็นปฏิบัติการที่สำเร็จผลในปี 2550 เพื่อระบุหาชายชาวแคนาดาคนหนึ่ง (Christopher Paul Neil) ที่มีรูปอยู่ในชุดรูปถ่ายกว่า 200 ภาพที่ทำทารุณกรรมทางเพศต่อเด็กเวียดนามและกัมพูชา[65]

กลุ่มอาชญากร

กลุ่มมิจฉาชีพมักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตและการเผยแพร่สื่อลามกเด็ก[66][67]เมื่อมีการรวมกลุ่มเพื่อผลิตและแจกจ่ายสื่อลามก คำภาษาอังกฤษจะเรียกกลุ่มเช่นนี้ว่า "sex ring"[68][69][70][71][72]

ในปี 2546 การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกลุ่มผลิตและแจกจ่ายสื่อลามกเด็กมีฐานในประเทศเยอรมนีโดยมีผู้ต้องสงสัยรวมกัน 26,500 คนที่เแลกเปลี่ยนรูปที่ผิดกฎหมายทางอินเทอร์เน็ตใน 166 ประเทศ[73]ในคดีปี 2549 เจ้าหน้าที่ในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ จับกุมคน 27 คนในรัฐ 9 รัฐและประเทศ 3 ประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสื่อลามกเด็กที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางอธิบายว่า เป็นกลุ่มที่แย่ที่สุดกลุ่มหนึ่งที่เคยเจอผู้ช่วยเลขาธิการของหน่วย Immigration and Customs Enforcement เพิ่มว่า คดีนี้สะท้อนให้เห็นลักษณะ 3 อย่างที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มสื่อลามกอนาจารเด็ก

  1. ความแพร่หลายของภาพลามกที่ทำเองโดยผู้ทำผิด รวมทั้งภาพยนตร์สดส่งทางเน็ต (streaming video) ของเด็กที่กำลังถูกทารุณ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การส่งเวียนรูปเก่า ๆ
  2. การใช้วิธีการรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนและการใช้เครือข่ายแบบ peer-to-peer networking ซึ่งยังให้ผู้ร่วมมือสามารถแชร์ไฟล์บนคอมของตนได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ คือกลุ่มนี้ใช้การเข้ารหัสข้อมูลและโปรแกรมที่ทำลายข้อมูลได้โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไฟล์ และกระบวนการกลั่นกรองเพื่อให้แน่ใจว่า บุคคลที่อนุญาตเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าห้องแช็ตได้
  3. ภาพที่รุนแรงและโจ่งแจ้งยิ่งขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการทารุณเด็กที่เยาว์วัยยิ่งขึ้น[74]

ตามหัวหน้าของศูนย์ป้องกันการฉวยประโยชน์จากเด็กและป้องกันเด็กออนไลน์ (Child Exploitation and Online Protection Centre ตัวย่อ CEOPP) ที่เป็นหน่วยตำรวจของสหราชอาณาจักร ประมาณครึ่งหนึ่งของเว็บไซต์ที่แสดงเด็กกำลังถูกทารุณทางเพศ ดำเนินการแบบ pay-per-view (คือต้องจ่ายเพื่อจะดูแต่ละครั้ง) "คนที่เกี่ยวกับเว็บไซต์เหล่านี้ไม่ใช่ทำเพราะเป็นคนผิดปกติ แต่ทำเพราะว่าเป็นนักธุรกิจ นี่เป็นเรื่องของความเสี่ยงเทียบกับผลกำไร เราจึงต้องลดแรงจูงใจในเรื่องผลกำไร" โดย CEOPP เป็นหน่วยที่จัดตั้งขึ้นในปี 2549 และมีเป้าหมายที่การเงินของกลุ่มมิจฉาชีพที่ค้าขายรูปทารุณเด็ก[75]แต่ว่า สื่อลามกเด็กที่ถูกยึดในสหรัฐไม่ได้ทำหรือเผยแพร่เพื่อผลกำไร และก็มีหลักฐานน้อยมากว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพที่ดำเนินการเพราะผลกำไรที่เป็นแหล่งสำคัญของการเผยแพร่สื่อลามกเด็กในระดับสากล[76]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สื่อลามกอนาจารเด็ก http://www.theage.com.au/victoria/sexting-youths-p... http://www.afp.gov.au/media_releases/national/2007... http://www.cbc.ca/canada/story/2002/03/26/sharpe02... http://www.efc.ca/pages/law/cc/cc.163.1.html http://www.rcmp-grc.gc.ca/factsheets/fact_org_e.ht... http://www.animenewsnetwork.com/news/2005-03-04/ca... http://www.buffalonews.com/339/story/184849.html http://news.cnet.com/8301-13578_3-9899151-38.html http://edition.cnn.com/2009/CRIME/04/07/sexting.bu... http://www.cybercrimelawyerblog.com/2008/12/miami_...