การทารุณเด็กทางเพศเนื่องด้วยการผลิตและการแจกจ่าย ของ สื่อลามกอนาจารเด็ก

เด็กทุกวัย แม้กระทั่งเด็กทารก[35]ถูกทารุณเนื่องด้วยการผลิตสื่อลามก[4][19]กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประเมินว่า ผู้ทำสื่อได้บันทึกทารุณกรรมต่อเด็กกว่า 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว[36]มีแนวโน้มที่จะใช้เด็กที่อายุน้อยกว่าหรือว่าแสดงความรุนแรงมากกว่าตามผู้สืบสวนของหน่วยอาชญากรรมอินเทอร์เน็ตต่อเด็ก (Internet Crimes Against Children) ของรัฐบาลกลาง"คนพวกนี้ข่มขืนทั้งเด็กทารกและเด็กกำลังเดิน คุณสามารถได้ยินเสียงเด็กร้องไห้และร้องขอความช่วยเหลือในวิดีโอ นี่เป็นเรื่องร้ายกาจมาก"[37]ตามงานประชุมโลกใหญ่ต้านการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก "แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ข้อมูลที่แม่นยำ การตรวจดูสื่อลามกอนาจารเด็กที่มีทั่วไปในตลาดนานาชาติอย่างคร่าว ๆ แสดงว่า มีเด็กเป็นจำนวนสำคัญที่กำลังถูกฉวยประโยชน์ทางเพศผ่านทางสื่อ (อินเทอร์เน็ต) นี้"[38]องค์กรการกุศลเพื่อเด็ก Action for Children ในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ความต้องการเกี่ยวกับสื่อลามกเด็กได้เพิ่มคดีทารุณทางเพศ เนื่องจากมีเด็กมากขึ้นที่ถูกทารุณเพื่อผลิตสื่อ[39]

ในงานศึกษาที่วิเคราะห์ชายผู้ถูกจับเพราะมีสื่อลามกอนาจารเด็กในสหรัฐในช่วงเวลาปีหนึ่งระหว่าง 2543-2544 ผู้ทำผิดโดยมากมีภาพเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์ (83%) และเป็นภาพที่แสดงการล่วงล้ำทางเพศอย่างชัดแจ้งผู้ทำผิด 1 ใน 5 (ประมาณ 21%)) มีภาพที่สื่อความรุนแรงเช่นการถูกมัด การข่มขืน การทรมาน และรูปเช่นนั้นโดยมากเกี่ยวข้องกับเด็กที่ถูกปิดปาก ถูกมัด ถูกปิดตา หรือต้องรองรับความซาดิสม์ผู้ทำผิด 1 ใน 3 (ประมาณ 39%) มีวิดีโอลามกเด็กที่แสดงภาพเคลื่อนไหวและประกอบด้วยเสียง79% มีภาพเด็กเปลือยหรือกึ่งเปลือย แต่เพียงแค่ 1% มีรูปเช่นนั้นเพียงอย่างเดียวเจ้าหน้าที่พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่ง (48%) มีภาพนิ่งที่โจ่งแจ้งเกินกว่าร้อย และ 14% เกินกว่าพัน40% ทำผิด 2 ข้อหา คือทั้งทำร้ายเด็กทางเพศและมีสื่อลามกอนาจารเด็ก[40]

งานศึกษาโดยกรมตำรวจปี 2550 ในประเทศไอร์แลนด์แสดงภาพที่ร้ายแรงที่สุดจากตัวอย่างกว่า 100 คดีที่เกี่ยวข้องกับภาพอนาจารเด็กภาพร้ายแรงที่สุด 44% เป็นรูปเปลือยหรือออกท่าเร้าอารมณ์, 7% แสดงกิจกรรมทางเพศระหว่างเด็ก,7% แสดงกิจกรรมทางเพศที่ไม่มีการล่วงล้ำระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่,37% แสดงกิจกรรมทางเพศที่มีการล่วงล้ำระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่, 5% เป็นภาพแบบซาดิสม์หรือเกี่ยวข้องกับสัตว์[41]

มาชา แอลเล็น (กลาง) ก่อนให้การต่อหน้ารัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 2551

เหยื่อคนหนึ่งชื่อว่า มาชา แอลเล็นถูกรับเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่อายุ 5 ขวบ[42]จากสหภาพโซเวียตโดยชายชาวอเมริกันผู้ทารุณเธอทางเพศเป็นเวลา 5 ปีแล้วโพ้สต์ภาพของเธอทางอินเทอร์เน็ตเธอได้ให้การต่อหน้ารัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกาว่า เธอปวดร้าวมากแค่ไหนต่อภาพทารุณกรรมของเธอที่ยังถูกเผยแพร่สืบ ๆ ไป โดยเธอมีจุดประสงค์เพื่อแสดงตัวอย่างจริงของเหยื่อทางสถิติที่แม้น่าเศร้า แต่อาจจะดูเป็นเรื่องทางนามธรรมและไร้ตัวตน และเพื่อที่จะช่วยผ่านกฎหมายที่ใช้ชื่อของเธอ[43]"กฎหมายของมาชา" ซึ่งรวมอยู่ในกฎหมาย (Adam Walsh Child Protection and Safety Act) ปี 2549 มีมาตราที่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 หรือมากกว่านั้นสามารถฟ้องคดีแพ่ง ต่อบุคคลที่ดาวน์โหลดภาพลามกอนาจารที่ถ่ายเมื่อยังเป็นเด็กของตน[44]แต่ว่า "ดาวน์โหลด" ในที่นี้รวมเอาการดูที่ไม่ได้ดาวน์โหลดมาที่คอมฯ อย่างตั้งใจ และได้มีการดำเนินคดีอย่างสำเร็จผลโดยใช้ข้อมูลที่ยังหลงเหลือบนคอมของผู้ทำผิด[ต้องการอ้างอิง]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สื่อลามกอนาจารเด็ก http://www.theage.com.au/victoria/sexting-youths-p... http://www.afp.gov.au/media_releases/national/2007... http://www.cbc.ca/canada/story/2002/03/26/sharpe02... http://www.efc.ca/pages/law/cc/cc.163.1.html http://www.rcmp-grc.gc.ca/factsheets/fact_org_e.ht... http://www.animenewsnetwork.com/news/2005-03-04/ca... http://www.buffalonews.com/339/story/184849.html http://news.cnet.com/8301-13578_3-9899151-38.html http://edition.cnn.com/2009/CRIME/04/07/sexting.bu... http://www.cybercrimelawyerblog.com/2008/12/miami_...