ลิ่น หรือ
นิ่ม หรือที่นิยมเรียกกันว่า
ตัวลิ่น หรือ
ตัวนิ่ม จัดอยู่ใน
ไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อยู่ในอันดับ Pholidota จัดเป็นสัตว์ที่มีเพียง
วงศ์เดียวในปัจจุบัน คือ Manidae และ
สกุลเดียว คือ Manisลิ่นเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ
อาร์มาดิลโล หรือ สัตว์ที่อยู่ในอันดับ Cingulata ที่พบได้ใน
ทวีปอเมริกาเหนือและ
อเมริกาใต้ ขณะที่ลิ่นจะพบได้ที่
ทวีปเอเชียและ
แอฟริกาลิ่นทุกชนิดจะมีส่วนหน้าที่ยาว มีปากขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูเล็ก ๆ ไม่มี
ฟัน กินอาหารโดยการใช้ลิ้นที่ยื่นยาวและน้ำลายที่เหนียวตวัดกิน
แมลงตามพื้นดิน จำพวก
มดและ
ปลวกหรือหนอนขนาดเล็ก และมีลำตัวที่ปกคลุมด้วย
เกล็ดเป็นชิ้น ๆ เหมือนกับ
สัตว์เลื้อยคลาน ทำหน้าที่เหมือน
ชุดเกราะเพื่อใช้ในการป้องกันตัว เมื่อถูกรุกรานลิ่นจะลดลำตัวเป็น
วงกลม ขณะที่ส่วนท้องจะไม่มีเกล็ด ซึ่งจะถูกโจมตีได้ง่าย ลิ่นมีเล็บที่แหลมคมและยื่นยาว ใช้สำหรับขุดพื้นดินหาอาหารและขุดโพรงเป็นที่อยู่อาศัยและพักผ่อน และปีนต้นไม้ เป็นสัตว์ที่หากินในเวลา
กลางคืนลิ่นออกลูกเป็นตัว ครั้งละ 1-2 ตัว
ตั้งท้องนานราว 130 วัน เมื่อแรกเกิด ลูกลิ่นจะมีเกล็ดติดตัวมาตั้งแต่เกิด และจะเกาะกับแม่ตรงบริเวณโคนหาง ซึ่งลูกลิ่นวัยอ่อนจะยังไม่มีเกล็ดแข็งเหมือนกับลิ่นวัยโต แต่จะค่อย ๆ แข็งขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเจริญเติบโต
[2]ลิ่นมีทั้งหมด 8 ชนิด (ดูในตาราง) กระจายพันธุ์ไปในทวีปแอฟริกาและเอเชีย สำหรับใน
ประเทศไทยพบ 2 ชนิด คือ
ลิ่นซุนดา หรือ ลิ่นชวา (M. javanica) ที่พบได้ทั่วไปทุกภาค กับ
ลิ่นจีน (M. pentadactyla) ที่มีรายงานการพบเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น บริเวณ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อปี
พ.ศ. 2483 ซึ่งมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่า หางสั้นกว่า และมีสีที่คล้ำกว่า
[3]ลิ่นซุนดา ในปัจจุบัน เป็น
สัตว์ป่าที่นิยมอย่างมากในการรับประทานในหมู่ของผู้ที่นิยมรับประทานสัตว์ป่าหรือของแปลก ๆ โดยมีราคาขายสูงถึง
กิโลกรัมละ 2,000-3,000 บาท หากตัวไหนที่มี
น้ำหนักมากอาจมีราคาสูงถึง 3,500 บาท ทำให้มีการลักลอบค้าตัวลิ่นอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่
ภาคใต้ เช่น
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และ
อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า เป็นต้น และในความเชื่อของชาวจีน เชื่อว่า เกล็ดของลิ่นช่วยในการรักษา
โรคกระเพาะ[4]โดยผู้ที่เข้าป่าหาตัวลิ่นจะใช้
สุนัขดมกลิ่นตามล่า หากลิ่นปีนขึ้นต้นไม้ ก็จะใช้การตัดต้นไม้ต้นนั้นทิ้งเสีย โดยการค้าตัวลิ่นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะลิ่นไม่ว่าชนิดไหน ในประเทศไทย ถือว่าเป็น
สัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 และมี
กฎหมายคุ้มครองระหว่างประเทศอีกด้วย ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
[5]ซึ่งคำว่า "Pangolin" ซึ่งเป็น
คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่เรียกลิ่นนั้น มาจาก
ภาษามลายูคำว่า Peng-goling แปลว่า "ไอ้ตัวขด"
[6]