เจ้าหญิงซีตาแห่งบูร์บง-ปาร์มา (
อังกฤษ:
Princess Zita of Bourbon-Parma) (ซีตา มาเรีย เดลเล กราซี อาเดลกอนด้า มิคาเอล่า ราฟาเอลล่า กาเบรียลล่า จูเซปปิน่า อันโตเนีย หลุยซ่า แอ็กเนเซ;
9 พฤษภาคม พ.ศ. 2435 -
14 มีนาคม พ.ศ. 2532) เป็นสมาชิกพระองค์หนึ่งใน
ราชวงศ์บูร์บง-ปาร์มา และพระมเหสีใน
จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย ดังนั้นจึงดำรงพระอิสริยยศเป็นจักรพรรดินีแห่งออสเตรีย (Empress of Austria) สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการี (Queen of Hungary) และสมเด็จพระราชินีแห่งโบฮีเมีย (Queen of Bohemia) โดยทรงมีความเกี่ยวข้องทางสายพระโลหิตกับราชวงศ์ฝรั่งเศส โปรตุเกส และสเปนเจ้าหญิงซีตา ซึ่งเป็นพระธิดาพระองค์ที่สิบเจ็ดใน
ดยุกโรเบิร์ตที่ 1 แห่งปาร์มา ได้อภิเษกสมรสกับอาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรียในปี พ.ศ. 2454 และต่อมาอาร์ชดยุกคาร์ลได้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทใน
จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย หลังจากการลอบปลงประชนม์
อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย พระปิตุลา และเสวยราชสมบัติแห่ง
ออสเตรีย-ฮังการี เมื่อปี พ.ศ. 2459 ภายหลังการเสด็จสวรรคของจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1หลังจาก
สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2461 ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คได้ถูกขับไล่ออกไปเมื่อจักรวรรดิออสเตรียล่มสลายกลายเป็นประเทศใหม่ อันได้แก่ ออสเตรีย เชคโกสโลวาเกีย ฮังการี รัฐสโลวีเนีย โครเอเชีย และเซอร์เบีย จักรพรรดิคาร์ลและจักรพรรดินีซีตาได้เสด็จลี้ภัยไปประทับใน
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และต่อมาไปประทับที่เกาะมาเดร่า
ประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่สวรรคตของจักรพรรดิคาร์ลในปี
พ.ศ. 2465 หลังจากการสวรรคตของพระสวามี จักรพรรดินีซีตาและเจ้าชายออทโท พระโอรสทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดองของราชวงศ์ออสเตรียที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน ในฐานะที่เป็นชาวคาทอลิกที่เคร่งครัด พระองค์ทรงแบกรับภาระ ดูแลครอบครัวใหญ่หลังจากเป็นม่ายขณะมีพระชนมายุ 29 พรรษา และยังคงซื่อสัตย์ต่อความทรงจำเกี่ยวกับพระสวามีตลอดพระชนม์ชีพ