ความนิยมใน เดอะซิมป์สันส์ ทำให้เกิดรายได้ของสินค้ากว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ[19] ตัวละครครอบครัว เดอะซิมป์สันส์ และตัวละครประกอบ ปรากฏตั้งแต่เสื้อทีเชิร์ตไปถึงโปสเตอร์ ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2007 มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เครื่องเล่น ซิมป์สันไรด์ จะอยู่ในยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอที่ออร์ลันโดและฮอลลีวูด จะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 2008[118] เดอะซิมป์สันส์ ยังได้ออกสินค้าเกี่ยวกับเกม อย่าง คลู, สแครบเบิล, เกมเศรษฐี, โอเปเรชัน และ เดอะเกมออฟไลฟ์ เช่นเดียวกับเกมคำถาม What Would Homer Do? และ Jeopardy! และเกมจำพวกไพ่อย่าง ทรัมป์ และการ์ดสะสม ก็ออกวางขาย

สิ่งตีพิมพ์เกี่ยวกับ เดอะซิมป์สันส์ ก็มีออกมามากมายหลายปี อย่างเช่น หนังสือซีรีส์การ์ตูนพิมพ์โดยบองโกคอมิกส์ พิมพ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993[119] หนังสือการ์ตูน เดอะซิมป์สันส์ และ บาร์ต ซิมป์สัน พิมพ์ใหม่อีกครั้งในสหราชอาณาจักรภายใต้ชื่อเดิม โดยมีเรื่องราวหลากหลายจากของการพิมพ์บองโกในการพิมพ์หลักการ์ตูนเรื่องซิมป์สันส์นี้ นอกจากนี้ยังมีแบบฟอร์มสำหรับนักสะสมพิมพ์ออกมาสำหรับเป็นแนวทางของ เดอะซิมป์สันส์ แสดงตอนและหนังสือที่ออกจำหน่าย

และยังมีของสะสมประเภทเพลงประกอบที่มีออกในรายการ ก็ออกขายเป็นอัลบั้มเพลง ที่ชื่ออัลบั้ม Songs in the Key of Springfield และ Go Simpsonic with The Simpsons มีหลายเพลงที่ตัดออกขายเป็นซิงเกิล หรือออกขายเป็นอัลบั้มที่ไม่ปรากฏบนรายการ ซิงเกิลที่โด่งดังที่สุดคือ "Do the Bartman" ที่ร่วมแต่งโดยไมเคิล แจ็กสัน[120] และประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ทซิงเกิลของสหราชอาณาจักรเป็นเวลาถึง 3 สัปดาห์[121]และยังได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำจากบีพีเอ[122] ในสหราชอาณาจักร ซิงเกิล Deep, Deep Trouble" ออกขายตามหลังซิงเกิล "Do The Bartman" และยังมีออกผลงานอัลบั้มชุด The Simpsons Sing the Blues และ The Yellow Album ที่มีการนำเพลงเก่ามาทำใหม่และเพลงใหม่ ๆ

ในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง The Simpsons Movie ร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น 12 สาขาได้แปลงโฉมให้เป็นร้าน Kwik-E-Mart และขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ เดอะซิมป์สันส์ เช่น "Buzz Cola", "Krusty-O" cereal, โดนัทสีชมพู และ "Squishees"[123]

ในปี 2007 มีการประกาศว่า เดอะซิมป์สันส์ไรด์ ยานขับเคลื่อนเปิดตัวที่ยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอในฟลอริด้าและฮอลลีวูด และแทนที่ ยานเจาะเวลาหาอดีต ทั้งสองที่[124] ยานที่ยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอในฟลอริด้า เปิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2008 มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม[125] ส่วนที่ฮอลลีวูดเปิดเมื่อ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2008[126] ซึ่งยานพาหนะนี้ก็มีการแนะนำสวนสนุกที่ชื่อว่า "ครัสตีแลนด์" สร้างโดยครัสตีเดอะคลาวน์[127]

ดีวีดี

มีหลายตอนของ เดอะซิมป์สันส์ ที่วางออกขายในรูปแบบดีวีดีและวีเอชเอส มานานหลายปี โดยในฤดูกาลแรกวางขายเป็นดีวีดีในปี ค.ศ. 2001 และยังถือว่ามียอดขายดีที่สุดในหมวดดีวีดีรายการโทรทัศน์ในประวัติศาสตร์ แต่ต่อมาก็ถูกทำลายสถิติโดยฤดูกาลแรกของรายการ Chappelle's Show[128] โดยเฉพาะในฤดูกาลแรกถึงสิบ ออกวางเป็นดีวีดีในสหรัฐอเมริกา (โซน 1), ยุโรป (โซน 2) และ ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์/ละตินอเมริกา (โซน 4) และยังคาดว่าจะออกฤดูกาลอื่นตามมาในอนาคต[129]

วิดีโอเกม

ในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมีการดัดแปลงตัวละครและโลกของเมืองสปริงฟิลด์สู่เกม อย่างเช่น เกมในยุคอาร์เคตยุคแรก ๆ ของโคนามิที่ชื่อ The Simpsons (ค.ศ. 1991) และของค่ายแอกเคลม เอนเตอร์เทนเมนต์ที่ชื่อ The Simpsons: Bart vs. the Space Mutants (ค.ศ. 1991) ส่วนเกมสมัยใหม่รวมถึง The Simpsons Road Rage (ค.ศ. 2001) , The Simpsons Hit & Run (ค.ศ. 2003) และ The Simpsons Game (ค.ศ. 2007) และยังมีเกมพินบอลก็ถูกผลิตมาเช่นกัน ออกมาในช่วงฤดูกาลแรกและยังมีออกวางขายด้วย[130]