เสือโคร่งจีนใต้ หรือ
เสือโคร่งจีน หรือ
เสือโคร่งเซียะเหมิน (
อักษรจีนตัวเต็ม: 华南虎,
อักษรจีนตัวย่อ: 華南虎, หัวหนันหู่)
เสือโคร่งพันธุ์ย่อยพันธุ์หนึ่ง มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panthera tigris amoyensis อยู่ใน
วงศ์เสือและสิงโต (Felidae) รูปร่างเหมือนเสือโคร่งทั่วไป แต่มีสีขนที่อ่อนกว่า
เสือโคร่งเบงกอล (P. t. tigris) หรือ
เสือโคร่งอินโดจีน (P. t. corbetti) มีหางสั้นกว่า มีลวดลายที่น้อยกว่า นับเป็นเสือโคร่งชนิดที่มีลวดลายน้อยที่สุด มีขนาดรูปร่างและน้ำหนักเล็กกว่าเสือโคร่งอินโดจีนเล็กน้อย และมีลักษณะของโครงสร้าง
กะโหลกที่แตกต่างออกไป มีเบ้าตาลึก และมีโหนกนูนเล็กน้อยบริเวณด้านหลังต้นคอมีการกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะ
ประเทศจีนทางตอนใต้ ตามที่ปรากฏหลักฐานพบว่า เสือชนิดนี้อาศัยอยู่ในบริเวณประเทศจีนมากว่า 2 ล้านปีแล้ว และเชื่อว่าเป็นต้นสายพันธุ์ของเสือโคร่งพันธุ์อื่น ๆ
[2]แต่ปัจจุบัน มีสถานะขั้นวิกฤตในธรรมชาติ โดยพบในธรรมชาติครั้งสุดท้ายเมื่อปี
พ.ศ. 2507 คาดว่ามีเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 30 ตัว และมี 60 ตัวที่อยู่ใน
สวนสัตว์ประเทศจีน ในอดีตเชื่อว่าอาจมีใน
เกาหลีใต้ด้วย แต่ปัจจุบันไม่พบแล้วอุปนิสัยของเสือโคร่งจีนใต้ เหมือนกับเสือโคร่งทั่วไป คือ ชอบเล่น
น้ำและมีพฤติกรรมล่าเหยื่อที่คล้ายคลึงกันคือซ่อนเหยื่อและมักกินเนื้อบริเวณสะโพกก่อนในปี
พ.ศ. 2546 ทางการจีนได้ร่วมมือกับทางการ
แอฟริกาใต้ทำโครงการการอนุรักษ์และขยายพันธุ์เสือโคร่งจีน โดยใช้พื้นที่ป่าของแอฟริกาใต้เป็นสถานที่อาศัยและขยายพันธุ์ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่โล่งกว้างขวางและมีภูมิอากาศที่เหมาะสม มี
ฝนตกเหมาะกับอุปนิสัยที่ชอบเล่นน้ำของเสือ โดยใช้เนื้อที่ 330 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเคยเป็นฟาร์มเลี้ยง
แกะมาก่อน การขยายพันธุ์ประสบความสำเร็จเมื่อวันที่
23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เมื่อแม่เสือชื่อ "คาเธย์" ได้คลอดลูกเสือเพศผู้ออกมาตัวหนึ่ง จากการผสมกับเสือเพศผู้ชื่อ "ไทเกอร์วู้ด" นับเป็นครั้งแรกที่ลูกเสือโคร่งจีนใต้ได้ถือกำเนิดขึ้นนอกประเทศจีน ทางเจ้าหน้าที่โครงการคาดว่าในอีก 15 ปี ข้างหน้า จะได้ลูกเสือเช่นนี้ออกมาเป็นจำนวนมากขึ้น
[3][4]