เอริช_ลูเดินดอร์ฟ
เอริช_ลูเดินดอร์ฟ

เอริช_ลูเดินดอร์ฟ

พลเอกทหารราบ เอริช ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม ลูเดินดอร์ฟ (เยอรมัน: Erich Friedrich Wilhelm Ludendorff) เป็นนายทหารบกของจักรวรรดิเยอรมัน ผู้มีชัยชนะในยุทธการที่ลีแยฌ (Battle of Liège) และยุทธการที่ทันเนินแบร์ค (Battle of Tannenberg) ในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1916 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่พลาธิการ (Erster Generalquartiermeister) เขาและจอมพลฮินเดินบวร์คเปรียบเสมือนเป็นมือซ้ายขวาของจักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 คอยช่วยวางแผนและบัญชากองทัพเยอรมันตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในปี 1918 ด้วยความปราชัยในหลายศึก เขาและฮินเดินบวร์คกราบทูลองค์ไกเซอร์ให้ทำข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายสัมพันธมิตรในทันที แต่รัฐบาลจักรวรรดิยังยืนกรานที่จะทำสงครามต่อ คณะรัฐบาลได้ขู่องค์ไกเซอร์ว่า คณะรัฐมนตรีทั้งคณะจะลาออกหากไม่ทรงปลดลูเดินดอร์ฟ องค์ไกเซอร์จึงเรียกฮินเดินบวร์คและลูเดินดอร์ฟเข้าเฝ้า ทั้งสองรู้สถานการณ์ดีจึงกราบทูลลาออก ไกเซอร์ทรงอนุญาตให้ลูเดินดอร์ฟลาออก แต่ไม่อนุญาตให้ฮินเดินบวร์คลาออก ลูเดินดอร์ฟต่อว่าฮินเดินบวร์คหลังเข้าเฝ้าว่า "ผมไม่ทำงานอะไรกับท่านอีกแล้ว เพราะท่านทำกับผมได้โครตทุเรศเลย"[1]หลังสงคราม ลูเดินดอร์ฟได้กลายเป็นผู้นำของชาติที่มีความโดดเด่นและสนับสนุนแนวคิดตำนานแทงข้างหลัง ด้วยความเชื่อที่ว่า ความพ่ายแพ้สงครามของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเกิดขึ้นมาจากการทรยศหักหลังต่อกองทัพเยอรมันโดยพวกลัทธิมากซ์และบอลเชวิค ซึ่งถูกมองว่าต้องรับผิดชอบเต็มๆที่ปล่อยให้เยอรมันประสบความเสียเปรียบหลายอย่างในการเจรจาร่างสนธิสัญญาแวร์ซายลูเดินดอร์ฟได้มีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหารของว็อล์ฟกัง คัพ ในค.ศ. 1920 และกบฏโรงเบียร์ของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ใน ค.ศ. 1923 ก่อนที่จะผันตัวลงรับสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเยอรมันในปี ค.ศ. 1925 ซึ่งต้องปราชัยให้กับอดีตเจ้านายอย่างจอมพลฮินเดินบวร์ค ในปีค.ศ. 1933 วันที่ประธานาธิบดีฮินเดินบวร์คลงนามในรัฐบัญญัติมอบอำนาจซึ่งเป็นการรับรองอำนาจที่ไร้ข้อจำกัดของฮิตเลอร์นั้น ลูเดินดอร์ฟได้เขียนจดหมายถึงฮินเดินบวร์คว่า "ผมขอทำนายไว้เลย ว่าชายเหลือร้ายคนนี้จะนำพาประเทศเราไปสู่ความพินาศ และนำพาชาติไปสู่ความย่อยยับเกินจะนึกฝัน ลูกหลานเราในวันหน้าจะสาปแช่งท่านในหลุมศพต่อสิ่งที่ท่านได้ทำลงไป"[2] อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์บางคนมองว่าข้อความดังกล่าวเป็นของปลอม[3]ฮิตเลอร์เดินทางไปบ้านพักของลูเดินดอร์ฟแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้าในวันเกิดครบรอบ 70 ปีในปีค.ศ. 1935 ฮิตเลอร์มอบยศจอมพลเป็นของขวัญแก่ลูเดินดอร์ฟ แต่ลูเดินดอร์ฟกลับโกรธและปฏิเสธฮิตเลอร์ว่า "ทหารจะเป็นจอมพลได้ที่สนามรบ! ไม่ใช่ที่งานเลี้ยงน้ำชาวันเกิดในยามสงบสุข"[4] ลูเดินดอร์ฟถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งตับที่คลินิกแห่งหนึ่งในนครมิวนิกเมื่อปี ค.ศ. 1937 ในวัย 72 ปี[5] ฮิตเลอร์จัดรัฐพิธีศพให้เขาทั้งที่เจ้าตัวไม่ต้องการ

เอริช_ลูเดินดอร์ฟ

บำเหน็จ พัวร์เลอเมรีท
กางเขนเหล็กชั้นหนึ่ง
ชั้นยศ พลเอกทหารราบ (General der Infanterie)
ที่เกิด ลูเดินดอร์ฟ ราชอาณาจักรปรัสเซีย
(ปัจจุบันคือกรูแชฟญา โปแลนด์)
ชื่อเกิด เอริช ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม ลูเดินดอร์ฟ
ประจำการ ค.ศ. 1883–1918
การยุทธ์ สงครามโลกครั้งที่ 1
การปฏิวัติเยอรมัน
สังกัด กองทัพบกจักรวรรดิเยอรมัน
รับใช้  จักรวรรดิเยอรมัน
ที่ตาย มิวนิก บาวาเรีย นาซีเยอรมนี

ใกล้เคียง

เอริช ฮาร์ทมัน เอริช ฟ็อน มันชไตน์ เอริช ฮ็อนเน็คเคอร์ เอริช เค็สท์เนอร์ เอริช ลูเดินดอร์ฟ เอริช เรเดอร์ เอริช ฟ็อน ฟัลเคินไฮน์ เอริช มาเรีย เรอมาร์ค เอริช เฟ็ลกีเบิล เอริช เฮิพเนอร์