โลมาหลังโหนก หรือ
โลมาขาวเทา[3] หรือ
โลมาเผือก หรือ
โลมาสีชมพู[4] (
อังกฤษ: Chinese white dolphin, Pacific humpback dolphin, Indo-Pacific humpbacked dolphin;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Sousa chinensis
[2];
จีน: 中華白海豚;
พินอิน: Zhōnghuá bái hǎitún) เป็น
โลมาชนิดหนึ่ง ใน
วงศ์โลมามหาสมุทร (Delphinidae)มีลักษณะทั่วไป คือ มีจะงอยปากยาวโค้งเล็กน้อยที่เด่นชัดคือส่วนของฐานครีบหลังจะเป็นสันนูนสูงรองรับครีบหลังสีลำตัวจะมีการผันแปรต่างกันมาก ตัวเล็กจะมีสีจางจนเหมือน
เผือก แม้บางตัวก็มีสีออก
ขาว หรืออย่างน้อยขาวในบางส่วน หรือ
สีชมพู ซึ่งสีเหล่านี้ไม่ได้มาจาก
เม็ดสี แต่เป็นสีของ
หลอดเลือดที่ช่วยให้ไม่ให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป และมีส่วนหลังที่เป็นสันนูนเหมือนโหนก อันเป็นที่มาของ
ชื่อสามัญ[4]ขนาดโตเต็มที่ ตัวผู้ยาวประมาณ 3.2 เมตร ขณะที่ตัวเมียยาว 2.5 เมตร และลูกแรกเกิดยาวประมาณ 1 เมตร มีอายุโดยเฉลี่ย 40 ปี โลมาหลังโหนกเมื่ออายุมากขึ้นสีชมพูตามตัวจะยิ่งเข้มขึ้น และส่วนด้านท้องและด้านล่างลำตัวจะเป็นจุด และมีสีที่สว่างกว่าลำตัวด้านบน
[5] [4]กระจายพันธุ์ตามแถบ
ชายฝั่งหรือแหล่งน้ำตื้นที่มีความลึกไม่เกิน 20 เมตร บริเวณ
อินโดแปซิฟิก พบมากที่สุด คือ
อ่าวรีพัลส์ หรือ
เกาะลันเตา ที่
ฮ่องกง ที่มีจำนวนประชากรในฝูงนับร้อย โดยมากชายฝั่งทะเลที่โลมาหลังโหนกอาศัยอยู่นั้นมักจะมี
ป่าชายเลนอยู่ด้วยเสมอ ๆ แต่จะต้องอยู่ในบริเวณน้ำตื้นเท่านั้น มีอุปนิสัยอาศัยประจำที่หรือมีการย้ายที่อพยพน้อยมากและอาศัยไม่ห่างจากชายฝั่งเกินระยะ 1 กิโลเมตร จึงพบเห็นตัวได้โดยง่าย โดยมักจะพบเห็นตั้งแต่ตอนเช้า จะอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 10 ตัว ว่ายน้ำช้า ประมาณ 4.8 กิโลเมตร/ชั่วโมง และจะดำน้ำประมาณ 40-60 วินาที ก่อนจะโผล่ขึ้นมาหายใจ
[4]กินปลาทั้งตามชายฝั่งและใน
แนวปะการังเป็นอาหารหลัก รวมทั้ง
หมึก,
กุ้ง,
ปู ออกหาอาหารเป็นฝูง โดยใช้
คลื่นเสียง เป็นโลมาอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาฝึกกันตามสวนน้ำหรือ
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ในประเทศไทยจัดเป็น
สัตว์ป่าคุ้มครอง โดยพบได้ทั้งฝั่ง
อ่าวไทยและ
ทะเลอันดามัน [5] [6]