การทอผ้า ของ ไทโคราช

ชาวไทยเบิ้งนิยมผ้าฝ้าย ทำลวดลายผ้า เป็นลายตารางรูปสี่เหลี่ยม ปกติ จะทอไว้ใช้เอง เช่น ผ้าเย็บที่นอน หมอน ผ้าถุง ผ้าขาวม้า ย่าม ปัจจุบันบางครอบครัวทอไว้ขาย เช่น ผ้าขาวม้า และย่าม แต่เดิมการทำผ้าของชาวไทยเบิ้งได้เตรียมการทอผ้าเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกฝ้าย ปั่นด้าย ย้อมสีด้ายฝ้าย ในปัจจุบัน ซื้อเส้นด้านย้อมสีสำเร็จรูปมาทอ การแต่งกายใช้ผ้าฝ้าย เอกลัษณษ์ในการแต่งกายคือ สตรีสูงอายุนุ่งโจงกระเบน และสะพายย่าม รูปแบบลักษณะเฉพาะในเวลาไปทำงาน

กลุ่มชนชาวไทเบิ้งที่อาศัยอยู่แถบลุ่มแม่น้ำป่าสัก ประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก เมื่อย่างเข้าฤดูแล้ง ผู้ชายอาจจะเข้าป่า หาของป่า ล่าสัตว์ ผู้หญิงจะทอผ้าไว้ใช้ในครอบครัว และ ปลูกฝ้าย ในเนื้อที่ที่เหลือในบริเวณบ้านเพื่อใช้ทอผ้า

กรรมวิธีการทำเส้นด้าย การอิ้วฝ้าย หรือ หีบฝ้าย เป็นการแยกเมล็ดออกจากปุยฝ้าย โดยใช้เครื่องหีบ หรือเครื่องอิ้วฝ้าย การดีดฝ้าย เป็นการทำให้ฝ้ายแตกกระจายออกเป็นเนื้อเดียวกัน การดิ้วฝ้าย เป็นการนำด้ายที่ดีดเป็นปุยแล้วมาล้อหมุนให้ได้ฝ้ายที่มีลักษณะกลม โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า ไม้ล้อ การเข็นฝ้าย หรือการปั่นฝ้าย เป็นการดึงฝ้ายที่ดิ้วแล้วให้เป็นเส้นด้าย โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า ไน หรือ หลา แล้วใช้ไม้เปียด้ายพันด้าย จนมีขนาดโตพอประมาณ แล้วดึงด้ายออก เรียกว่า ปอย หรือ ไจ

การตกแต่งเส้นด้าย การฆ่าด้าย วิธีการทำให้ด้ายมีความเหนียว ทนทานไม่เป็นขนโดยนำไปต้มกับข้าว วิธีการนี้ใช้กับเส้นด้ายที่ไม่ต้องการย้อมสี การย้อมสี เป็นวิธีเพิ่มความสวยงามให้แก่ผืนผ้า โดยใช้สีที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งจะได้จากส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ราก ดอก ต้น แก่น ลูก และใบ กรรมวิธีการย้อม มีวิธีย้อมตามลักษณะของวัสดุ พืชที่นำมาใช้เป็นสีย้อมผ้า ได้แก่ ผลมะเกลือ เปลือกกระโดน มะเกลือเลือด แก่นแกแล เปลือกอินทนิล ฝักระกำ ต้นคราม ขมิ้นกับ ยอดแค แก่นฝาง ผักงาด ฯลฯ ส่วนวิธีการย้อมสี ผ้าหรือเส้นด้ายที่จะย้อม จะต้องซัก หรือแช่น้ำให้เปียกทั่วทั้งผืนก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้สีด่าง จะทำให้สีติดผ้าทั่วกันทั้งผืน และเมื่อย้อมสีเสร็จแล้วจะต้องนำผ้าไปล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนนำไปตาก

เครื่องมือเครื่องใช้ในการทอผ้า

กี่พื้นเมืองหรือกี่ทอมือ กี่ชนิดนี้ทอผ้าแต่ละครั้งได้จำนวนจำกัด คือ ได้เพียงครั้งละ 5-6 ผืน หน้ากว้างของผ้าที่ทอได้ จะแคบ กี่ทอมือจะต้องใช้เท้าเหยียบเพื่อบังคับตะกอให้แยกเส้นด้ายยืนออกจากกัน แล้วใช้มือสอดกระสวยใต้เส้นด้ายที่แยกดึงฟันฟืมกระทบเส้นด้ายพุ่งให้ติดกันทีละเส้น ซึ่งทอได้ช้า

กี่กระตุก เป็นกี่ที่เพิ่งจะเริ่มนำเข้ามาใช้ โดยได้รับการส่งเสริมจากกรมพัฒนาชุมชน การทอกี่กระตุก ผู้ทอไม่ต้องสอดกระสวย ใช้มือกระตุกเชือกที่ติดกับกระสวย แล้วกระสวยจะวิ่งผ่านเส้นด้ายยืนที่แยกออกจากกัน โดยการใช้เท้าเหยียบไม้ที่ดึงตะกอ ข้อดีของกี่กระตุก คือ ในการทอแต่ละครั้งไม่ต้องสืบเส้นด้ายยืนบ่อย ๆ มีแกนม้วนด้ายยืนได้ยาวหลายสิบเมตร เส้นด้ายยืนจะตึงเรียบเสมอกันไม่ต้องหวีหรือจัด


กรรมวิธีการทอผ้า การเสาะด้าย คือการนำด้ายที่ย้อมสีแล้วมาเสาะใส่ระวิง สาวลงกระบุง นำด้ายมากรอใส่หลอดทำด้วยไม้ไผ่ลำเล็ก ๆ แล้วนำไปค้น การค้น คือการนำด้ายสีต่าง ๆ ที่เสาะแล้วมาเกาะหลักพิมพ์ เพื่อกำหนดความยาวของเส้นด้ายยืนว่าต้องการทอกี่ผืน เมื่อเสร็จแล้วนำด้ายออกจากพิมพ์ เรียกว่า เครือ การสืบด้าย นำเครือด้ายมาสืบในฟืมจนครบตามหน้ากว้างของฟืม การทอ นำเส้นด้ายพุ่งที่กรอใส่หลอดด้าย เลือกสีตามต้องการ ใส่กระสวยแล้วนำมาทอ การทอหูกใช้เท้าเหยียบ มือพุ่งกระสวย และใช้มือดึงฟันหวีกระทบด้ายทีละเส้นให้แน่น ทอไป เรื่อย ๆ จนหมดความยาวของเส้นด้ายยืน

ประเภทของผ้าทอของชาวไทเบิ้ง

ประเภทของผ้าทอของชาวไทเบิ้ง ผ้าทอที่พบแบ่งออกเป็นสองยุค ได้แก่

1.ผ้าทอโบราณ เป็นผ้าที่ทอขึ้นเพื่อเก็บไว้ใช้เอง หรือให้ญาติพี่น้อง ผู้ที่เคารพนับถือใช้ มีลักษณะเป็นผ้าพื้นสีขาว ถ้าย้อมสี สีจะค่อนข้างเข้ม ทอแบบง่าย ๆ ลวดลายไม่สลับซับซ้อน เส้นด้ายที่ใช้ทอเป็นเส้นด้ายที่ได้มาจากฝ้ายแท้ๆ ได้แก่ ผ้าเย็บที่นอน เย็บหมอน ผ้าห่ม ผ้าพื้นใช้เย็บเสื้อ ผ้าถุงผ้าขาวม้า ย่าม2.ผ้าทอไทเบิ้งในปัจจุบัน มีเพียงตำบลเดียวที่ยังมีการทอผ้าคือตำบลโคกสลุง เป็นการ

ทอเพื่อการค้า เส้นด้ายที่ใช้เป็นเส้นด้ายประดิษฐ์หรือใยสังเคราะห์ ผ้าทอไทยเบิ้งในปัจจุบันมี 3 ประเภท คือ

  • ผ้าขาวม้า รูปแบบยังเหมือนเดิม แต่สีสันฉูดฉาดขึ้น ลวดลายของผ้าขาวม้าที่พบคือ ลายตาคู่ หรือลายตาสองลอน ลายตาคู่แทรก ลายตาราง
  • ย่ามลวดลายยังคงแบบเดิมมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะการใช้สีคือใช้สีอ่อนกว่าเดิมทอ ๒แบบ คือแบบธรรมดาไม่มีการเข้าเกลียวและแบบเข้าเกลียวเส้นด้าย
  • ผ้าถุง เป็นผ้ามัดหมี่ที่ใช้กรรมวิธีการทอแบบชาวบ้านหมี่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี โดยทางราชการส่งเสริมอาชีพนี้โดยให้กรมพัฒนาชุมชนจัดวิทยากรไปสอนการทอผ้ามัดหมี่

แนวโน้มการทอผ้าของชาวไทยเบิ้งในอนาคต การทอผ้าจะเป็นการทอเพื่อการค้ามากขึ้น การใช้กี่ทอมือจะน้อยลง เพราะกรรมวิธีในการทอค่อนข้างยุ่งยากและช้า นิยมใช้กี่กระตุก เพราะทอได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลาในการจัดเส้นด้ายยืน ลวดลายแบบใหม่ คือ เป็นการทอลายมัดหมี่ ซึ่งนำด้ายขาวมามัด แล้วย้อมสีตามต้องการ ผ้าทอของชาวไทยเบิ้งไม่ค่อยได้รับความนิยม ราคาค่อนข้างแพง และปัจจุบันหญิงสาว นิยมเรียนหนังสือและทำงานโรงงาน จึงไม่มีใครสืบทอดการทอผ้าแบบเดิม