การยึดครองกลุ่มรัฐบอลติก (
อังกฤษ: occupation of the Baltic states) เป็นการยึดครองด้วยทหารต่อสาม
รัฐบอลติกอันได้แก่
ลิทัวเนีย ลัตเวีย และ
เอสโตเนีย โดย
สหภาพโซเวียตตาม
กติกาสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบินทร็อพในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1940
[1][2] และจัดตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตโดยผิดกฎหมายแต่วันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1941 นาซีเยอรมนี
รุกรานสหภาพโซเวียตและไม่กี่สัปดาห์ก็ยึดครองดินแดนบอลติกและจัดตั้ง
ภาคอ็อสท์ลันท์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
ไรช์เยอรมัน แต่ว่า
การรุกบอลติกในปี 1944 กองทัพเยอรมันในคูร์แลนด์ (Courland) ยอมจำนนอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมปี 1945
[3] ทำให้สหภาพโซเวียตกลับมาอีกครั้งและทำการผนวกดินแดนเข้าไว้ในความปกครอง จนกระทั่งสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 สามประเทศจึงกลับมาเป็นเอกราชอีกครั้งสหรัฐอเมริกา
[4][5] และศาลภาคทัณฑ์แห่งนครนิวยอร์ก
[6], รัฐสภายุโรป
[7][8][9],ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป
[10] และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
[11] ทั้งหมดระบุว่ากลุ่มรัฐบอลติกยังคงเอกราชอยู่ การถูกรุกรานตั้งแต่กติกาสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบินทร็อพต่อด้วยการนาซีเยอรมนี
รุกรานสหภาพโซเวียต ในปี 1941 และการกลับมายึดครองอีกครั้งของโซเวียตในปี 1944 ถึง 1991
[12][13][14][15][16][17][18][19] นั้นอยู่ภายใต้การยึดครองที่ผิดกฎหมายตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 1940 ถึง 1991
[20][21][22] อย่างไรก็ตาม สหภาพโซเวียตไม่เคยยอมรับอย่างเป็นทางการว่าตนเองประจำอยู่ในกลุ่มรัฐบอลติกในฐานะผู้ยึดครอง หรือว่าได้ทำการผนวกรัฐเหล่านี้
[23] และถือว่ากลุ่มรัฐบอลติกสมัครใจเข้าร่วมสหภาพโซเวียตรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่าการผนวกกลุ่มรัฐบอลติกเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ
[24][25]และได้รับการรับรองตามกฎหมายโดยข้อตกลงที่ทำใน
การประชุมยัลตาและพ็อทซ์ดัมและโดยสนธิสัญญาเฮลซิงกิ
[26][27] ซึ่งมีแถลงการณ์ที่จะไม่ละเมิดเขตแดนที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามรัสเซียตกลงตามข้อเรียกร้องของยุโรปที่จะ "ให้ความช่วยเหลือคนที่ถูกเนรเทศออกจากกลุ่มรัฐบอลติกที่ถูกยึดครอง" เมื่อเข้าร่วมสภายุโรปใน ค.ศ. 1996
[28][29][30] นอกจากนี้เมื่อ
สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซียลงนามในสนธิสัญญาแยกต่างหากกับลิทัวเนียในปี 1991 ก็ยอมรับว่าการผนวกลิทัวเนียในปี 1940 เป็นการละเมิดอธิปไตยของลิทัวเนีย
[31][32]รัสเซียต้องถอนกำลังออกจากกลุ่มรัฐบอลติกโดยเริ่มจากลิทัวเนียในปี 1993 โดยได้รับคำสั่งจากมอสโก ในปี 1994 ทหารออกจากกลุ่มรัฐบอลติกทั้งสาม และในปี ค.ศ. 1998 ได้มีการรื้อถอนสถานีเรดาร์ Skrunda-1 ในลัตเวีย ทหารรัสเซียคนสุดท้ายออกจากกลุ่มรัฐบอลติกในเดือนตุลาคม 1999
[33][34]