การยึดครองญี่ปุ่น
การยึดครองญี่ปุ่น

การยึดครองญี่ปุ่น

จีน
ไต้หวัน
รัสเซีย
เกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้
หมู่เกาะมาร์แชลล์
ไมโครนีเซีย
ปาเลา
สหรัฐ
  หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา
การฟื้นฟูพระราชอำนาจ
สงครามโบชิน
กบฏซัตสึมะ
สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง
การแทรกแซงสามฝ่าย
กบฎนักมวย
พันธมิตรอังกฤษ-ญี่ปุ่น
สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
การผนวกดินแดนเกาหลีสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
การแทรกแซงไซบีเรีย
กฎหมายการเลือกตั้งทั่วไป
สนธิสัญญาห้ามหาอำนาจ
วิกฤตการณ์การเงินโชวะ
กระบวนการสันติภาพแมนจูกัว
กติกาสัญญาต่อต้านคอมมิวนิสต์สากล
สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง
กติกาสัญญาไตรภาคี
กติกาสัญญาความเป็นกลางโซเวียต–ญี่ปุ่น
สงครามแปซิฟิก
การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ
สงครามโซเวียต-ญี่ปุ่น
การยอมจำนนของญี่ปุ่น
การยึดครองญี่ปุ่นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรการยึดครองญี่ปุ่นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ อันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ และเครือจักรภพอังกฤษเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นการยึดครองแผ่นดินญี่ปุ่นโดยชาวต่างชาติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นกว่า 2,000 ปี การยึดครองดังกล่าวเปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่นจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยซึ่งทำให้หวนคิดถึงการเมือง "นิวดีล" (New Deal) ของอเมริกาในคริสต์ทศวรรษ 1930 การยึดครองดังกล่าวมีชื่อรหัสว่า ปฏิบัติการบัญชีดำ (Operation Blacklist) สิ้นสุดลงด้วยสนธิสัญญาซานฟรานซิสโก ที่ลงนามเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1951 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1952 อันเป็นการฟื้นฟูเอกราชของญี่ปุ่น โดยยกเว้นหมู่เกาะรีวกีวก่อน ค.ศ. 1972

ใกล้เคียง

การยึดกรุงไซ่ง่อน การยึดครองญี่ปุ่น การยึดครองเซอร์เบียของออสเตรีย-ฮังการี การยึดกรุงคาบูล (พ.ศ. 2564) การยึดครองกลุ่มรัฐบอลติก การยึดครองพม่าของญี่ปุ่น การยึดครองโรมาเนียของโซเวียต การยึดครองกัมพูชาของญี่ปุ่น การยึดครองเมืองซารันจ์ การยึดครองบริติชโซมาลิแลนด์ของอิตาลี