แหล่งกำเนิด ของ ข้อมูลผิดเกี่ยวกับโควิด-19

จากแล็บจีน

ในการระบาดทั่วระยะต้น ๆ เกิดทฤษฎีสมคบคิดหนึ่งว่า สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นในจีนได้สร้างไวรัสขึ้นผ่านพันธุวิศวกรรมแหล่งกำเนิดต้น ๆ แหล่งหนึ่งของทฤษฎีนี้เป็นอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยจารกรรมของอิสราเอล (Dany Shoham) ผู้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อนุรักษนิยมอเมริกันเดอะวอชิงตันไทมส์เกี่ยวกับแหล็บนี้[24][25]ภายหลังนักการเมืองอเมริกันจึงเริ่มกระจายข้อมูลผิดนี้ รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภา Tom Cotton, ประธานาธิบดีทรัมป์ และเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐไมก์ พอมเพโอ[25]อนึ่ง ยังมีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งในแหล็บนี้คือ Li-Meng Yan ผู้ได้หนีจากประเทศจีนแล้วสนับสนุนแนวคิดนี้แต่เจ้าหน้าที่จำนวนมากก็ได้ออกมาหักล้างทฤษฎีสมคบคิดนี้ รวมทั้งนักชีววิทยาชาวอเมริกัน Richard H. Ebright, ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ Anthony Fauci, นักวิทยาศาสตร์คนดังต่าง ๆ และชุมชนหน่วยจารกรรมสหรัฐ[25]แม้ทฤษฎีนี้จะกระจายไปทั่วในสื่อสังคม แต่การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ต่อมาก็ได้แสดงว่า ไวรัสมีแหล่งกำเนิดจากค้างคาว[26]

เป็นจารกรรมจีนที่ทำในแหล็บแคนาดา

มีบางคนอ้างว่า นักวิทยาศาสตร์จีนได้ขโมยไวรัสโคโรนามาจากแหล็บวิจัยไวรัสในแคนาดากระทรวงสาธารณสุขแคนาดา (Health Canada) และสำนักงานสาธารณสุขแคนาดากล่าวว่า นี่ไม่มีมูลฐานความจริง[27]เรื่องนี้ดูจะกลายมาจาก[28]ข่าวในเดือนกรกฎาคม 2019[29]ซึ่งระบุว่า นักวิจัยจีนถูกระงับไม่ให้เข้าไปยังแหล็บจุลชีววิทยาแห่งชาติแคนาดาในเมืองวินนิเพ็ก ซึ่งเป็นแหล็บไวรัสวิทยาระดับ 4 หลังจากถูกตำรวจแห่งชาติ (Royal Canadian Mounted Police) สอบสวนแต่เจ้าหน้าที่แคนาดาก็ระบุว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหาร และไม่มีความเสี่ยงต่อประชาชน[29]

เพราะสำนักข่าวแห่งชาติแคนาดาซีบีซี (Canadian Broadcasting Corporation) รายงานข่าวตามที่ว่า ปลายเดือนมกราคม 2020 สำนักข่าวจึงระบุว่า รายงานของสำนักข่าวไม่เคยอ้างว่า นักวิทยาศาสตร์สองคนที่ว่าเป็นจารบุคคล หรือว่าพวกเขานำไวรัสโคโรนาใด ๆ ไปยังแหล็บที่อู่ฮั่น[28]แม้จะมีตัวอย่างจุลชีพก่อโรคที่ส่งจากแหล็บในวินนิเพ็กไปยังนครปักกิ่งในวันที่ 31 มีนาคม 2019 แต่ก็ไม่ใช่ตัวอย่างไวรัสโคโรนา สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติแคนาดากล่าวว่า การส่งตัวอย่างเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลกลางทุกอย่าง และก็ไม่เคยมีการระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ถูกสอบสวนได้ส่งตัวอย่างที่ว่าแต่นักวิทยาศาสตร์ที่ถูกสอบสวนก็ไม่ได้เปิดเผยว่าอยู่ที่ไหน[27][30][31]

ในปลายเดือนมกราคม ผู้ช่วยนักวิจัยอาวุโสผู้เชี่ยวชาญในสงครามชีวภาพใน Think tank ของอิสราเอล (Begin-Sadat Center for Strategic Studies) เมื่อกล่าวถึงการแถลงการณ์ของเนโท ก็ได้ระบุความสงสัยทางจารกรรมว่าเป็นเหตุผลให้ไล่นักวิทยาศาสตร์ที่ว่าออกจากแหล็บ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่า ไวรัสโคโรนาถูกขโมยจากแหล็บแคนาดาหรือเป็นผลของการวิจัยอาวุธชีวภาพเพื่อการทหารในประเทศจีน[32]

เป็นอาวุธชีวภาพของสหรัฐ

ตามหนังสือพิมพ์ The Economist ในลอนดอน มีทฤษฎีสมคบคิดมากมายในเน็ตของจีนว่า ซีไอเอสร้างโควิด-19 ขึ้นเพื่อตัดทอนจีน[33]ตามการสืบสวนของสำนักข่าวออนไลน์ ProPublica ทฤษฎีสมคมคิดและข้อมูลผิด ๆ เช่นนี้กระจายไปตามคำสั่งของสำนักข่าวของรัฐบาลจีน คือ China News Service[34]โดยหนังสือพิมพ์รัฐบาลจีนคือ Global Times และสำนักข่าวรัฐบาลจีน Xinhua News Agency ก็กระจายข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวแหล่งกำเนิดโรคโควิด-19 เช่นกัน[35]แต่สำนักข่าวอเมริกัน NBC News ก็ให้ข้อสังเกตว่า มีความพยายามหักล้างทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับสหรัฐที่ได้โพสต์ออนไลน์ เช่น เมื่อเสิรช์คำว่า "Coronavirus is from the U.S." โดยมากก็จะได้บทความที่อธิบายว่าทำไมข้ออ้างเช่นนี้ไม่สมเหตุผล[36][upper-alpha 1]รวมทั้งหนังสือพิมพ์ Global Times[48]ก็นำไปขยายกระจายเพิ่มขึ้น

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวหาว่า รัสเซียได้รณรงค์สร้างข้อมูลผิด ๆ โดยใช้บัญชีสื่อสังคมเป็นพัน ๆ ของทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมเพื่อสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีมูลซึ่งอ้างว่า ไวรัสเป็นอาวุธชีวภาพของซีไอเอและสหรัฐกำลังทำสงครามทางเศรษฐกิจกับจีนด้วยไวรัส[49][50][51][upper-alpha 2]

รองรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน (Reza Malekzadeh) ปฏิเสธทฤษฎีการก่อการร้ายทางชีวภาพ

ตามสถาบันวิจัยสื่อตะวันออกกลาง (Middle East Media Research Institute) ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรในกรุงวอชิงตันดีซี มีนักข่าวภาษาอาหรับจำนวนมากที่ได้สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดว่าไวรัสโควิด-19 ซาร์ส และไข้หวัดใหญ่ในสุกร ได้สร้างขึ้นแล้วกระจายอย่างตั้งใจเพื่อขายวัคซีนต่อต้านไวรัสนั้น ๆ โดยเป็น "ส่วนของสงครามทางเศรษฐกิจและทางจิตวิทยาที่สหรัฐทำต่อจีนโดยมุ่งทำให้จีนอ่อนแอและแสดงว่าเป็นประเทศล้าหลังและเป็นแหล่งเกิดโรค"[57]

ทฤษฎีเดียวกันก็รายงานในอิหร่านโดยเป็นส่วนของการโฆษณาชวนเชื่อของประเทศว่าไวรัสมีจุปประสงค์เพื่อ "ทำลายวัฒนธรรมและเกียรติยศของประเทศ"[58]แต่รองรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอิหร่านก็ปฏิเสธข้ออ้างว่าไวรัสเป็นอาวุธชีวภาพ โดยชี้ในเดือนมีนาคม 2020 ว่า สหรัฐจะเสียหายอย่างมากจากโรคเขากล่าวว่า อิหร่านเป็นหนักก็เพราะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน และการไม่ระงับสายการบินเป็นการแพร่เชื้อไวรัส และเพราะผู้ติดโรคต้น ๆ วินิจฉัยผิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่[59]

ทฤษฎีนี้ก็กระจายไปในประเทศฟิลิปปินส์และเวเนซุเอลาด้วย

เกิดจากคนยิว

ในโลกมุสลิม

เครือข่ายข่าวของรัฐบาลอิหร่านคือ Press TV อ้างว่า พวกคนยิวได้พัฒนาสายพันธุ์ไวรัสโคโรนาที่ร้ายแรงกว่าเพื่อใช้กับอิหร่าน[60]เช่นเดียวกัน สื่ออาหรับอื่น ๆ ก็ได้กล่าวหาอิสราเอลและสหรัฐว่า พัฒนาแล้วกระจายโควิด-19 ไข้หวัดนก และซาร์ส[61]ส่วนผู้ใช้เครือข่ายสังคมให้ทฤษฎีอื่น ๆ รวมทั้งอ้างว่า คนยิวได้สร้างโควิด-19 เพื่อล้มตลาดหลักทรัพย์โลกเพื่อทำกำไรโดยใช้ข้อมูลล่วงหน้า[62]มีแม้กระทั่งแขกในรายการทีวีตุรกีซึ่งระบุทฤษฎีที่ยิ่งกว่านั้น คือคนยิวได้สร้างโควิด-19 ไข้หวัดนก ไข้เลือดออกไครเมีย-คองโก เพื่อ "เปลี่ยนโลก ยึดประเทศ และตอนประชากรโลก"[63]

การพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในอิสราเอลก่อปฏิกิริยาเชิงลบในอิหร่านอายะตุลลอฮ์ Naser Makarem Shirazi แห่งอิหร่านปฏิเสธข่าวว่า เขาได้ตัดสินว่าวัคซีนที่คนยิวทำจะจัดเป็นฮาลาล[64]โดยมีนักข่าวของ Press TV ได้ส่งข้อความทวิตเตอร์ว่า "ผมยอมเสี่ยงกับไวรัสดีกว่าใช้วัคซีนอิสราเอล"[65]ส่วนนักข่าวตุรกีคนหนึ่งอ้างว่า วัคซีนเช่นนั้นสามารถใช้เป็นอุบายทำหมันคนเป็นจำนวนมาก[66]

ในสหรัฐ

การประกาศเตือนของเอฟบีไอเกี่ยวกับการคุกคามของพวกขวาจัดที่ตั้งใจกระจายไวรัสโคโรนาไปยังคนกลุ่มจำเพาะ ๆ ได้กล่าวถึงการโทษคนยิวและผู้นำคนยิวว่า เป็นเหตุให้เกิดการระบาดทั่วและให้ต้องปิดรัฐต่าง ๆ[67]

องค์การนอกภาครัฐ Anti-Defamation League (ADL) ตีพิมพ์ข่าวและบล็อกเกี่ยวกับการต่อต้านคนยิวออนไลน์[68]รวมทั้งทฤษฎีสมบคบคิดและข้อมูลผิด ๆ เรื่องแหล่งกำเนิดของโควิด-19 การกระจายโรค การสร้างและการได้กำไรจากวัคซีน ในบรรดาเรื่องต่าง ๆ แล้วเชื่อมมันกับเรื่องเท็จต่อต้านยิวต่าง ๆ ที่ทำกันมาเป็นศตวรรษ ๆ แล้ว โดยเฉพาะในช่วงกาฬโรคระบาด[69][70][71]ADL ยังโพสต์บล็อกซึ่งโทษแพลตฟอร์มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก เพราะช่วยให้ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้กระจายไปเหมือนกับไวรัสโดยไม่ยอมตั้งนโยบายที่บังคับให้ลบข้อมูลเช่นนี้ออก ไม่บังคับใช้นโยบายการกลั่นกรองเนื้อความที่ก่อความเกลียดชังตามที่มีอยู่แล้ว และการล้มเหลวไม่สามารถจำกัดการขยายและกระจายเนื้อความเช่นนี้[72]

โทษคนมุสลิม

ในประเทศอินเดีย มีการโทษคนมุสลิมว่าเป็นผู้กระจายโรคหลังจากเกิดกรณีโรคในการประชุมทางศาสนาของกลุ่ม Tablighi Jamaat[73]มีรายงานถึงการด่าคนมุสลิมในสื่อสังคมและการทำร้ายคนมุสลิมในอินเดีย[74]มีข้ออ้างว่าคนมุสลิมกำลังขายอาหารที่ปนเปื้อนไวรัสโครโรนา และมัสยิดในเมืองปัฏนากำลังให้ที่หลบซ่อนแก่คนจากอิตาลีและอิหร่าน[75]ซึ่งล้วนแสดงแล้วว่าเป็นเท็จ[76]

ในสหราชอาณาจักร มีรายงานเกี่ยวกับกลุ่มขวาจัดที่โทษคนมุสลิมในการระบาดของไวรัสโคโรนา แล้วอ้างผิด ๆ ว่า มัสยิดก็ฝืนเปิดอยู่แม้หลังรัฐบาลได้ประกาศงดการชุมนุมคนแบบมีจำนวนมากทั่วประเทศ[77]ในสหรัฐ องค์การนอกภาครัฐ Anti-Defamation League (ADL) รายงานว่า มีความเดียดฉันท์เกลียดอิสลามต่อต้านคนมุสลิมที่เนื่องกับไวรัสโคโรนา[78]

เป็นแผนจำกัดจำนวนประชากร

ตามสำนักข่าวบีบีซี มีสมาชิกยูทูบ (Jordan Sather) ที่ได้สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดต่อต้านประธานาธิบดีสหรัฐดอนัลด์ ทรัมป์ (QAnon conspiracy theory) และสนับสนุนขบวนต่อต้านวัคซีน ได้อ้างอย่างผิด ๆ ว่า โรคระบาดเป็นแผนคุมจำนวนประชากรโดยสถาบันวิจัยทางชีวภาพแห่งสหราชอาณาจักรคือ Pirbright Institute ร่วมกับบิล เกตส์[8][79][80]

นักพยากรณ์อากาศชาวอังกฤษคนดังคนหนึ่ง (Piers Corbyn) ได้ระบุไวรัสโคโรนาว่าเป็น "ปฏิบัติการทางจิตวิทยาเพื่อล้มเศรษฐกิจเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทยักษ์ใหญ่" และระบุว่า "วัคซีนทำให้ตาย"เป็นบุคคลที่แพทย์ออกทีวีคนดังอีกคนหนึ่ง (Hilary Jones) ได้เรียกเมื่อให้สัมภาษณ์ร่วมกับนักพยากรณ์อากาศในรายการทีวียามเช้าว่า เป็นบุคคลอันตราย[81]

เครือข่ายมือถือ 5 จี

เสาอากาศ 5 จีบางครั้งถูกเผาเพราะโทษกันอย่างผิด ๆ ว่าเป็นเหตุของโควิด-19ช่างของบริษัทรักษาสายโทรศัพท์ในสหราชอาณาจักรร้องขอความเห็นใจจากกลุ่มต่อต้าน 5 จีในเฟซบุ๊กว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายมือถือ และการถูกแกล้งทำให้ตนทำงานคือดำรงรักษาสายโทรศัพท์และบรอดแบนด์ไม่ได้

ในเดือนกุมภาพันธ์ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นักทฤษฎีสมคบคิดในสื่อสังคมได้อ้างว่า ไวรัสโคโรนาสัมพันธ์กับเครือข่ายมือถือ 5 จี คืออ้างว่า การระบาดโรคในอู่ฮั่นและที่เรือสำราญ Diamond Princess เกิดจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของเทคโนโลยีไร้สายและของเครือข่ายมือถือ 5 จีและอ้างว่า การระบาดทั่วเป็นเรื่องอำพรางความเจ็บป่วยที่มีเหตุจากระบบ 5 จี[82]

ในเดือนมีนาคม 2020 หมอทางเลือกอเมริกันผู้หนึ่ง (Thomas Cowan) ที่เคยฝึกเป็นแพทย์ปัจจุบันและปัจจุบันต้องทำงานแบบถูกคุมความประพฤติโดยคณะกรรมการการแพทย์ของแคลิฟอร์เนียอ้างว่า โควิด-19 เกิดจากระบบ 5 จีโดยอ้างหลักฐานว่า ประเทศในแอฟริกาไม่มีการระบาดทั่วอย่างสำคัญและแอฟริกาก็ไม่มีระบบ 5 จี[83][84]เขายังอ้างผิด ๆ ด้วยว่า ไวรัสเป็นของเสียจากเซลล์ที่กลายเป็นพิษเพราะสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และการระบาดทั่วของโรคไวรัสต่าง ๆ ตามประวัติศาสตร์เกิดพร้อม ๆ กับความก้าวหน้าสำคัญทางเทคโนโลยีวิทยุ[84]ต่อมาวิดีโอของหมอคนนี้ได้กระจายไปทั่วโดยได้รับการส่งต่อจากคนดัง ๆ รวมทั้งนักแสดงวูดดี แฮร์เรลสัน, นักแสดงจอห์น คูแซก และนักร้องเคอรี ฮิลสัน[85]

ทฤษฎีนี้ยังอาจถูกเผยแพร่โดยการรณรงค์สร้างข้อมูลเท็จแบบประสาน คล้ายกับที่องค์กรโน้มน้าวความคิดเห็นของรัสเซียคือ Internet Research Agency ได้ทำ[86]ต่อมาสำนักข่าวและองค์กรอื่น ๆ จึงได้หักล้างและติเตียนทฤษฎีนี้รวมทั้งรอยเตอร์ส[87]ยูเอสเอทูเดย์[88],องค์กรเช็คและแก้ความจริงของประเทศอังกฤษคือ Full Fact[89]และผู้อำนวยการของสมาคมสาธารณสุขอเมริกัน (American Public Health Association)[83][90]

ยังมีนักทฤษฎีสมคบคิดอีกคน (Mark Steele) ที่อ้างว่ามีความรู้โดยตรงว่า ระบบ 5 จีสามารถสร้างอาการเหมือนกับที่ไวรัสก่อ[91]อดีตพยาบาลอีกผู้หนึ่งที่ถูกเลิกใบอนุญาตโดยคณะกรรมการแพทย์ทั่วไปอังกฤษ ก็ได้มาเป็นผู้สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดนี้อีกคนหนึ่ง คืออ้างมาเรื่อย ๆ ว่า อาการเช่นนี้เหมือนกับที่เกิดเมื่อถูกกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า[92]

ศาสตราจารย์ผู้อำนวยการของสถาบันให้บริการทางสาธารณสุของอังกฤษคือ NHS England จัดทฤษฎีที่สัมพันธ์เครือข่ายมือถือ 5 จีกับโควิด-19 ว่าเป็น "ข่าวปลอมชนิดแย่สุด"[93]เพราะไวรัสไม่สามารถแพร่ไปตามคลื่นวิทยุ และโควิด-19 ก็ได้กระจายและยังคงกระจายไปในประเทศที่ไม่มีเครือข่าย 5 จี[94]

มีไฟไหม้เสาร์โทรศัพท์ที่สงสัยถึง 20 กรณีในอังกฤษในช่วงสุดสัปดาห์เทศกาลอีสเตอร์ปี 2020[93]รวมทั้งในเมืองดาเก็นแฮมที่จับผู้ต้องสงสัยวางเพลิงได้ 3 คน ในเมืองฮัดเดอส์ฟีลด์ที่ไฟไหม้เสาโทรศัพท์ซึ่งหน่วยฉุกเฉินใช้ และในนครเบอร์มิงแฮมที่ไฟไหม้เสาโทรศัพท์ซึ่งให้บริการแก่โรงพยาบาลไนติงเกลของ NHS[93]ช่างโทรคมนาคมบางส่วนรายงานว่าถูกคุกคามด้วยความรุนแรงรวมทั้งจะแทงให้ถึงตาย โดยบุคคลที่เชื่อว่าตนทำงานกับเครื่อข่าย 5 จี[95]ในวันที่ 12 เมษายน 2020 มีการโทรเรียกตำรวจแห่งชาติและหน่วยดับเพลิงไปยังเสา 5 จีที่ถูกไฟไหม้ในประเทศไอร์แลนด์[96]ซึ่งตำรวจจัดว่าเป็นคดีวางเพลิง[96]จนกระทั่งรัฐมนตรีอังกฤษออกมากล่าวว่า ทฤษฎีว่าไวรัสโควิด-19 กำลังกระจายไปทางการสื่อสารไร้สายแบบ 5 จี เป็นเรื่อง "เหลวไลทั้งเพ และเหลวไหลอย่างเป็นอันตรายด้วย"[97]

จนถึงวันที่ 30 มีนาคม มีการวางเพลิง 29 ครั้งที่เสาโทรศัพท์มือถือในประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งกรณีที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "Fuck 5G" ด้วย[98][99]มีเหตุการณ์ในประเทศไอร์แลนด์และไซปรัสด้วย[100]เฟซบุ๊กได้ลบบทความที่สนับสนุนให้ทำลายอุปกรณ์ 5 จี[101]ช่างที่ทำงานกับบริษัทลูกของบริติชเทเลคอมโพสต์ขอความขอร้องในกลุ่มเฟซบุ๊กต่อต้าน 5 จีว่าอย่าทำการใด ๆ ต่อช่างเพราะไม่ได้เกี่ยวกับเครือข่ายมือถือ[102]กลุ่มสนับสนุนทางอุตสาหกรรม (Mobile UK) กล่าวว่า การกระทำเยี่ยงนี้มีผลต่อการดำรงรักษาเครือข่ายที่รับรองให้ทำงานจากบ้านและให้บริการติดต่อแก่บผู้บริโภคที่อ่อนแอ แก่บริการฉุกเฉิน และแก่ รพ.[102]

มีวิดีโอที่ส่งต่ออย่างกว้างขวางซึ่งแสดงหญิงที่กล่าวหาพนักงานของบริษัทบรอดแบนด์ (Community Fibre) ว่าติดตั้งระบบ 5 จีโดยเป็นส่วนของแผนการฆ่าประชาชน[102]ในบรรดาบุคคลที่เชื่อว่าเครือข่าย 5 จีเป็นเหตุต่ออาการโควิด-19 ร้อยละ 60 ระบุว่า ความรู้เกี่ยวกับไวรัสโดยมากมาจากยูทูบ[103]ในเดือนเมษายน 2020 ยูทูบประกาศว่าจะลดสื่อที่สัมพันธ์ระบบ 5 จีกับไวรัสโคโรนา[104]แต่วิดีโอทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับระบบ 5 จีโดยไม่กล่าวถึงไวรัสโคโรนาก็จะไม่ลบออก แม้ยังอาจจัดว่าเฉียดเส้นและดังนั้น ก็จะลบออกจากผลเสิร์ชแล้วทำให้เสียรายได้[104]นักทฤษฎีสมคบคิดผู้หนึ่ง (David Icke) ได้กระจายข้ออ้างที่ถูกดิสเครดิตแล้วไปตามวิดีโอ (ต่อมาถูกลบออก) ในยูทูบ, ใน Vimeo และในการสัมภาษณ์ทางช่องทีวีของรัฐ London Live ต่อมาจึงมีการเรียกร้ององค์กรผู้ควบคุมการดำเนินการ (คือ Ofcom) ให้เข้าไปจัดการ[105][106]ยูทูบใช้เวลาโดยเฉลี่ย 41 วันเพื่อลบวิดีโอเท็จเกี่ยวกับโควิดในช่วงครึ่งปีแรกของ 2020[107]

ใกล้เคียง

ข้อมูลผิดเกี่ยวกับโควิด-19 ข้อมูล ข้อมูลมหัต ข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลได้ ข้อมูลอภิพันธุ์ ข้อมูล (คอมพิวเตอร์) ข้อมูลด้านสุขภาพในวิกิพีเดีย ข้อมูลผู้เข้าร่วมรายบุคคล ข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดอุตสาหกรรมเพลงทั่วโลก ข้อมูลแบบเปิด

แหล่งที่มา

WikiPedia: ข้อมูลผิดเกี่ยวกับโควิด-19 http://news.sina.com.cn/o/2020-02-17/doc-iimxxstf2... http://news.cctv.com/2020/01/25/ARTIce5OB5W3sORPe9... http://dongascience.donga.com/news.php?idx=35457 http://start.loandepot.com/assets/int-email/disast... http://www.szhgh.com/Article/opinion/zatan/2020-01... http://www.taipeitimes.com/News/taiwan/archives/20... http://www.xilu.com/20200126/1000010001119697.html http://www.xinhuanet.com/politics/2020-03/16/c_112... http://www.rfi.fr/en/africa/20200414-press-freedom... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16335659