ภาพนิ่งและจิตรกรรมภาพสัตว์ ของ จิตรกรรมบารอกแบบเฟลมิช

"ภาพนิ่งของดอกไม้" โดยยาน บรูเกล (ผู้พ่อ) ค.ศ. 1606/7

ภาพนิ่งของดอกไม้

ยาน บรูเกล (ผู้ลูก)เป็นจิตรกรคนสำคัญที่มีบทบาทในการเขียนภาพนิ่งของดอกไม้ที่เริ่มเขียนกันราว ค.ศ. 1600[2] ภาพเขียนเหล่านี้เป็นภาพที่เน้นรายละเอียดของสิ่งที่วาดและการจัดภาพ แต่ก็ยังเป็นภาพที่เขียนจากจินตนาการของจิตรกรที่ผสมผสานดอกไม้ที่บานต่างฤดูกาลเข้าในภาพเดียวกัน[2] ภาพนิ่งของดอกไม้เป็นภาพเขียนที่นิยมกันในหมู่ผู้อุปถัมภ์ชั้นเจ้านายทั่วยุโรป และมักจะเป็นภาพที่แฝงความหมายของสัญลักษณ์วานิตาส (Vanitas) การจัดรูปของบรูเกลมีอิทธิพลต่อจิตรกรเนเธอร์แลนด์ที่เขียนภาพดอกไม้ต่อมา[10] ลูกของบรูเกล ยาน บรูเกล (ผู้ลูก) และอัมโบเชียส บรูเกล ก็เป็นจิตรกรภาพดอกไม้เช่นกัน นอกจากนั้นก็ยังมีโอเซียส บีรต (Osias Beert) ที่เขียนราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 งานเขียนของบีรตมีลักษณะการเขียนบางอย่างของจิตรกรทางเหนือเช่นอัมโบรเชียส บอสเชิร์ต (ผู้พ่อ)[10]

ภาพนิ่งของมาลัย

จิตรกรรมที่มีลักษณะคล้ายจิตรกรรมภาพดอกไม้คือการวาดมาลัยดอกไม้ที่คิดขึ้นโดยยาน บรูเกลร่วมกับคาร์ดินัลเฟเดริโค โบร์โรเมโอ (Federico Borromeo) ในมิลาน[11] งานเขียนรุ่นแรกที่เป็นงานเขียนร่วมระหว่างบรูเกลและรูเบนส์ในมิวนิก (พิพิธภัณฑ์เดิม, มิวนิก) เป็นภาพพระแม่มารีและพระบุตรล้อมรอบด้วยมาลัยดอกไม้ ซึ่งเป็นภาพที่ตรงต่อการตีความหมายของปรัชญาของการปฏิวัติซ้อนทางคริสต์ศาสนาว่าดดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนของพระแม่มารีและพระบุตร–ซึ่งเป็นภาพที่ถูกทำลายไปมากระหว่างการทำลายรูปเคารพในปี ค.ศ.1566[12] ลูกศิษย์ของบรูเกลนักบวชเยซูอิดดาเนียล เซเกอร์ส (Daniel Seghers) ก็เขียนภาพประเภทนี้หลายภาพสำหรับลูกค้านานาชาติ[13]

"ภาพนิ่งของหอยนางรม" โดย โอเซียส บีรต ราวค.ศ. 1610 เป็นภาพที่มักจะเขียนกันเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17

ภาพนิ่งของอาหารเช้าและงานเลี้ยง

"Little breakfast" เป็นภาพนิ่งชนิดหนึ่งที่มีความนิยมกันทั้งทางเหนือและทางใต้ของเนเธอร์แลนด์ที่เป็นภาพที่แสดงภาชนะและอาหารต่าง ๆ เช่นเนยแข็งและขนมปัง โอเซียส บีรต, คลารา ปีเตอร์ส (Clara Peeters), คอร์นิลิส มาฮู (Cornelis Mahu) และยาคอป ฟาน เอส (Jacob van Es) (ราว ค.ศ. 1596–1666) เป็นจิตรกรที่เขียนภาพชนิดนี้ งานที่หรูกว่าวิวัฒนาการในสาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์และถูกนำมาแอนต์เวิร์ปโดยยาน ดาวิดสซ เดอ ฮีม (Jan Davidsz de Heem) ที่เป็นภาพที่มีขนาดใหญ่ ซับซ้อนและรวมอาหารที่มีราคาและหายากกว่าภาพที่เคยเขียนกันมา นอกจากนั้นก็อาจจะมีผลไม้ที่ปอกแล้ว ภาพเขียนประเภทนี้ก็เช่นเดียวกับภาพดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับการแฝงความหมายของสัญลักษณ์วานิตาส (Vanitas)

"งานเลี้ยง" โดย ฟรันส์ สไนเดอร์ ราว ค.ศ. 1620

ภาพนิ่งของสัตว์

ฟรันส์ สไนเดอร์เขียนภาพนิ่งขนาดใหญ่ที่เน้นสัตว์ที่เป็นอาหารที่ตายแล้ว (game animals) การจัดรูปของสไนเดอร์และจิตรกรประเภทเดียวกันอาเดรียน ฟาน อูเทรคช (Adriaen van Utrecht) หันไปใช้การเขียนภาพในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ของเปียเตอร์ เอิร์ตเซน (Pieter Aertsen) และโยฮาคิม บึคเคเลร์ (Joachim Beuckelaer) แต่เพิ่มความใหญ่โตมโหฬารของการเขียนแบบบารอกเข้าไปในงานเขียน[14] จิตรกรรุ่นต่อมายาน ฟิต (Jan Fyt) และเปียเตอร์ โบล (Pieter Boel) ก็เพิ่มสัตว์ที่มีชีวิตเข้าไปในภาพกับสัตว์ที่เป็นอาหารที่ตายแล้ว ภาพชนิดหลังใกล้เคียงกับการเขียนฉากการล่าสัตว์ที่เป็นที่นิยมกันในจิตรกรรมเฟลมิชในคริสต์ศตวรรษที่ 17

ใกล้เคียง

จิตรกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี จิตรกรรมฝาผนัง จิตรกรรมยุคทองของเนเธอร์แลนด์ จิตรกรรมบารอกแบบเฟลมิช จิตรกรรม จิตรกรรมไทยประเพณี จิตรกรรมเนเธอร์แลนด์เริ่มแรก จิตรกรรมแผง จิตรกรรมภูมิทัศน์ จิตรกรรมไทย