สถานที่ในการแข่งขัน ของ ดิอะเมซิ่งเรซ_12

เดินทางโดยเครื่องบิน; เดินทางโดยรถไฟ; เดินทางโดยเรือ; เดินทางโดยรถประจำทาง; ไม่มี = เดินทางโดยรถยนต์หรือเดิน
ทางแยก อุปสรรค ทางด่วน ย้อนกลับ งานเพิ่มเติม จุดหยุดพัก
แผนที่แสดงเส้นทาง

เลก 1 (สหรัฐอเมริกา → ไอร์แลนด์)

อุปสรรคแรกในการแข่งขัน ดิ อะเมซิ่ง เรซ 12 สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องขี่จักรยานที่ขึงไว้กับลวดข้ามแหล่งน้ำเล็ก ๆ เหนือมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ประมาณ 200 ฟุต โดยที่สมาชิกอีกคนในทีมจะนั่งอยู่ข้างล่างจักรยาน เพื่อให้สมาชิกของทีมพาข้ามไป

ภารกิจเสริม
  • ทีมจะต้องปั่นจักรยานสำหรับหลายคนไปตามทางดินไปหาคำใบ้ต่อไป ก่อนที่จะมาถึงฟาร์ม โดยภารกิจนี้เชื่อกันว่าน่าจะเป็นหนึ่งในทางแยกในเลกนี้ อย่างไรก็ดี อาลีกับสเตลล่าให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าในเลกนี้ไม่มีงานทางแยกแต่อย่างใด
  • หลังจากเสร็จงานอุปสรรค ทีมได้รับคำแนะนำให้เลือก ลา หนึ่งตัวแล้วนำถ่านหินเลน 15 ก้อนใส่ลงไปในตะกร้าแต่ละใบของลา แล้วพาลาเดินกลับไปที่ทางเข้าฟาร์มเพื่อรับคำใบ้ต่อไป

เลก 2 (ไอร์แลนด์ → เนเธอร์แลนด์)

ในทางแยกแรกของการแข่งขัน แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง ยกขึ้น (Hoist It) หรือ ค้นหา (Hunt It) โดยทีมที่เลือก Hoist It จะต้องใช้เชือกท้องถิ่น และระบบรอกที่มีให้ เพื่อยกเฟอร์นิเจอร์ 5 ชิ้นที่เป็นตัวอย่างของที่พักอาศัยของอัมสเตอร์ดัม สำหรับทีมที่ค้นหา ทีมจะต้องเดินไปหลายบล็อกไปยังลานจอดรถและค้นหารถจักรยานที่มีสีเหลือง-แดง (สีของ Route Marker) ท่ามกลางจักรยานกว่าพันคันซึ่งจักรยาน เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางในทั่วไปในอัมสเตอร์ดัม หลังจากพบจักรยานแล้ว ทีมจะต้องขี่จักรยานไป 5 ไมล์ ไปหาผู้ดูแลเพื่อรับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องกระโดดค้ำถ่อข้ามคูน้ำที่เต็มไปด้วยโคลน และใช้เท้าสองข้างแตะลงบนหญ้าบนพื้นต่ำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นกีฬาท้องถิ่นที่รู้จักกันในชื่อ Ditch Vaulting (Fierljeppen) เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • หลังจากเสร็จสิ้นงานอุปสรรค ทีมจะต้องขี่ Bakfiets (จักรยานส่งของ) ไปยังจุดหยุดพักต่อไป

เลก 3 (เนเธอร์แลนด์ → บูร์กินาฟาโซ)

อุปสรรคในเลก 3 สมาชิหนึ่งคนในทีมจะต้องรีดนมจาก อูฐ แล้วดึ่มนมอูฐนั้น
  • อัมสเตอร์ดัม (ท่าอากาศยาน อัมสเตอร์ดัม ไซพอล) ไป อ๊อกกอดอกูล, บูร์กินาฟาโซ (ท่าอากาศยานอ๊อกกอดอกูล)
  • อ๊อกกอดอกูล (สถานีรถไฟ)
  • บลูกคีเลม (บิงโกล์)
  • บลูกคีเลม (โรงเรียนประจำหมู่บ้าน)
  • บลูกคีเลม (บิงโกล์บลูกคีเลม)

อุปสรรคในเลกนี้ ทีมจะต้องไปที่สถานที่ที่คนชาว Tuareg อาศัยอยู่ โดยสมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องรีดนมจาก อูฐ Dromedary มาใส่ในถ้วย Gourd bowl จนกว่าจะถึงขีดที่กำหนด เมื่อเสร็จแล้วสมาชิกคนนั้นจะต้องนำถ้วยไปให้คนท้องถิ่นดูเพื่อตรวจสอบจำนวน เมื่อผ่าน สมาชิกคนนั้นจะต้องดึ่มนมนั้นทั้งถ้วย ในกรณีที่สมาชิกคนนั้นไม่สามารถรีดนมอูฐได้มากพอจากอูธของสมาชิกคนนั้น สมาชิกคนนั้นจะต้องรอจนกว่าจะมีคนทำงานอุปสรรคเสร็จและรีดนมอูฐจากอูฐของเขาแทน ทางแยกในเลกนี้แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง สอน (Teach It) และ เรียน (Learn It) โดยทีมที่เลือก Teach It จะต้องสอนเด็กนักเรียนที่ไม่พูด ภาษาอังกฤษ ให้จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ได้ 10 คำ โดยเด็กเหล่านั้นจะถูกทดสอบโดยครูท้องถิ่นภายหลัง สำหรับทีมที่เลือก Learn It จะต้องเรียนคำศัพท์ภาษามอร์ จำนวน 10 คำ โดยพวกเขาจะถูกทดสอบโดยครูท้องถิ่นภายหลัง เมื่อเด็กหรือทีมสามารถตอบคำศัพท์ได้ทั้งหมด ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • เมื่อเสร็จสิ้นงานอุปสรรค ทีมจะต้องจูงอูธ 4 ตัวไปตามทางที่กำหนดไปยังสถานที่ต่อไป

เลก 4 (บูร์กินาฟาโซ)

  • บลูกคีเลม (หมู่บ้านในบิงโกล์)
  • บอร์ดา-เพนเลกทานกา, ยาโค, พาสโร่ซ์ (สนามในหมู่บ้าน)
  • ตลาดเพนลาทานกา
  • อ๊อกกอดอกูล (ตลาดแพะแทมพอย)
  • อ๊อกกอดอกูล (โรงแรมดาวิน)

ทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง เขย่ากระทะ (Shake Your Pans) และ โยกเท้า (Shake Your Booty) โดยทีมที่เลือก Shake Your Pans จะต้องใช้วิธีท้องถิ่นเพื่อเขย่าทองคำ 1 ออนซ์ ในกระทะไม่ไห้ตก เมื่อสำเร็จแล้วทีมจะต้องนำทองที่ชั่งแล้วไปแลกกับคำใบ้ที่เต๊นท์ข้าง ๆ กัน สำหรับทีมที่เลือก Shake Your Booty จะต้องเรียนวิธีการเต้นแบบท้องถื่ย และแสดงต่อหน้ากรรมการท้องถิ่น 3 คนและผู้ชม ทีมจะต้องคิดท่าทางของตนเองด้วยส่วนหนึ่งและเต้นด้วย หากท่าที่คิดไม่มีความคิดสร้างสรรค์พอ หรือเต้นได้ไม่ดี ทีมจะต้องถูกปรับเวลา 10 นาทีก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องขี่จักรยานเพื่อส่งของหนัก เช่น แพะ ขนาดเล็ก ให้กับบุคคลที่ระบุไว้ในคำใบ้ที่ตลาดใกล้เคียง

ภารกิจเสริม
  • เมื่อเริ่มต้นเลก ทีมจะต้องไปพบหัวหน้าหมู่บ้าน และรับของขวัญจากเขา (ไก่ 1 ตัว) โดยทีมจะต้องถือไก่ตัวนี้ไปตลอดทั้งเลกจนถึงเส้นชัย มิฉะนั้นทีมจะไม่สามารถเข้าจุดหยุดพักได้

เลก 5 (บูร์กินาฟาโซ → ลิทัวเนีย)

ปราสาทเกาะ Trakai เป็นสถานที่ตั้งกล่องคำใบ้ที่มี Fast Forward ที่ไม่ได้ออกอากาศในเลก 5

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องเลือกหญิงชาวลิทัวเนียที่ทำงานกลางแจ้ง ผู้ซึ่งจะให้พัสดุแก่สมาชิกคนนั้นและบอกสถานที่ที่ให้ไปส่งของ หลังจากนั้น ทีมจะต้องเดินผ่านถนนอันน่าสับสนในเมืองเก่า Vilnius โดยทีมจะต้องส่งของนี้ให้ถูกคน โดยผู้รับจะให้พัสดุชิ้นที่สอง และหนึ่งในสี่ชื่อสถานที่สุดท้าย ทางแยกในเลกนี้แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง นับถอยหลัง (Count Down) และ เพิ่มขึ้น (Step Up) โดยทีมที่เลือก Count Down จะต้องเดินทางผ่านงานฉลองช่วงกลางฤดูร้อน ท้องถิ่น (Joninės) ไปยังบริเวณที่มีรั้วเสาเข็มอยู่ เมื่อไปถึงที่นั้นทีมจะต้องนับจำนวนเสาเข็มที่ใช้ทำรั้วทั้งหมด แล้วไปบอกจำนวนนั้นแก่ชาวบ้าน หากจำนวนนั้นถูกต้อง ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Step Up ทีมจะต้องเดินด้วยไม้ต่อขาตามทางที่กำหนดไปยังเส้นชัย หากสมาชิกคนใดคนหนึ่งล้มระหว่างทาง พวกเขาจะต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นแล้วเดินมาใหม่ เมื่อพวกเขาไปถึงเส้นชัย พวกเขาจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป ภายหลัง แชนนากับเจนนิเฟอร์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า มีงานทางด่วน (Fast Forward) ที่ำไม่ได้ถูกใช้ในช่วงหนึ่งในเลกนี้ [16]

ภารกิจเสริม
  • ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ทีมจะต้องค้นหาโนมของแทรเวลโลซิตี้ (ตามรูปแบบในภาพที่ทีมจะได้รับในคำใบ้) อย่างไรก็ดี ในบริเวณนั้นมีโนมท้องถิ่นของลิทัวเนียตั้งกระจายอยู่ด้วยเพื่อทำให้ทีมสับสน เมื่อทีมหาโนมที่ถูกต้องพบแล้ว ทีมจะต้องแบกมันไปตลอดทางจนถึงจุดหยุดพักในเลกนี้

เลก 6 (ลิทัวเนีย → โครเอเชีย)

ในเลก 6 งานหลายงานเป็นงานที่ต้องกระทำในป้อมหรือรอบ ๆ บริเวณป้อม St. Lawrence ป้อมในประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องค้นหาหิน 1 ใน 8 ก้อนจากหินกว่า 150 ก้อน และนำมันไปวางบนกำแพงหินของป้อม St. Lawrance ที่ถูกสร้างใหม่หลังจากสิ้นสุดสงครามอิสรภาพแห่งโครเอเชีย ทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง สั้นและยาว (Short & Long) และ ยาวและสั้น (Long & Short) โดยทีมที่เลือกสั้นและยาว จะต้องไต่กำแพงป้อม Boker ลงมา แล้วปีนบันไดเชือก กลับขึ้นไป แล้วทีมจะต้องเดินเป็นระยะทางที่ยาวกว่าทางแยกอีกอันหนึ่ง ผ่านสี่แยกถนนเก่า เพื่อไปหยิบคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือกยาวและสั้น ทีมจะต้องต่อตัวโดยใช้เชือกลงมาจากป้อมแล้วว่ายน้ำไปยังแท่นที่ลอยอยู่ เมื่อไปถึง พวกเขาจะต้องพายเรือไปรอบ ๆ กำแพงเมืองไปยังจุดที่กำหนดให้ จากนั้น ทีมจะต้องเดินไปตามถนนเป็นระยะทางที่สั้นกว่าเพื่อไปหยิบคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • หลังจากทำงานอุปสรรคเสร็จ ทีมจะต้องไปที่หลังคาของป้อมแล้วไต่เชือกลงมาที่ป้อม Bokar เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

เลก 7 (โครเอเชีย → อิตาลี)

อุปสรรคและทางแยกในเลกที่ 7 มีส่วนเชื่อมโยงกับ เลโอนาร์โด ดา วินชี จิตรกรและนักประดิษฐ์ซึ่งเกิดที่เมืองวินชี หนึ่งในสถานที่ที่ทีมจะต้องไปในเลกนี้

สำหรับทางด่วนในเลกนี้ ทีมจะต้องไปที่ ฟาบิโอ สตูดิโอ เพื่อเข้าร่วมในประเพณีเดินเรือทะเล แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือประเพณีนั้นเกี่ยวกับรอยสัก เมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขาจึงได้ทราบว่าพวกเขาจำเป็นต้องรับการสักถาวรบนตัวเป็นตัวอักษร FF (Fast Forward) ก่อนที่จะไปยังจุดพักต่อไป งานอุปสรรคในเลกนี้สมาชิกหนึ่งคนของแต่ละทีมจะต้องเหาะบนท้องฟ้า เหนือแคว้นทัสเคนีโดยใช้ เครื่องบินร่อน บินเหนือชนบท รัศมี 6 ไมล์ เพื่อค้นหาชื่อสถานที่ต่อไปที่ทีมจะต้องไป (วินชี) ถ้าสมาชิกคนนั้นคิดว่าตนเห็นคำใบ้แล้ว สมาชิกคนนั้นต้องบอกนักบินให้นำเครื่องลง เมื่อถึงพื้น สมาชิกคนนั้นต้องบอกผู้สอนการบินว่า สถานที่ต่อไปที่ทีมต้องไปคือที่ใด ถ้าถูกต้อง นักบินจึงจะให้คำใบ้ต่อไป แม้ว่าจะไม่มีการกำหนดเวลาก็ตาม อย่างไรก็ดี ทีมจะต้องค้นหาคำใบ้ให้เสร็จภายใน 30 นาที หากไม่เสร็จ เครื่องบินจะต้องลงมาเติมน้ำมันก่อนที่จะค้นหาต่อไป ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง สิ่งประดิษฐ์ (Invention) และ ประเพณี (Tradition) โดยทีมที่เลือก Invention จะต้องเดินทางไปที่ลานใกล้เคียง แล้วเลือกสำเนาของแปลนเครนอายุประมาณ 100 ปีที่ออกแบบโดย เลโอนาร์โด ดา วินชี แล้วใช้อุปกรณ์ที่มีให้ประกอบเครนนั้นขึ้นมา แล้วใช้เครนนั้นยกหินก้อนใหญ่หนึ่งก้อน แล้วพวกเขาต้องนำกระจกไปวางข้างใต้เพื่ออ่านคำใบ้ที่เขียนอยู่ใต้หินนั้น สำหรับทีมที่เลือก Tradition ทีมจะต้องไปที่ Piazza Guido Masi แล้วปฏิบัติประเพณีเกี่ยวกับธงท้องถิ่นโบราณ เมื่อพวกเขาสามารถทำได้ถูกต้อง หัวหน้าผู้เชิญธงจะให้ธงที่บอกสถานที่ถัดไปแก่พวกเขา

เลก 8 (อิตาลี → อินเดีย)

บันดรา ฟอร์ด (Castella de Aguada) เป็นจุดหยุดพักที่ 8 ของ ดิ อะเมซิ่ง เรซ 12

ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ปิดป้าย (Paste 'Em) และ ร้อยเชือก (Thread 'Em) โดยทีมที่เลือก Paste 'Em ทีมจะต้องไปใต้สะพานที่กำหนด แล้วใช้อุปกรณ์ที่มีให้ปิดโปสเตอร์ภาพยนตร์บอลลีวูด ขนาด 6 แผ่นบนผนังให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จแล้วจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Thread 'Em ทีมจะต้องไปที่ตลาดดอกไม้ Dadar และหาแผงขายดอกไม้ที่กำหนดให้ พวกเขาจะต้องทำพวงมาลัยแต่งงานโดยร้อยดอกไม้ 108 ดอกตามลำดับที่กำหนด (แดง, ส้ม, เหลือง) เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าพวงมาลัยเรียบร้อย ทีมจะต้องนำพวงมาลัยไปให้เจ้าบ่าวที่อยู่บริเวณนั้น เพื่อแลกกับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องขนแก๊สโพรเพน 6 ถังใส่รถจักรยาน และถีบไปที่สถานที่ที่กำหนด 2 ที่ที่อยู่ในใบสั่งแก๊ส นำแก๊สไปส่งให้สถานที่ละ 3 ถัง และนำใบเสร็จรับเงินจากเจ้าของบ้านมาเพื่อเป็นการยืนยันว่าส่งแล้ว เมื่อส่งเสร็จแล้ว สมาชิกคนนั้นจะต้องนำใบเสร็จและใบสั่งแก๊สไปให้หัวหน้าคนงานเพื่อรับคำใบ้ต่อไป สำหรับงานเพิ่มเติมของเคนท์กับวิกซินในเลกนี้ พวกเขาจะต้องไปหานักโยคะและทำท่า โยคะ ทั้งหมดให้ได้ ก่อนที่พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้แข่งต่อและทำงานทางแยก

ภารกิจเสริม

เลก 9 (อินเดีย → ญี่ปุ่น)

ในงานอุปสรรค ผู้เข้าแข่งขันจะต้องขับรถแท็กซี่ญี่ปุ่น เพื่อที่จะรับคำใบ้ต่อไป

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องสวมหมวกและถุงมือ เป็นคนขับแท็กซี่ท้องถิ่น และขับพาคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นผ่านการจราจรที่วุ่นวายและเป็นถนนหนึ่งช่องทางในบางครั้งไปยังสถานที่ที่กำหนด (ที่ทำการไปรษณีย์กลางโอซาก้า (ญี่ปุ่น)) โดยพวกเขาไม่สามารถให้บุคคลท้องถิ่นนำทางพวกเขาไปได้ และคู่สามีภรรยานั้นก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ เมื่อสมาชิกคนนั้นขับมาส่งที่สถานที่ที่ำกำหนดแล้ว คู่สามีภรรยาจึงจะให้คำใบ้ต่อไป แต่สมาชิกคนนั้นจะต้องกลับมาหาเพื่อนร่วมทีมก่อนที่จะเปิดคำใบ้อ่านได้ ทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง สัมผัส (Sense of Touch) และ ดมกลิ่น (Sense of Smell) โดยทีมที่เลือก Sense Of Touch จะต้องเดินไปอาคารชิโมจิมา แล้วบังคับหุ่นยนต์จากโทรศัพท์มือถือให้เตะฟุตบอลผ่านหุ่นยนต์ป้องกันของฝ่ายตรงข้าม 2 ตัว เมื่อสมาชิกแต่ละคนในทีมสามารถทำประตูได้คนละ 1 ประตู (รวม 2 ประตู) กรรมการจึงจะให้คำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Sense of Smell ทีมจะต้องไปที่ร้านขายดอกไม้ Saera ที่มีดอกไม้ปลอมขาย เมื่อไปถึงพวกเขาจะต้องใช้จมูกของพวกเขา (เท่านั้น) ดมหาดอกไม้จริงที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางดอกไม้ปลอมกว่าพันดอกในร้าน 2 ชั้น เมื่อพวกเขาหาดอกไม้จริงพบ เจ้าของร้านจึงจะให้คำใบ้ต่อไป

เลก 10 (ญี่ปุ่น → ไต้หวัน)

อนุสรณ์สถานเจียง ไคเชก เป็นจุดหยุดพักที่ 10 ของ ดิ อะเมซิ่ง เรซ 12

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องเข้าไปนั่งในรถที่ขับโดยนักแสดงผาดโผนมืออาชีพ ที่จะขับรถขึ้นไปบนแท่นโยกขนาดใหญ่และโยกไปโยกมาบนแท่นโยกสูง 25 ฟุต ที่อันตราย เมื่อเสร็จแล้วสมาชิกคนนั้นจะต้องเปลี่ยนไปนนั่งบนรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก แล้วสวนแว่นกันลมกลั้นหายใจระหว่างที่รถวิ่งอยู่ใต้น้ำเป็นเวลา 17 วินาที ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป ทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ไฟ (Fire) และ ดิน (Earth) โดยทีมที่เลือก Fire จะต้องเดินทางไปที่สวน Zhongzheng เพื่อเข้าร่วมในพิธีกรรมของจีนโดยการเขียนข้อความเกี่ยวกับเรื่องโชคดี เรื่องดีและไม่ดีต่าง ๆ ในโคมลอย แล้วจุดโคมลอยด้วย "เงินแห่งวิญญาณ" ที่จะทำให้โคมร้อนและลอยขึ้นไปถึงวิญญาณ ที่อยู่บนสวรรค์ เมื่อทีมทำครบ 20 โคมแล้ว จึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Earth ทีมจะต้องไปที่สวนยูธ เพื่อเข้าร่วมในประเพณีท้องถิ่นที่ใช้ในการลดความเครียด โดยทีมจะต้องถอดรองเท้าแล้วเดินเท้าเปล่า ไปตามทางยาว 220 ฟุตที่โรยด้วยหินปุ่มป่ำ แล้วเดินกลับมา ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับงานเพิ่มเติมของทีเคกับราเชล พวกเขาจะต้องสวมเครื่องป้องกันแล้ววิ่งผ่านดอกไม้ไฟ ที่ระดมจุดใส่พวกเขา หลังจากพวกเขาวิ่งผ่านดอกไม้ไฟและโดนราดด้วยน้ำ พวกเขาจึงจะสามารถแข่งต่อได้

ภารกิจเสริม
  • ที่อาคารอูเมดะสกาย ทีมจะต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นดาดฟ้า เพื่อไปยังสวนลอยฟ้า แล้วค้นหาคำใบ้ต่อไป
  • ที่ร้านขายชาจีเค ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องดึ่มชาที่จะมีคำใบ้ภาษาจีนซ่อนอยู่ก้นแก้ว เพื่อไปยังสถานที่ต่อไป คำใบ้บอกให้พวกเขาไปที่ตลาดกลางคืนกงกว่าน และหาตัวตลก ที่จะมอบคำใบ้ต่อไปให้กับพวกเขา

เลก 11 (ไต้หวัน → สหรัฐอเมริกา)

เมืองแองคอเรจ เป็นเมืองสุดท้ายในการแข่งขัน ดิ อะเมซิ่ง เรซ ฤดูกาลที่ 12

ในทางแยกสุดท้ายของการแข่งขันนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ผ่าปลาค็อด (Cut The Cod) และ จับปู (Grab the Crab) โดยทีมที่เลือก Cut The Cod จะต้องผ่าปลาค็อดหนัก 50 ปอนด์ และหาคำใบ้ขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในตัวปลา สำหรับทีมที่เลือก Grab The Crab ทีมจะต้องหาปู จากบ่อปูในเรือที่มีปูมากกว่า 500 ตัว โดยทีมจะต้องหาปูตัวที่มี Race Marker ติดอยู่เพื่อนำไปแลกกับคำใบ้ต่อไปจากผู้ดูแล ในอุปสรรคสุดท้ายในการแข่งขันนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะได้พบกับสิ่งของที่มีการใช้ในการแข่งขันทั้งหมด จำนวน 15 ชิ้นในเลกต่าง ๆ โดยสมาชิกของทีมจะต้องวางสิ่งของ 10 ชิ้นบนแท่นวางที่กำหนดให้เพื่อทำให้กล่องคำใบ้เปิด โดยสิ่งของทั้งสิบชิ้นนี้จะต้องตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้ (ซึ่งแม้ว่าจะมีหลายวิธีที่จะทำให้ตรงกับเงื่อนไขใด ๆ ในสองข้อนี้ แต่มีของเพียงสิบชิ้นเท่านั้นที่ตรงกับเงื่อนไขทั้งสองข้อ)

  • ในสิ่งของ 10 ชิ้นนั้น แต่ละชิ้นจะมาจากหนึ่งช่วงเท่านั้นในการแข่งขัน
  • มีสิ่งของ 3 ชิ้นที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ มีสิ่งของ 1 ชี้นเป็นแท่นย้อนกลับ (U-Turn) มีสิ่งของ 2 ชิ้นที่อยู่ที่จุดหยุดพักอยู่แล้ว หรือทีมจะต้องนำมันมาที่จุดหยุดพัก มีสิ่งของ 2 ชิ้นที่เป็นยานพาหนะ ที่มีล้อ มีสิ่งของอยู่ 1 ชิ้นที่ใช้ในการทำทางแยก และสิ่งของ 1 ชิ้นสุดท้ายมีลักษณะคล้าย ๆ ไม้ต่อขาสำหรับเดิน
ภารกิจเสริม
  • ที่ร้าน 6th Avenue Outfitters ทีมจะต้องไปรับอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมต่อไป พร้อมกับคำใบ้ต่อไป
  • ที่แม่น้ำ 20 ไมล์ ทีมจะต้องนั่งเรือเร็วไปที่ 20-Mile Glacier เมื่อไปถึงทีมจะต้องปีนกำแพงน้ำแข็งเพื่อไปเอาคำใบ้ต่อไป เมื่อเสร็จแล้วทีมจะต้องไปที่ทุ่ง Merrill โดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อแข่งต่อไป

แหล่งที่มา

WikiPedia: ดิอะเมซิ่งเรซ_12 http://www.allamericanpatriots.com/48736760_media_... http://amazingracewiki.cbs.com/ http://www.cbs.com/primetime/amazing_race/?season=... http://www.cbs.com/primetime/amazing_race_applicat... http://www.cbs.com/primetime/amazing_race_applicat... http://www.thenateandjenspot.citymax.com/ http://www.ebharatgas.com/ebgas/pages/index.jsp http://www.msnbc.msn.com/id/21981110/ http://www.ocregister.com/news/says-erwin-rosales-... http://www.realitynewsonline.com/cgi-bin/ae.pl?mod...