สงครามพิวนิก เป็นสงครามสามครั้งระหว่าง
โรมกับ
คาร์เธจ เกิดขึ้นระหว่างปี 264 ก่อนคริสตกาลถึงปี 146 ก่อนคริสตกาล
[1] คำว่า "พิวนิก" มาจากพิวนิคัส (Punicus) อันเป็นคำที่ใช้เรียกชาวคาร์เธจ ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาว
ฟินีเชีย[2] มูลเหตุหลักของสงครามมาจากการแย่งชิงความเป็นใหญ่เหนือ
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก ซึ่งในขณะนั้นโรมแผ่อิทธิพลไปทั่ว
คาบสมุทรอิตาลี ในขณะที่คาร์เธจมีกองเรือที่เข้มแข็งที่สุด
สงครามครั้งแรกเริ่มขึ้นในปี 264 ก่อนคริสตกาล เมื่อโรมเข้าแทรกแซงความขัดแย้งบน
เกาะซิซิลีของคาร์เธจ ชัยชนะของฝ่ายโรมันใน
ยุทธการที่อากรีเจนตัมทำให้โรมันยึดเกาะซิซิลีไว้ได้เกือบทั้งหมด ต่อมาฝ่ายโรมันซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์การรบทางเรือใช้วิธีการรบบนบกที่พวกตนชำนาญเอาชนะคาร์เธจได้ใน
ยุทธนาวีไมไล ฝ่ายคาร์เธจโต้กลับด้วยทหารรับจ้างชาวสปาร์ตาจนสามารถจับตัว
มาร์คัส แอทิลิอุส เรกูลุส แม่ทัพฝ่ายโรมันได้ ฝ่ายโรมันจึงล่าถอยไปที่ซิซิลี หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายผลัดกันแพ้ชนะจนในปี 241 ก่อนคริสตกาล ทัพเรือโรมันชนะฝ่ายคาร์เธจที่
หมู่เกาะอีกาเดียนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซิซิลี ฝ่ายคาร์เธจซึ่งไม่มีกำลังสนับสนุนยอมจำนนและลงนามในสนธิสัญญาลูทาชิอุส ต้องเสียซิซิลีและค่าปฏิกรรมสงครามให้ฝ่ายโรมัน
[3]ปี 240 ก่อนคริสตกาล เกิด
สงครามทหารรับจ้าง (Mercenary War) ขึ้นในคาร์เธจ ทำให้คาร์เธจเสีย
คอร์ซิกาและ
ซาร์ดิเนียให้โรม การเสียเมืองท่าสำคัญทำให้
แฮมิลการ์ บาร์กา แม่ทัพชาวคาร์เธจยกทัพไปคาบสมุทรไอบีเรียเพื่อสร้างเมืองใหม่
[4] ก่อนจะล้อมเมืองซากุนตัมของโรม ศึกครั้งนี้ทำให้เกิด
สงครามพิวนิกครั้งที่สอง แฮนนิบัล บุตรของแฮมิลการ์ฉวยโอกาสตอนที่โรมกำลังทำสงครามกับชาวอิลีเรียเดินทัพจากไอบีเรีย ข้าม
เทือกเขาแอลป์มายังตอนเหนือของอิตาลีและรบชนะใน
ยุทธการที่กันไน ทำให้ทัพคาร์เธจมีโอกาสเข้าใกล้กรุงโรม
[5] แต่กำลังที่เหลือน้อยทำให้แฮนนิบัลไม่สามารถบุกเข้ากรุงโรมได้โดยตรง
[6] ด้านฝ่ายโรมันนำโดย
ซิปพิโอ แอฟริกานัสตีโต้ฝ่ายคาร์เธจจนแฮนนิบัลต้องถอนทัพกลับไปยังไอบีเรียและแอฟริกาเหนือ ในปี 202 ก่อนคริสตกาล โรมเอาชนะคาร์เธจใน
ยุทธการที่ซามา ทำให้คาร์เธจยอมแพ้ในปีต่อมา คาร์เธจถูกสั่งให้จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามและห้ามทำสงครามโดยปราศจากการยินยอมจากโรม
[7]ปี 151 ก่อนคริสตกาล ชาวนูมิเดียล้อมเมืองโอรอสโคปาของคาร์เธจ ทำให้คาร์เธจต้องยกทัพไปปราบ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โรมมองว่าคาร์เธจละเมิดสนธิสัญญาและประกาศ
สงครามครั้งที่สามกับคาร์เธจ คาร์เธจพยายามขอเจรจาแต่ภายหลังยกเลิกเนื่องจากข้อเรียกร้องที่ไม่เป็นธรรมของโรม คาร์เธจสามารถยันทัพโรมันได้ถึงปี 146 ก่อนคริสตกาล ก่อนฝ่ายโรมันจะบุกเข้ากรุง
คาร์เธจได้สำเร็จ พวกเขาเผาเมืองและจับชาวเมืองเป็นทาส แล้วผนวกคาร์เธจเป็น
จังหวัดแอฟริกา[8]ชัยชนะของโรมในสงครามพิวนิก รวมถึงการพิชิตมาซิดอนใน
สงครามมาซิโดเนียและการปราบ
พระเจ้าแอนทิโอคัสมหาราชใน
สงครามโรมัน–ซิลูซิด ทำให้โรมกลายเป็นมหาอำนาจเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 5