ชาดและฝรั่งเศสชนะ
สงครามโตโยตา (
อาหรับ: حرب تويوتا, อักษรโรมัน: Ḥarb Tūyūtā,
ฝรั่งเศส: Guerre des Toyota) หรือ
มหาสงครามโตโยตา[9] เป็นช่วงท้ายของ
ความขัดแย้งชาด–ลิเบียที่เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1987 สงครามสู้รบทางเหนือของ
ชาดและพรมแดนชาด–
ลิเบีย สงครามนี้ได้ชื่อมาจากรถกระบะ
โตโยต้า โดยเฉพาะ
โตโยต้า ไฮลักซ์และ
โตโยต้า แลนด์ครูเซอร์ที่ทหารชาดใช้ในการเคลื่อนพลและต่อสู้กับฝ่ายลิเบีย
[10] สงครามโตโยตาจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของลิเบีย ซึ่งแหล่งข้อมูลอเมริกันระบุว่าลิเบียเสียทหาร 7,500 คน คิดเป็นหนึ่งในสิบของกองทัพ และยุทโธปกรณ์เสียหายหรือถูกยึดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
[11] ขณะที่ฝ่ายชาดเสียทหารเพียง 1,000 คน
[8]สงครามโตโยตาเริ่มขึ้นเมื่อลิเบียยึดครองตอนเหนือของชาดใน ค.ศ. 1983 หลัง
มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียปฏิเสธไม่ยอมรับความชอบธรรมของ
ฮิเซน ฮาเบร ประธานาธิบดีชาด ฝ่ายลิเบียได้รับการสนับสนุนทางทหารจากกลุ่ม
รัฐบาลเปลี่ยนผ่านแห่งชาติ (GUNT) ในการโค่นล้มฮาเบร แต่แผนการนี้ล้มเหลวเมื่อ
ฝรั่งเศสเข้าแทรกแซงใน
ปฏิบัติการมันตาและ
ปฏิบัติการเอแปร์วีเยที่หยุดยั้งการรุกของลิเบียไว้ที่เหนือ
เส้นขนานที่ 16 องศาเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งและมีคนอาศัยอยู่น้อยของชาด
[12]ค.ศ. 1986 กลุ่ม GUNT ขัดแย้งกับกัดดาฟี ทำให้ลิเบียเสียความชอบธรรมในการคงกำลังทหารในชาด ฮาเบรฉวยโอกาสนี้สั่งยกทัพข้ามเส้นขนานที่ 16 ในเดือนธันวาคม
[13] ภายในสามเดือน ฮาเบรที่ใช้ยุทธวิธีกองโจรและการสงครามตามแบบสามารถยึดพื้นที่ทางเหนือคืนจากลิเบียได้เกือบทั้งหมด
[14] ชาดกับลิเบียตกลงหยุดยิงในเดือนกันยายน ค.ศ. 1987 แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงเรื่องข้อพิพาท
ฉนวนเอาซู จนใน ค.ศ. 1994
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินให้ฉนวนเอาซูเป็นของชาด