การประชุมใหญ่โลกครั้งที่สาม ของ สากลที่สี่

การประชุมใหญ่โลกครั้งที่สามในปี 1951 มีข้อสรุปว่าเศรษฐกิจและรัฐบาลของรัฐยุโรปตะวันออกมีความคล้ายคลึงกับสหภาพโซเวียตมากขึ้นเรื่อย ๆ รัฐเหล่านั้นจึงถูกอธิบายว่าเป็นรัฐกรรมกรวิรูปในแนวเดียวกันกับรัฐกรรมกรเสื่อมสภาพในรัสเซีย ทั้งนี้ ที่ใช้คำว่า วิรูป แทนคำว่า เสื่อมสภาพ เพราะไม่มีการปฏิวัติของกรรมกรที่นำไปสู่การก่อตั้งรัฐเหล่านั้น[45]

การประชุมใหญ่โลกครั้งที่สามเล็งเห็นว่ามีความเป็นไปได้ส่วนหนึ่งของ "สงครามกลางเมืองระหว่างประเทศ" ในอนาคตอันใกล้[46] และให้เหตุผลว่าพรรคคอมมิวนิสต์มวลชน "อาจไปไกลกว่าเป้าหมายที่ระบบข้าราชการประจำโซเวียตตั้งไว้ให้กับพรรคและวางโครงการการปรับแนวปฏิวัติ ภายใต้เงื่อนไขที่เอื้ออำนวยบางอย่าง" เมื่อคำนึงถึงโอกาสเกิดสงครามในไม่นาน FI คิดว่าพรรคคอมมิวนิสต์และพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมจะเป็นกำลังที่สำคัญเพียงอย่างเดียวที่สามารถคุ้มครองกรรมกรของโลกต่อค่ายจักรวรรดินิยมในประเทศซึ่งค่ายนั้นมีกำลังมหาศาลได้[47] โดยสอดคล้องกับทัศนะภูมิรัฐศาสตร์นี้ ปาโบลแย้งว่าทางเดียวที่นักลัทธิทรอตสกีสามารถหลีกเลี่ยงการแยกอยู่โดดเดี่ยวคือภาคส่วนต่าง ๆ ของสากลที่สี่ในระยะยาวจะต้องดำเนินการเข้าร่วม (entryism) ในพรรคการเมืองคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตยสังคมนิยมมวลชน[48] ยุทธวิธีนี้เรียกว่า ลัทธิเข้าร่วมที่มีลักษณะเฉพาะตัว เพื่อแยกแยะวิธีนี้กับยุทธวิธีเข้าร่วมกับพรรคอื่นระยะสั้นที่ใช้ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวอย่างเช่น หมายความว่าโครงการสร้างพรรคการเมืองนักลัทธิทรอตสกีอย่างเปิดเผยและเป็นอิสระถูกพับไปในประเทศฝรั่งเศส เพราะถูกมองว่าไม่มีความเป็นไปได้ทางการเมืองเมื่อมีพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสแล้ว

ทัศนะดังกล่าวได้รับการยอมรับภายในสากลที่สี่ แต่ก็ได้หว่านเมล็ดพันธุ์สำหรับการแตกแยกในปี 1953 ณ การประชุมใหญ่โลกครั้งที่สาม ภาคส่วนดังกล่าวตกลงกับทัศนะของสงครามกลางเมืองระหว่างประเทศ ภาคส่วนฝรั่งเศสไม่เห็นด้วยกับยุทธวิธีลัทธิเข้าร่วมที่มีลักษณะเฉพาะตัว และถือว่าปาโบลกำลังประเมินบทบาทอิสระของพรรคชนชั้นกรรมกรในสากลที่สี่ต่ำเกินไป ปีแยร์ ล็องแบร์ และมาร์แซล ไบลพ์ทร็อย หัวหน้าองค์การนักลัทธิทรอตสกีส่วนใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส ไม่ยอมรับแนวทางขององค์การสากล หัวหน้าองค์การสากลจึงเปลี่ยนตัวด้วยเสียงข้างน้อย ทำให้เกิดการแตกแยกถาวรในภาคส่วนฝรั่งเศส[49]

ในการประชุมใหญ่โลก แนวทางของหัวหน้าองค์การสากลโดยทั่วไปได้รับการยอมรับจากกลุ่มต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้ง SWP ซึ่งเจมส์ พี. แคนนอน หัวหน้าพรรค แลกเปลี่ยนสารกับฝ่ายข้างมากฝรั่งเศสเพื่อสนับสนุนยุทธวิธีลัทธิเข้าร่วมที่มีลักษณะเฉพาะตัว ทว่าในขณะเดียวกัน แคนนอน, ฮีลี และมันเดลมีความกังวลอย่างมากต่อวิวัฒนาการทางการเมืองของปาโบล แคนนอนและฮีลีก็กังวลกับการแทรกแซงของปาโบลเข้าไปในภาคส่วนฝรั่งเศส และกับนัยที่ว่าปาโบลอาจใช้อำนาจขององค์การสากลในทำนองเดียวกันกับส่วนอื่นของสากลที่สี่ที่รู้สึกว่าลัทธิเข้าร่วมที่มีลักษณะเฉพาะตัวไม่ใช่ยุทธวิธีที่เหมาะสมในประเทศของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวโน้มฝ่ายข้างน้อย เช่น จอห์น ลอว์เรนซ์ ในบริเตน และเบิร์ต ค็อกรัน ในสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนลัทธิเข้าร่วมที่มีลักษณะเฉพาะตัวได้บอกเป็นนัยว่าการที่ปาโบลสนับสนุนทัศนะของพวกเขาหมายความว่าองค์การสากลอาจร้องขอให้นักลัทธิทรอตสกีในประเทศเหล่านั้นให้รับยุทธวิธีนี้ไปใช้ด้วย[50]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สากลที่สี่ http://www.marx2mao.com/Stalin/ICRD28.html http://www.marxists.de/trotism/callinicos/2-2_cris... http://listserv.cddc.vt.edu/marxists/cd/cd1/Librar... http://listserv.cddc.vt.edu/marxists/history/etol/... http://www.istendency.net/pdf/Regroupment.pdf http://www.socialistworld.net/publications/history... http://www.bolshevik.org/history/Tr-breit.htm http://www.fifthinternational.org/LFIfiles/LFIcall... http://marx.org/history/etol/document/1930s/four.h... http://marxists.org/history/etol/writers/frank/wor...