จากการประชุมใหญ่โลกครั้งที่สี่จนถึงการกลับมารวมกันใหม่ ของ สากลที่สี่

ในช่วงทศวรรษถัดมา IC เรียกองค์การสากลส่วนที่เหลือว่า "สำนักเลขาธิการสากลของสากลที่สี่" เป็นการเน้นย้ำถึงทัศนะของตนว่าสำนักเลขาธิการไม่ได้เป็นตัวแทนขององค์การสากลทั้งหมด[54] สำนักเลขาธิการยังคงมองตนเองว่าเป็นผู้นำขององค์การสากล และจัดการประชุมใหญ่โลกครั้งที่สี่ในปี 1954 เพื่อจัดกลุ่มใหม่และเพื่อรับรองส่วนที่จัดระเบียบใหม่ในบริเตน ประเทศฝรั่งเศส และสหรัฐ

ส่วนต่าง ๆ ของคณะกรรมการสากลมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการแตกแยกกับ "ลัทธิปาโบล" ว่าเป็นสิ่งถาวรหรือชั่วคราว[55] และบางทีอาจเป็นผลของลัทธิดังกล่าวที่ไม่ได้ประกาศตนเป็นสากลที่สี่ ส่วนต่าง ๆ เหล่านั้นซึ่งถือว่าการแตกแยกเป็นการถาวรได้อภิปรายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความหมายของการแตกแยก

ส่วนต่าง ๆ ขององค์การสากลที่รับรองความเป็นผู้นำของสำนักเลขาธิการสากลยังมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของอิทธิพลทางการเมืองขององค์การสากลที่เพิ่มขึ้น และขยายลัทธิเข้าร่วมเข้าสู่พรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมที่กำลังดำเนินการอยู่ในบริเตน ออสเตรีย และที่อื่น ๆ การประชุมใหญ่ปี 1954 เน้นย้ำลัทธิเข้าร่วมเข้าสู่พรรคคอมมิวนิสต์และพรรคชาตินิยมในอาณานิคม กดดันเพื่อการปฏิรูปประชาธิปไตย โดยเห็นได้ว่าเพื่อกระตุ้นฝ่ายซ้ายที่พวกเขาเชื่อว่ามีอยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์ให้เข้าร่วมด้วยกับองค์การในการปฏิวัติ[56] ความตึงเครียดที่พัฒนาขึ้นระหว่างผู้ที่รับทัศนะกระแสหลักของปาโบลกับฝ่ายข้างน้อยที่โต้แย้งไม่สำเร็จต่อการทำงานอย่างเปิดเผย ผู้แทนเหล่านี้จำนวนหนึ่งเดินออกจากที่ประชุมใหญ่โลกและในที่สุดก็ออกจากองค์การสากล ได้แก่ผู้นำส่วนบริติช จอห์น ลอว์เรนซ์, จอร์จ คลาร์ก, มีแชล แม็สทร์ (ผู้นำส่วนฝรั่งเศส) และเมอร์รี เดาสัน (ผู้นำกลุ่มแคนาดา) เป็นต้น[57]

สำนักเลขาธิการจัดระเบียบการประชุมใหญ่โลกครั้งที่ห้าในเดือนตุลาคม 1957 มันเดลและปีแยร์ ฟร็องก์ ยกย่องการปฏิวัติแอลจีเรียและสรุปว่ามีความสำคัญในการปรับแนวทางในรัฐอาณานิคมและอาณานิคมใหม่ต่อการปฏิวัติที่มีกองโจรเป็นผู้นำที่กำลังเกิดขึ้น[58] ตามข้อมูลของรอเบิร์ต อเล็กซานเดอร์ นั้น แอร์เนสต์ มันเดล ได้เขียนเกี่ยวกับพรรคอาโจมา องค์การในประเทศอินโดนีเซียซึ่งสวามิภักดิ์ต่อ FI ตั้งแต่ปี 1959 จนถึงการปฏิวัติปี 1965[59]

การประชุมใหญ่โลกครั้งที่หกในปี 1961 มีการบรรเทาการแบ่งแยกทางการเมืองระหว่างผู้สนับสนุนฝ่ายข้างมากของสำนักเลขาธิการองค์การสากลกับผู้นำ SWP ในสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ประชุมใหญ่เน้นย้ำการสนับสนุนการปฏิวัติคิวบาและเน้นย้ำการสร้างพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นในประเทศจักรวรรดินิยม การประชุมใหญ่ครั้งที่หกยังวิจารณ์พรรคลังกาสมสมาชะ ส่วนของศรีลังกา เนื่องจากดูเหมือนสนับสนุนพรรคเสรีภาพศรีลังกาซึ่งพวกเขามองว่าเป็นพวกชาตินิยมกระฎุมพี[60]

ในปี 1962 IC และ IS ก่อตั้งคณะกรรมการความเสมอภาคเพื่อจัดระเบียบการประชุมใหญ่โลกร่วมกัน ผู้สนับสนุนมีแชล ปาโบล และฆวน โปซาดัส คัดค้านการรวมเข้าด้วยกัน ผู้สนับสนุนโปซาดัสออกจากองค์การสากลในปี 1962[60] ในที่ประชุมใหญ่รวมเข้ากันใหม่ในปี 1963 ส่วนของ IC และ IS รวมเข้าด้วยกันใหม่ (มีสองข้อยกเว้น คือ ส่วนบริติชและฝรั่งเศสของ IC)[61] ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการสนับสนุนร่วมกันต่อข้อมติ พลวัตของการปฏิวัติโลกวันนี้ ของแอร์เนสต์ มันเดล และโจเซฟ แฮนเซน และต่อการปฏิวัติคิวบา เอกสารนี้แยกแยะระหว่างภารกิจปฏิวัติต่าง ๆ ในประเทศจักรวรรดินิยม "รัฐกรรมกร" และประเทศอาณานิคมและกึ่งอาณานิคม[62] ในปี 1963 องค์การสากลที่สี่ที่รวมกันใหม่เลือกตั้งสำนักเลขาธิการเอกภาพของสากลที่สี่ (USFI) ซึ่งเป็นชื่อที่องค์การทั้งหมดมักนิยมให้เรียกอยู่

แหล่งที่มา

WikiPedia: สากลที่สี่ http://www.marx2mao.com/Stalin/ICRD28.html http://www.marxists.de/trotism/callinicos/2-2_cris... http://listserv.cddc.vt.edu/marxists/cd/cd1/Librar... http://listserv.cddc.vt.edu/marxists/history/etol/... http://www.istendency.net/pdf/Regroupment.pdf http://www.socialistworld.net/publications/history... http://www.bolshevik.org/history/Tr-breit.htm http://www.fifthinternational.org/LFIfiles/LFIcall... http://marx.org/history/etol/document/1930s/four.h... http://marxists.org/history/etol/writers/frank/wor...